จะเปลี่ยนที่เรียนภาษาจีนดีไหมขอคำเเนะนำหน่อย

จขกท เข้าไปสมัครเรียนภาษาจีนที่โรงเรียนกุลวรรณแถวบ้านค่ะ ซึ่งโรงเรียนนี้เคยเป็นโรงเรียนประถมมาก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นโรงเรียนเทคนิคกรุงเทพพณิชยการไปแล้ว เข้าไปสมัครเรียนครั้งเเรกเมื่อเดือนพฤศจิกาปีที่แล้ว คอร์สนึง 3,000 บาทเรียนได้ 4 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นราคาที่รู้สึกว่าเเพงมากเลย ตอนโทรมาคุยกับคนที่รับสมัครบอกว่ามีพื้นฐานแล้วนะเคยสอบ HSK ระดับ 4 ทางนั้นก็บอกว่าวันที่เข้ามาสมัครเรียนให้มา test วัดระดับดูก่อน จะได้รู้ว่าควรเรียนระดับไหน วันที่เข้าไปสมัครเรียนเจอครู น. เป็น ผ.อ.โรงเรียนสตรีวรนาถ ทุกวันอาทิตย์เธอจะเข้ามาทำงานที่นี่ วันนั้นครูก็ไม่ได้มีการให้สอบวัดระดับแต่อย่างใด ให้ชำระค่าเรียนแล้วก็เขียนใบเสร็จให้ว่าให้มาเรียนวันเวลาไหนบ้าง วันที่ไปเรียนมีคนไปเรียนอยู่ 4 คนซึ่ง 3 คนที่มาเรียนด้วย ไม่มีใครมีพื้นฐานมาก่อนเลย ปรากฎว่าเหล่าซือเอา pinyin มาสอน ฉันนี่อยากจะร้องไห้มันเหมือนคนที่พูดภาษาอังกฤษได้แล้ว กลับมาเรียน ABC หรือคนที่อ่านภาษาไทยได้แล้ว กลับมาเรียน กขค แต่ไม่เป็นไรในเมื่อเสียเงินไปแล้ว ก็ถือซะว่าเรามาทบทวนของเดิมละกัน ฉันก็จำเทคนิคที่เหล่าซือสอน เผื่ออนาคตจะมีโอกาสได้สอนบ้าง เพราะแม่อยากให้เป็นครูสอนพิเศษอยู่เเล้วรายได้ดี แต่ตัวฉันน่ะจะชอบงานแปลมากกว่า เพราะเป็นคนชอบทำงานที่อยู่กับตัวเอง ไม่ชอบเจ๊าะแจ๊ะวุ่นวายอะไรกับใคร แต่ปัญหาก็คือติดที่ชอบแปลตรงตัว และก็จะแปลได้แต่ภาษาระดับปานกลางเท่านั้น ถ้าภาษายากๆระดับ advance ที่มีศัพท์เฉพาะไม่ไหวค่ะ และส่วนใหญ่งานแปลก็จะมีแต่ยากๆทั้งนั้นถ้าง่ายๆหรือกลางๆ แบบที่คนส่วนใหญ่แปลกันได้ส่วนมากก็จะไม่มาถึงเราหรอก

พอเรียนไปเหล่าซือก็รู้ว่าฉันมีพื้นฐานมากกว่าคนอื่น 4 อาทิตย์ที่เรียนนี่มีแค่อาทิตย์เเรกที่มาเรียนกันครบทั้ง 4 คน 3 อาทิตย์ที่เหลือจะมีคนขาดอย่างน้อย 1 คน ฉันคิดในใจเขาขาดเรียนนี่ไม่เสียดายเงินเหรอ ตกชั่วโมงละ 300 ก็ถือว่าแพงอยู่นะ ซึ่ง 3 คนที่มาเรียนด้วยนี่เป็นนักเรียน ปวช. ฉันไม่เเน่ใจครู น.เป็นคนหานักเรียนกลุ่มนี้ให้มาเรียนกับเหล่าซือหรือเปล่า เพราะเหมือนเคยเห็นพวกเขาเข้าไปช่วยงานในห้องพักครู ส่วนใหญ่ฉันจะมาเรียนคนแรกเเละมาตรงเวลากว่าคนอื่น เหล่าซือทำชี้ทมาแจกนักเรียนไม่ก็ขึ้น slide power point ตอนที่คนอื่นยังไม่มาเรียนหรือถ้ามีใครออกไปเข้าห้องน้ำ เหลือฉันอยู่ในห้องกับเหล่าซือแค่ 2 คน เหล่าซือแกก็จะสอนแบบ advance ขึ้นมาหน่อย ไม่ได้สอนแบบ basic แบบคนที่ไม่มีพื้นเลย แต่พอมีคนอื่นเข้ามาในห้องก็จะกลับไปสอนอ่าน pinyin และประโยคทักทายสั้นๆอย่าง 打招呼, 你好 เป็นต้น และถ้าเขามาเรียนหรือกลับมาจากห้องน้ำก็กลับไปสอน basic เหมือนเดิม พอจบคอร์สครูที่โรงเรียนเทคนิคกรุงเทพพณิชยการ ก็เรียกฉันเข้าไปคุยถามว่ายังอยากเรียนภาษาจีนอยู่หรือเปล่า ฉันก็ตอบว่ายังอยากเรียนอยู่แต่ขอไม่เป็นสอนแบบ basic แบบนี้ เพราะฉันเคยเรียนมาหมดเเล้ว ครูผู้หญิงคนนึงก็บอกว่าเธอขอโทษด้วย ที่ให้ฉันมาเรียนกับคนที่ไม่มีพื้นเลย อาจจะเป็นเพราะตอนคุยกันมีการเข้าใจผิด ถ้าฉันยังอยากเรียนอยู่เหล่าซือเขาจะได้เปลี่ยนแนวสอน คอร์สหน้าจะมีคนมาเรียนกับฉันคนนึง ฉันเลยบอกว่างั้นขอทดลองเรียนก่อนอาทิตย์นึง เพราะยังไม่รู้ว่าคนที่จะมาเรียนด้วยมีพื้นฐานมามากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่าสามารถเรียนด้วยกันได้ก็จะเรียนต่อ แต่ถ้าเอา pinyin มาสอนอีกก็จะได้เลิกเรียน

คอร์สที่ 2 อาทิตย์แรกที่ฉันขอทดลองเรียน เหล่าซือเปลี่ยนแนวสอนโดยเน้นพูด อ่าน เขียน แต่งประโยค แปลจีนเป็นไทย แปลไทยเป็นจีนบ้าง ใช้หนังสือเล่มสีแดงระดับต้น 初级汉语 ของ อ.เหยิน จิ่งเหวิน โดยเริ่มสอนจากบทกลางๆประมาณบทที่ 10 กว่า ซึ่งหนังสือเล่มนั้นจริงๆฉันเคยเรียนไปจบเล่มเเล้ว แต่หนังสือที่ฉันมีเป็นรุ่นเก่าแบบมี CD แต่เล่มที่เหล่าซือเอามาสอนการปรับปรุงเพิ่มคำศัพท์และไวยากรณ์ให้มากขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่