เราเป็นคนนึงที่เคยเจอประสบการณ์อุบัติเหตุและทำให้ต้องทำกายภาพบำบัดทุกวันนี้...(|^|)

    เหตุการณ์ที่เราเจอเริ่มต้นที่สิ้นปี2565 เราลื่นล้มในห้องน้ำจนข้อเท้าพลิกเดินกระเพลก ด้วยความทำงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง คือ เราไปหาหมอโดยใช้สิทธิประกันสังคมรอคิวนานมาก เพราะประกันที่เราเคยจ่ายเป็นปีหมอจร้า สิ่งที่เจอหมอให้แค่ยามากิน แล้วก็เป็นหายๆจนอาการหนักมากขึ้น

    ขอพี่ผจกลาก็ไม่ให้ลาบอกคนไม่มี ขนาดมีใบรับรองแพทย์นะ แต่คือ ผจกแทบจะไม่ค่อยทำงานเลยจร้าเป็นโรค.. มาทำงาน9โมงครึ่ง เลิกบ่าย2กว่าไปหาหมอนัด ให้น้องเคาะเวลาให้ แต่ตัดภาพมาที่เราทำงานเดินบ่อยมาก ยืนด้วยแทบไม่ได้นั่ง จนอาการหนักมาก จนไม่สามารถเดินปกติได้ได้แต่เดินกระเพลก  ไปหาหมอหลายรอบได้แต่ยามากิน จนไม่ไหวแล้ว

     เราจึงตัดสินใจไปหาคลีนิกที่ดุแลกายภาพบำบัดโดยตรง แต่มาติดที่ประกันหมด ไม่ได้จ่ายค่าเบี้ย ความอยากหายอยากเดินปกติ ควักตังค์ออกเองมา25+++ และตัดสินใจออกจากงานเพราะ คิดว่าอยุ่ไปอาการไม่ดีขึ้นแน่ จนตัดสินใจทำกายภาพบำบัดที่คลีนิกที่ดุแลโดยตรง ดีขึ้นมาก แต่ก้อยังมีอาการเจบบ้าง แต่ถือว่าเดินได้ปกติแล้ว 

    คืออยากจะบอกว่าอายุเราแค่24 แต่เรามองว่าประกันสำคัญมากนะ อย่างเวลาไปใช้สิทธิ์รพ ถ้าเป็นประกันสังคมเราต้องรอนานมาก แต่ถ้ามีประกันซื้อแยกอะ คือเค้าจะให้เรารักษาเร็วมาก แยกไปอีกส่วน และค่ารักษาพยาบาลแต่ครั้งมันเยอะมาก ถ้ามีกำลังพออะ ก็หาซื้อประกันแยกไว้บ้าง เป็นรายเดือนก็ดี ถ้ารายปีมันหนักไป นี่คือหาซื้อประกันทั้งโรคร้ายแรงไว้ และประกันอุบัติเหตุ เพราะมันเคลมได้จริง และการรักษาดีกว่าทั่วไปจริง  ใครจะคิดแค่ลื่นล้มแล้วจะหนักขนาดนี้  ..... ถ้าวันนั้นไม่ขาดส่ง ก็ไม่เสียเงินเองค่ะ  
     เคยมีคนโทรมาขายประกันเรา เราซื้อและใช้ได้จริง ต้องขอบคุณคนนั้นที่โทรมาขายเรา แต่เราต้องโทษตัวเองที่ไม่ยอมส่งต่อ  บางทีประกันโทรมาก็ลองฟังข้อเสนอเค้าดูนะค่ะ  เพราะเห็นพี่ที่ทำงานด้วยกันบางคนบอกลำคาญประกัน พอตัวเองเจอรถชนค่ะ เรียกหาประกันใหญ่ แต่ค่ารักษาไม่พอ มีไปกู้ยืมมาก็มีค่ะ ปล.ประสบการณ์จากที่ทำงานเก่าค่ะ