ฉันใช้ชีวิตอยู่กับความวุ่นวายท่ามกลางปัญหาของครอบครัว ฉันไม่เคยรู้สึกได้ความรับความรักหรือความอบอุ่นจากที่บ้าน ฉันมีชีวิตในวัยเด็กอยู่กับความหวาดกลัวและ การทะเลาะและการโดนดูถูกในเรื่องเพศภาพและศักยภาพจากครอบครัวของตัวเอง ทั้งพ่อและแม่ต่างมีคนรักใหม่ทั้งคู่ ฉันจึงต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนเหมือนฉันไม่มีตัวตน
ฉันต้องย้ายบ้านไปๆมาๆ อยู่กับญาติพี่น้องคนอื่น อยู่กับการปัดความรับผิดชอบ ว่าใครควรจ่ายเงินในส่วนของค่าเลี้ยงดู หรือได้ยินสิ่งแย่ๆทุกวัน ว่าใครดีกว่าใคร ย้ายบ้านไปเรื่อยๆ จนฉันเรียนไม่ทันเรียนไม่รู้เรื่องและมีเพื่อนน้อยมาตั้งแต่เด็ก
ฉันใช้ความพยายามและความสามารถเพื่อเรียนต่อในช่วงมัธยมต้นถึงปลาย โดยมีความฝันว่าหลังจากที่เราเรียนจบเราจะไปเรียนมหาลัยและอยากทำงานงานที่ตัวเองใฝ่ฝันไว้
ในช่วงที่เราพยายามอยู่ในทุกๆวัน ตั้งใจเรียนให้จบ เราก็โดนคำดูถูกต่างๆสาดมามากมาย จากเพื่อน ครอบครัว ในเรื่องเพศสภาพของเรา ว่าเราคงไม่มีวันเรียนจบได้ เราจึงพยายามพิสูจน?ตัวเองในทุกๆวัน ให้เขาเห็นว่าเราดีพอในสายตาเขา จนมาถึงวันนี้ว วันที่เราได้ทำงานที่เราอยากทำแต่เราไม่เคยได้รับประโยคดีๆ หรือความดีใจต่างๆจากครอบครัวเราเลย พูดถึงแต่จำนวนเงินและการยินดีแบบไม่ได้ออกมาจากมใขนาดนั้น และเราก็ยังคงรู้สึกไม่ดีพอเลยในสายตาคนในครอบครัวรวมถึงตัวฉันเองด้วย_ก
ฉันโหยหาความรักมาก เพราะไม่เคยได้ร้บจากใครในครอบครัวเลย เราโตมาจากการโดนเลี้ยงด้วยคำพูดแย่ๆ"เพียงเพราะเขาคิด ต้องกดดันถึงจะได้ดี" แต่เราคิดว่าไม่ใช่ เขาไม่เคยทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว
ทุกๆครั้งที่เรามีแฟน เราจะคาดหวังและใส่ใจเขาเป็นพิเศษอย่างมาก คิดไปถึงอนาคตที่จะอยู่ด้วยก้น เพื่อหนีจากสิ่งต่างๆรอบตัว แล้วคงได้มีความสุขในชีวิตสักที
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครคิดถึงเราขนาดนั้น ทุกคนผ่านมาและผ่านไป ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรามันไม่เคยแน่นอน จนตัวเองไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปผูกไว้กับอะไรดี เพราะไม่มีใครอยากจะมีเราอยู่ในชีวิตเขาจริงๆ ตัวเรานั้นรู้สึกเหมือนเป็น left over ที่ใครๆก็อยากจะปัดออกไป เหมือนเกิดมาจากความผิดพลาดของครอบครัว และไม่มีใครต้องการ
ชีวิตของเรานั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนถึงวันนี้ วันที่เราไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป บางคนก็บอกว่าให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง "แต่เราก็จะถามตัวเองว่า อยู่เพื่อตัวเองแล้วอยู่ยังไงต่ออีก" บ้างก็บอกว่าหากิจกรรมทำอยู่กับครอบครัวอยู่กับเพื่อน กับแฟน "แต่ทุกๆคนล้วนมีชีวิตเป็นของตัวเองมีครอบครัวใหม่ มีพ่อแม่ มีคนสำคัญที่พวกเขาจะต้องดูแล" แต่ต่างจากเราที่ไม่มีใครต้องการหรือต้องดูแลใคร
ถ้าทุกคนจ้องเขามาในตาของเรา ในตาของเรานั้นว่างเปล่ามาก ไม่มีแม่แต่ความสุข มีแค่รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะ ที่แกล้งและสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ในทุกๆวัน
เราถามตัวเองในทุกๆวันว่า เราใช้ชีวิตต่อไปทำไมถ้าไม่มีความสุขเลย ถ้าโลกหลังความตายมีอยู่จริง อยู่กับตาย อยู่ตรงไหนก็ไม่มีความสุขอยู่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ไหม อย่างน้อยก็ได้เสี่ยงดูว่าหลังจากตายไปแล้วอาจจะหายไปเลยหายไปแล้วไม่กลับมาอีกเลยก็เป็นไปได้
เราใช้ชีวิตอยู่เพื่อนวนลูปเดิมๆ รออายุไขของตัวเองจมไปเรื่อย รอกระเษียน รอรัก รอการเลิกรัก รอการเสียใจ รอการเริ่มใหม่ รอการจุดจบของชีวิตไปเรื่อยๆแบบนี้
เราเคยคิดว่าเราอยากมีใครเหนี่ยวรั้งเราไว้บ้างเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตหน้าเบื่อๆพวกนี้ และได้เจออะไรที่เราไม่เคยเจอต่อไป
แต่ในวันนี้เราไม่มีใคร และเราไม่อยากมีใคร และคงไม่มีใครเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ดีกว่าตัวเรา เพราะฉะนั้นแล้ว หากตัวเราเองนั้น เลือกที่จะไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ก็อยากจะบอกกับทุกคนว่าขอบคุณที่ได้รู้จักกัน ขอบคุณที่ได้เป็นเพื่อนครอบครัว คนรักของเรา เรารู้สึกซึ้งใจที่ได้มีความทรงจำดีๆมากมาย มีเรื่องแย่ๆบ้างก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนเคารพการติดสินใจของฉันว่าชีวิตของฉันในครั้งนี้ ฉันได้พบเจอและอิ่มกับสิ่งต่างๆมากน้อยเพียงไหน
ได้มีความรัก ได้มีความสุข ได้มีเสียงห้วเราะ แต่สิ่งที่มันไม่เคยหายไปคือความทุกข์ในตัวฉันที่มันยังอยู่ตลอดไป
ฉันโดนละทิ้งจากคนรักและครอบครัวของฉัน
ฉันต้องย้ายบ้านไปๆมาๆ อยู่กับญาติพี่น้องคนอื่น อยู่กับการปัดความรับผิดชอบ ว่าใครควรจ่ายเงินในส่วนของค่าเลี้ยงดู หรือได้ยินสิ่งแย่ๆทุกวัน ว่าใครดีกว่าใคร ย้ายบ้านไปเรื่อยๆ จนฉันเรียนไม่ทันเรียนไม่รู้เรื่องและมีเพื่อนน้อยมาตั้งแต่เด็ก
ฉันใช้ความพยายามและความสามารถเพื่อเรียนต่อในช่วงมัธยมต้นถึงปลาย โดยมีความฝันว่าหลังจากที่เราเรียนจบเราจะไปเรียนมหาลัยและอยากทำงานงานที่ตัวเองใฝ่ฝันไว้
ในช่วงที่เราพยายามอยู่ในทุกๆวัน ตั้งใจเรียนให้จบ เราก็โดนคำดูถูกต่างๆสาดมามากมาย จากเพื่อน ครอบครัว ในเรื่องเพศสภาพของเรา ว่าเราคงไม่มีวันเรียนจบได้ เราจึงพยายามพิสูจน?ตัวเองในทุกๆวัน ให้เขาเห็นว่าเราดีพอในสายตาเขา จนมาถึงวันนี้ว วันที่เราได้ทำงานที่เราอยากทำแต่เราไม่เคยได้รับประโยคดีๆ หรือความดีใจต่างๆจากครอบครัวเราเลย พูดถึงแต่จำนวนเงินและการยินดีแบบไม่ได้ออกมาจากมใขนาดนั้น และเราก็ยังคงรู้สึกไม่ดีพอเลยในสายตาคนในครอบครัวรวมถึงตัวฉันเองด้วย_ก
ฉันโหยหาความรักมาก เพราะไม่เคยได้ร้บจากใครในครอบครัวเลย เราโตมาจากการโดนเลี้ยงด้วยคำพูดแย่ๆ"เพียงเพราะเขาคิด ต้องกดดันถึงจะได้ดี" แต่เราคิดว่าไม่ใช่ เขาไม่เคยทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว
ทุกๆครั้งที่เรามีแฟน เราจะคาดหวังและใส่ใจเขาเป็นพิเศษอย่างมาก คิดไปถึงอนาคตที่จะอยู่ด้วยก้น เพื่อหนีจากสิ่งต่างๆรอบตัว แล้วคงได้มีความสุขในชีวิตสักที
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครคิดถึงเราขนาดนั้น ทุกคนผ่านมาและผ่านไป ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรามันไม่เคยแน่นอน จนตัวเองไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปผูกไว้กับอะไรดี เพราะไม่มีใครอยากจะมีเราอยู่ในชีวิตเขาจริงๆ ตัวเรานั้นรู้สึกเหมือนเป็น left over ที่ใครๆก็อยากจะปัดออกไป เหมือนเกิดมาจากความผิดพลาดของครอบครัว และไม่มีใครต้องการ
ชีวิตของเรานั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนถึงวันนี้ วันที่เราไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป บางคนก็บอกว่าให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง "แต่เราก็จะถามตัวเองว่า อยู่เพื่อตัวเองแล้วอยู่ยังไงต่ออีก" บ้างก็บอกว่าหากิจกรรมทำอยู่กับครอบครัวอยู่กับเพื่อน กับแฟน "แต่ทุกๆคนล้วนมีชีวิตเป็นของตัวเองมีครอบครัวใหม่ มีพ่อแม่ มีคนสำคัญที่พวกเขาจะต้องดูแล" แต่ต่างจากเราที่ไม่มีใครต้องการหรือต้องดูแลใคร
ถ้าทุกคนจ้องเขามาในตาของเรา ในตาของเรานั้นว่างเปล่ามาก ไม่มีแม่แต่ความสุข มีแค่รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะ ที่แกล้งและสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ในทุกๆวัน
เราถามตัวเองในทุกๆวันว่า เราใช้ชีวิตต่อไปทำไมถ้าไม่มีความสุขเลย ถ้าโลกหลังความตายมีอยู่จริง อยู่กับตาย อยู่ตรงไหนก็ไม่มีความสุขอยู่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ไหม อย่างน้อยก็ได้เสี่ยงดูว่าหลังจากตายไปแล้วอาจจะหายไปเลยหายไปแล้วไม่กลับมาอีกเลยก็เป็นไปได้
เราใช้ชีวิตอยู่เพื่อนวนลูปเดิมๆ รออายุไขของตัวเองจมไปเรื่อย รอกระเษียน รอรัก รอการเลิกรัก รอการเสียใจ รอการเริ่มใหม่ รอการจุดจบของชีวิตไปเรื่อยๆแบบนี้
เราเคยคิดว่าเราอยากมีใครเหนี่ยวรั้งเราไว้บ้างเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตหน้าเบื่อๆพวกนี้ และได้เจออะไรที่เราไม่เคยเจอต่อไป
แต่ในวันนี้เราไม่มีใคร และเราไม่อยากมีใคร และคงไม่มีใครเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ดีกว่าตัวเรา เพราะฉะนั้นแล้ว หากตัวเราเองนั้น เลือกที่จะไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ก็อยากจะบอกกับทุกคนว่าขอบคุณที่ได้รู้จักกัน ขอบคุณที่ได้เป็นเพื่อนครอบครัว คนรักของเรา เรารู้สึกซึ้งใจที่ได้มีความทรงจำดีๆมากมาย มีเรื่องแย่ๆบ้างก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนเคารพการติดสินใจของฉันว่าชีวิตของฉันในครั้งนี้ ฉันได้พบเจอและอิ่มกับสิ่งต่างๆมากน้อยเพียงไหน
ได้มีความรัก ได้มีความสุข ได้มีเสียงห้วเราะ แต่สิ่งที่มันไม่เคยหายไปคือความทุกข์ในตัวฉันที่มันยังอยู่ตลอดไป