ผมเพิ่งไปขลิบมาครับ ตามพี่ๆมาจากในพันทิพนี่แหละครับ
ตอนแรกกังวลมากเลยครับ คือผมมีปัญหาของหนังหุ้มปลายเป็นแผลแตก เป็นมาระยะนึงแล้วครับ เป็นๆหายๆ ตอนแรกก็กลัวมากเลยครับ เพราะไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ตอนแรกตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจก่อนครับว่าเป็นอะไรกันแน่ คุณหมอก็ให้ยามาทาและแนะนำให้ขลิบ แต่ผมกลัวการผ่าตัดมากๆเลยครับ
ผมเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการขลิบว่ามีกี่แบบ จนมาเจอการขลิบแบบไร้เลือด แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงอยู่ครับ ก็เริ่มเปรียบเทียบราคาหลายๆที่ ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าผมอยู่ต่างจังหวัด แล้วแถวบ้านผมไม่มีขลิบแบบที่ใช้อุปกรณ์ ถ้าจะขลิบก็ต้องเข้าไปขลิบที่โรงพยาบาลเท่านั้น ส่วนใหญ่เจอแถวในกรุงเทพฯ คือผมกลัวว่าจะขับรถไม่ไหวเพราะต้องขับรถเอง ผมเริ่มหาข้อมูลหลายๆที่ หาจากในเน็ตบ้าง google บ้าง จนมาเจอใน pantip ที่เกี่ยวกับการขลิบไร้เลือด แล้วไปเจอกับข้อความนึงที่ไปขลิบแถวมหาชัย ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่นั่นว่าชื่อคลินิกอะไร แล้วก็ได้ตัดสินใจทักเข้าไปสอบถามเพิ่มเติม ว่าจะเป็นแบบที่เขาว่ากันหรือเปล่า เริ่มศึกษามากขึ้นจนไปเจอคลิปในติ๊กต๊อก คลิปคุณหมอเหมยที่เป็นเจ้าของคลินิก แล้วเขาเคลมเลยว่าคุณหมอเหมยทำเองทุกเคส
ผมเริ่มติดตามมาสักพักดูเกือบทุกคลิปที่มี พูดง่ายๆยังทำใจเกี่ยวกับการขลิบไม่ได้เพราะยังกลัวเจ็บและกลัวว่าหลังขลิบจะขับรถไม่ไหว จนพักหลังแผลที่ปลายแตกเป็นไม่กี่วันก็หาย เริ่มเป็นหลายวันมากขึ้นและเจ็บจนไม่สามารถรูดทำความสะอาดได้ เลยตัดสินใจนัดคิวกับทางคลินิก จากที่บ้านผมไปที่คลินิกใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ทางคลินิกบอกว่าส่วนใหญ่จะขับรถกลับเองได้ ผมภาวนาไปตลอดทางว่าขอให้ผมเป็นกลุ่มคนที่ขับรถกลับเองไหว 555
พอถึงวัน เวลานัด ก็เข้าไปกรอกประวัติ กินยา เตรียมตัวขึ้นไปด้านบน โดยรวมที่คลินิกดูเป็นกันเองมากๆครับจากที่ผมทั้งอายด้วยทั้งกลัวด้วย ก็ทำให้ผมคลายกังวลขึ้นพอสมควรครับ เจ้าหน้าที่ที่คลินิกรวมถึงคุณหมออธิบายได้ดีและเข้าใจง่ายทุกขั้นตอน ผมเป็นคนกลัวเข็มมากๆ แต่ดีหน่อยที่ทางคลินิกปิดตาให้ผมเลยไม่เห็นตอนฉีดยาชา ยอมรับเลยครับว่าตอนฉีดยาชาแอบกังวลแต่มีรู้สึกเจ็บแต่ไม่ได้เยอะจนเกินไป สำหรับผม ผมว่าความรู้สึกเจ็บแบบทนได้นะครับ พอฉีดยาชาเสร็จคุณหมอก็ลองเทสดูว่าผมยังเจ็บตรงไหนอยู่บ้าง ถ้าตรงไหนที่ผมบอกยังพอรู้สึกอยู่คุณหมอก็จะฉีดยาชาให้เลย คุณหมอเหมยชวนคุย แถมให้ความรู้เกี่ยวกับการขลิบและวิธีการปฏิบัติตัวหลังการขลิบ คุยยังไม่ทันจบคุณหมอก็บอกว่าขลิบเสร็จแล้ว 555 ผมยังงงอยู่เลยครับว่าขลิบตอนไหน
สำหรับผมหลังขลิบรู้สึกแสบๆนิดหน่อยความรู้สึกเหมือนเป็นแผล น้องผู้ช่วยจะถามเป็นระยะว่าแสบมากเจ็บมากมั้ย ของผมตัดสินใจตัดเส้น 2 สลึงไปด้วยเลยเพราะหลังขลิบเส้น 2 สลึงค่อนข้างรั้ง คุณหมอได้เอากระจกให้ผมส่องดูเองเลยว่าเส้น 2 สลึง รั้งเป็นแบบไหน ก่อนตัดหลังตัดแตกต่างกันแบบสิ้นเชิงเลยครับ โดยรวมผมคิดว่าตัดสินใจถูกที่ลงทุนขับรถมา อย่างที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าขลิบไร้เลือดราคาค่อนข้างสูง พอดีตอนที่ผมไปทำมีโปรโมชั่นด้วยพอดี ถ้าเทียบกับหลายคลินิกที่ผมหามา ต่อให้จัดโปรโมชั่นแล้วบางที่ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ที่ผมเลือกมาทำที่นี่ส่วนหนึ่งเพราะเขาบอกว่าหลังการขลิบ ทางคลินิกจะติดตามจนกว่าแผลจะหายไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลแค่ไหน
ตอนแรกผมจะอยู่รอดูว่าหลังจากนี้จะปวดมากมั้ย เพราะตอนอยู่ที่คลินิกไม่รู้สึกปวดเลยมีแสบนิดหน่อยแค่นั้น แต่ด้วยระยะทางกลับบ้านค่อนข้างต้องใช้เวลาในการขับรถพอสมควร ผมเลยตัดสินใจกลับเลย ทางคลินิกเลยกำชับให้แวะหาอะไรทานรองท้องแล้วกินยาแก้ปวดได้เลยทันที จนผมขับรถกลับถึงบ้านก็ยังไม่ค่อยปวดนะครับ ด้วยความเพลียด้วยขับรถไกลด้วยผมก็เลยกินยาอีกรอบแล้วก็หลับเลย
ตื่นมาก็ไม่มีความรู้สึกปวดเลย จากที่รู้สึกแสบนิดหน่อยเมื่อวานก็หายเป็นปกติเลยครับ 2-3 วันแรกจะมีเลือดซึมตรงเส้น 2 สลึงที่ตัดไปนิดหน่อยครับผมถ่ายรูปให้ทางคลินิกดูทางคลินิกก็บอกว่าปกติอาจมีเลือดซึมได้ ผมเลือกใช้ตัวกาวทางการแพทย์ที่ทางคลินิกมีเสริมให้ ผมเลยสามารถอาบน้ำโดนน้ำได้เลยครับ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ผมว่าถ้ามันสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตต่อการดูแลแผล สำหรับผมก็ว่ามันคุ้มนะครับ ตอนนี้ขลิบมาแล้วประมาณ 5 วัน แผลเริ่มบวมขึ้นจากเดิมนิดหน่อย ทางคลินิกก็ทักมาถามอาการตลอดเลยครับ แต่ตอนนี้โดยรวมแผลของผม ทางคลินิกบอกว่าเป็นปกติดี เห็นเขาบอกว่าแม็กที่เย็บแผลไว้อยู่ตอนนี้จะเริ่มหลุดที่ประมาณ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป
ถ้าถึงเวลานั้นผมจะกลับมาอัพเดทให้อีกทีนึงนะครับ ฝากถึงคนที่มีอาการแบบผม คนที่คิดอยากจะขลิบแต่ยังไม่กล้า สำหรับผมคนที่กลัวเหมือนกันและเพิ่งผ่านการขลิบมา กล้าพูดเลยนะครับว่าทุกอย่างไม่ได้น่ากลัวแบบที่คิดไว้เลยครับ ถ้าสนใจทักเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่คลินิกดูก่อนได้นะครับ
.....เจอคลินิกดีบอกต่อครับ
ขลิบไร้เลือดตามมาจากพวกพี่ในpantip🫣🫣
ตอนแรกกังวลมากเลยครับ คือผมมีปัญหาของหนังหุ้มปลายเป็นแผลแตก เป็นมาระยะนึงแล้วครับ เป็นๆหายๆ ตอนแรกก็กลัวมากเลยครับ เพราะไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ตอนแรกตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจก่อนครับว่าเป็นอะไรกันแน่ คุณหมอก็ให้ยามาทาและแนะนำให้ขลิบ แต่ผมกลัวการผ่าตัดมากๆเลยครับ
ผมเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการขลิบว่ามีกี่แบบ จนมาเจอการขลิบแบบไร้เลือด แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงอยู่ครับ ก็เริ่มเปรียบเทียบราคาหลายๆที่ ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าผมอยู่ต่างจังหวัด แล้วแถวบ้านผมไม่มีขลิบแบบที่ใช้อุปกรณ์ ถ้าจะขลิบก็ต้องเข้าไปขลิบที่โรงพยาบาลเท่านั้น ส่วนใหญ่เจอแถวในกรุงเทพฯ คือผมกลัวว่าจะขับรถไม่ไหวเพราะต้องขับรถเอง ผมเริ่มหาข้อมูลหลายๆที่ หาจากในเน็ตบ้าง google บ้าง จนมาเจอใน pantip ที่เกี่ยวกับการขลิบไร้เลือด แล้วไปเจอกับข้อความนึงที่ไปขลิบแถวมหาชัย ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่นั่นว่าชื่อคลินิกอะไร แล้วก็ได้ตัดสินใจทักเข้าไปสอบถามเพิ่มเติม ว่าจะเป็นแบบที่เขาว่ากันหรือเปล่า เริ่มศึกษามากขึ้นจนไปเจอคลิปในติ๊กต๊อก คลิปคุณหมอเหมยที่เป็นเจ้าของคลินิก แล้วเขาเคลมเลยว่าคุณหมอเหมยทำเองทุกเคส
ผมเริ่มติดตามมาสักพักดูเกือบทุกคลิปที่มี พูดง่ายๆยังทำใจเกี่ยวกับการขลิบไม่ได้เพราะยังกลัวเจ็บและกลัวว่าหลังขลิบจะขับรถไม่ไหว จนพักหลังแผลที่ปลายแตกเป็นไม่กี่วันก็หาย เริ่มเป็นหลายวันมากขึ้นและเจ็บจนไม่สามารถรูดทำความสะอาดได้ เลยตัดสินใจนัดคิวกับทางคลินิก จากที่บ้านผมไปที่คลินิกใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ทางคลินิกบอกว่าส่วนใหญ่จะขับรถกลับเองได้ ผมภาวนาไปตลอดทางว่าขอให้ผมเป็นกลุ่มคนที่ขับรถกลับเองไหว 555
พอถึงวัน เวลานัด ก็เข้าไปกรอกประวัติ กินยา เตรียมตัวขึ้นไปด้านบน โดยรวมที่คลินิกดูเป็นกันเองมากๆครับจากที่ผมทั้งอายด้วยทั้งกลัวด้วย ก็ทำให้ผมคลายกังวลขึ้นพอสมควรครับ เจ้าหน้าที่ที่คลินิกรวมถึงคุณหมออธิบายได้ดีและเข้าใจง่ายทุกขั้นตอน ผมเป็นคนกลัวเข็มมากๆ แต่ดีหน่อยที่ทางคลินิกปิดตาให้ผมเลยไม่เห็นตอนฉีดยาชา ยอมรับเลยครับว่าตอนฉีดยาชาแอบกังวลแต่มีรู้สึกเจ็บแต่ไม่ได้เยอะจนเกินไป สำหรับผม ผมว่าความรู้สึกเจ็บแบบทนได้นะครับ พอฉีดยาชาเสร็จคุณหมอก็ลองเทสดูว่าผมยังเจ็บตรงไหนอยู่บ้าง ถ้าตรงไหนที่ผมบอกยังพอรู้สึกอยู่คุณหมอก็จะฉีดยาชาให้เลย คุณหมอเหมยชวนคุย แถมให้ความรู้เกี่ยวกับการขลิบและวิธีการปฏิบัติตัวหลังการขลิบ คุยยังไม่ทันจบคุณหมอก็บอกว่าขลิบเสร็จแล้ว 555 ผมยังงงอยู่เลยครับว่าขลิบตอนไหน
สำหรับผมหลังขลิบรู้สึกแสบๆนิดหน่อยความรู้สึกเหมือนเป็นแผล น้องผู้ช่วยจะถามเป็นระยะว่าแสบมากเจ็บมากมั้ย ของผมตัดสินใจตัดเส้น 2 สลึงไปด้วยเลยเพราะหลังขลิบเส้น 2 สลึงค่อนข้างรั้ง คุณหมอได้เอากระจกให้ผมส่องดูเองเลยว่าเส้น 2 สลึง รั้งเป็นแบบไหน ก่อนตัดหลังตัดแตกต่างกันแบบสิ้นเชิงเลยครับ โดยรวมผมคิดว่าตัดสินใจถูกที่ลงทุนขับรถมา อย่างที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าขลิบไร้เลือดราคาค่อนข้างสูง พอดีตอนที่ผมไปทำมีโปรโมชั่นด้วยพอดี ถ้าเทียบกับหลายคลินิกที่ผมหามา ต่อให้จัดโปรโมชั่นแล้วบางที่ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ที่ผมเลือกมาทำที่นี่ส่วนหนึ่งเพราะเขาบอกว่าหลังการขลิบ ทางคลินิกจะติดตามจนกว่าแผลจะหายไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลแค่ไหน
ตอนแรกผมจะอยู่รอดูว่าหลังจากนี้จะปวดมากมั้ย เพราะตอนอยู่ที่คลินิกไม่รู้สึกปวดเลยมีแสบนิดหน่อยแค่นั้น แต่ด้วยระยะทางกลับบ้านค่อนข้างต้องใช้เวลาในการขับรถพอสมควร ผมเลยตัดสินใจกลับเลย ทางคลินิกเลยกำชับให้แวะหาอะไรทานรองท้องแล้วกินยาแก้ปวดได้เลยทันที จนผมขับรถกลับถึงบ้านก็ยังไม่ค่อยปวดนะครับ ด้วยความเพลียด้วยขับรถไกลด้วยผมก็เลยกินยาอีกรอบแล้วก็หลับเลย
ตื่นมาก็ไม่มีความรู้สึกปวดเลย จากที่รู้สึกแสบนิดหน่อยเมื่อวานก็หายเป็นปกติเลยครับ 2-3 วันแรกจะมีเลือดซึมตรงเส้น 2 สลึงที่ตัดไปนิดหน่อยครับผมถ่ายรูปให้ทางคลินิกดูทางคลินิกก็บอกว่าปกติอาจมีเลือดซึมได้ ผมเลือกใช้ตัวกาวทางการแพทย์ที่ทางคลินิกมีเสริมให้ ผมเลยสามารถอาบน้ำโดนน้ำได้เลยครับ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ผมว่าถ้ามันสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตต่อการดูแลแผล สำหรับผมก็ว่ามันคุ้มนะครับ ตอนนี้ขลิบมาแล้วประมาณ 5 วัน แผลเริ่มบวมขึ้นจากเดิมนิดหน่อย ทางคลินิกก็ทักมาถามอาการตลอดเลยครับ แต่ตอนนี้โดยรวมแผลของผม ทางคลินิกบอกว่าเป็นปกติดี เห็นเขาบอกว่าแม็กที่เย็บแผลไว้อยู่ตอนนี้จะเริ่มหลุดที่ประมาณ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป
ถ้าถึงเวลานั้นผมจะกลับมาอัพเดทให้อีกทีนึงนะครับ ฝากถึงคนที่มีอาการแบบผม คนที่คิดอยากจะขลิบแต่ยังไม่กล้า สำหรับผมคนที่กลัวเหมือนกันและเพิ่งผ่านการขลิบมา กล้าพูดเลยนะครับว่าทุกอย่างไม่ได้น่ากลัวแบบที่คิดไว้เลยครับ ถ้าสนใจทักเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่คลินิกดูก่อนได้นะครับ
.....เจอคลินิกดีบอกต่อครับ