JJNY : 'หยก'ไปโรงเรียนครั้งที่4│กัณวีร์สงสัย‘ดอน’อดใจไม่ได้?│ตั้งรบ.ใหม่ช้า ฉุดจีดีพี│ด่วน! แผ่นดินไหว 6.0 รับรู้แรงสั่น

'หยก' ไปโรงเรียน ครั้งที่ 4 ยืนยันต้องได้เรียน ลั่นจะศึกษาที่นี่ ก้าวไกล เตรียมคุยหาทางออก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7721147

‘หยก’ ไปโรงเรียน ครั้งที่ 4 ยืนยันต้องได้เรียน ลั่นจะศึกษาที่นี่ เพราะสอบได้ ก้าวไกล เตรียมคุยกับโรงเรียน เพื่อช่วยกันหาทางออกในเรื่องนี้
 
ความคืบหน้า กรณี หยก ธนลภย์ เยาวชน วัย 15 ปี ที่มีปัญหากับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจาณ์ในเรื่องนี้อย่างดุเดือด ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับวิธีเรียกร้องของ หยก และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.2566 หยก เดินทางไปที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พร้อม บุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง เพื่อยืนยันว่าจะเข้าเรียนให้ได้ตามปกติ เป็นครั้งที่ 4
 
หยก ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปโรงเรียนว่า วันนี้ขอมาชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการมอบตัว ว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.66 มามอบตัว และจ่ายค่าเทอมแล้ว ซึ่งคณะกรรมการเพื่อสิทธิมนุษยชน (กสม.) ก็ช่วยยืนยัน โดยได้เรียนผ่านมา 1 เดือน จนกำลังจะมีการสอบ แต่โรงเรียนกลับมาปฏิเสธสถานะการเป็นนักเรียนของตน
  
หยก กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงต้องมีจุดเริ่มต้น ถ้าไม่เริ่มวันนี้ แล้วจะไปเริ่มวันไหน ที่ผ่านมา 10 ปีก่อน เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ก็เคยทำ 1-3 ปีที่แล้ว นักเรียนเลวก็ทำ หนูไม่ใช่จุดเริ่มต้น มีคนทำมานานแล้ว แต่ในเวลานี้ หนูแสดงออกในแบบนี้ แต่ทุกคนมองว่าเร็วเกินไปหรือเปล่า สุดท้ายขอบอกว่า ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ แล้วจะให้เริ่มเมื่อไหร่
 
”หนูจะศึกษาที่นี่ต่อไป เพราะสอบได้ที่นี่ ทาง กสม. ก็ยืนยัน โดยยอมรับว่า ได้ปรึกษากับผู้ใหญ่บางฝ่าย เพื่อช่วยประสานกับทางโรงเรียน”
 
หยก กล่าวต่อว่า กว่าที่พรรคก้าวไกลจะออกแถลงการณ์ ตนก็ปีนรั้วโรงเรียนมาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งที่เรื่องทรงผม และเครื่องแต่งกายก็เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคก้าวไกลด้วย
 
ด้าน บุ้ง เนติพร ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบว่าวันนี้ จะมีตัวแทนจากพรรคก้าวไกลมาสังเกตการณ์ และ พูดคุยกับโรงเรียน ทั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิษร และ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล มาพูดคุยหารือเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้มีกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ และกำลังจากชุดควบคุมฝูงชนหญิง เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในโรงเรียนด้วย



กัณวีร์ สงสัย ‘ดอน’ อดใจรอรัฐบาลใหม่ไม่ได้? ชวนจับตาประชุมเรื่องเมียนมาในไทยพรุ่งนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4035933

กัณวีร์ สงสัย ‘ดอน’ อดใจรอรัฐบาลใหม่ไม่ได้? จัดประชุมเรื่องเมียนมาในไทย 19 มิ.ย. ยืนยันจับตาดูอยู่ ขนาด ‘อินโด’ ปธ.อาเซียน ยังไม่ร่วม
 
จากกรณีที่ ประเทศไทย จะจัดการประชุมพบปะแบบสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมาในวันพรุ่งนี้ (19 มิถุนายน) พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการประชุมในกรอบอาเซียน แต่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาเมียนมา เบื้องต้นการประชุมครั้งนี้จะมีผู้แทนระดับสูงจาก ลาว กัมพูชา เมียนมา อินเดีย จีน บรูไน เวียดนาม เข้าร่วม
 
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่าไม่ได้จัดประชุมอาเซียน แต่เชิญประเทศที่เป็นเพื่อนเมียนมาให้มารับทราบข้อมูลและพัฒนาการล่าสุดจากรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา และไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ 3
 
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายกัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเป็นธรรม ระบุถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลรักษาการของไทยอดใจรอรัฐบาลใหม่สักหน่อยไม่ได้เหรอ!! ยังเดินหน้าจัดการประชุมลับเรื่องเมียนมาที่ประเทศไทยวันพรุ่งนี้ แม้ภาคประชาสังคมเมียนมา-ไทย 546 องค์กรเรียกร้องให้ยกเลิกในทันที และรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ปฏิเสธเข้าร่วมประชุม รวมถึง สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

ผมยังคงติดตามการประชุมลับที่รัฐบาลรักษาการของไทย โดย คุณดอน ปรมัตถุ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังเดินหน้าจัดการประชุมที่ระบุว่าเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเพื่อสันติภาพเมียนมา ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นการประชุมลับไม่ระบุสถานที่และเวลา โดยมี 7 ชาติเข้าร่วม คือ ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม บรูไน อินเดีย และ จีน ซึ่งระบุว่าเป็นสมาชิกอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาที่ได้รับผลกระทบ
 
แต่ในการประชุมครั้งนี้ อินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ปฏิเสธเข้าร่วมและยังบอกอีกว่าในระดับผู้นำอาเซียนไม่ได้เห็นตรงกันว่าจะคุยเรื่องนี้ต่อ และรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะคุยกันในเดือนหน้า ถ้าในภาษาทั่วไปก็น่าจะหมายถึงการผิดมารยาททางการทูต รวมถึงจดหมายปฏิเสธของมาเลเซียก็เห็นว่ามีการหารือในระดับอาเซียนแล้ว

วันพรุ่งนี้คงต้องติดตามประเด็นนี้ด้วยครับ เพราะในขณะนี้พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่รัฐคะเรนนี มีการสู้รบ มีผู้หนีภัยการสู้รบมายังประเทศไทยกว่า 3,000 คนแล้ว
 
อย่างที่ผมบอกไปครับ ไทยควรจะทำบทบาทตัวเองด้านมนุษยธรรม Humanitarian Corridor ต่อสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมาให้ดีเสียก่อน และตามมารยาทก็ต้องรอให้รัฐบาลใหม่มาทำ อดใจรออีกนิดเดียวครับ
 
พร้อมกันนี้ นายกัณวีร์ยังแนบ แถลงการณ์ภาคประชาสังคมเมียนมาประณามรัฐบาลรักษาการของไทยจัดประชุมลับเรื่องเมียนมา จี้ยกเลิกทันที รวมถึงคำชี้แจงล่าสุดจาก กระทรวงการต่างประเทศ


 
“พรายพล” ชี้ ตั้งรัฐบาลใหม่ช้า ฉุด จีดีพีปีนี้โต 3%
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_569016/

“พรายพล” นักวิชาการอิสระ ระบุการตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า กระทบเศรษฐกิจ ฉุด จีดีพีปีนี้โต 3% ขณะยอดจีนเที่ยวไทยอาจไม่เป็นไปตามเป้า
 
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยแน่ หากรัฐบาลใหม่จัดตั้งล่าช้า ซึ่งกระทบต่อการตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่างๆ รวมถึงการขับเคลื่อนงบประมาณ การลงทุน การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ อีกทั้งความล่าช้าที่เกิดขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 3 และถ้ามีการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ได้รัฐบาลช้าเข้าไปอีก เกิดความไม่มั่นใจในหลายๆ ฝ่ายมากขึ้น ขณะที่ต่างชาติก็จะสับสนกับประเทศไทย
 
ทั้งนี้มองว่าการท่องเที่ยวยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยอาจจะหวังได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนในขณะนี้ก็ไม่ค่อยดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่