สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราไปเอเชียกลาง คือ Tajikistan, Kyrgyzstan และ Kazakhstan แต่จะขอเน้นไปที่ ทริป Parmir Highway ที่ประเทศทาจิกิซสถาน เนื่องจากข้อมูลของคนไทยที่ไปทริปนี้น้อยมาก เลยอยากมาแชร์สิ่งที่คิดว่าจะเป็นประโชยน์กับคนที่แพลนจะไปเนื่องจากมีข้อจำกัดในการเดินทางพอสมควรสำหรับที่นี่ ทริปนี้ไปคนเดียว ช่วง 13 พ.ค. ถึง 1 มิ.ย 2566.
1.
Tajikistan, Parmir Highway ที่เราไปคือ 7 วัน เริ่มจาก Dushanbe และวนมาที่ Dushanbe ตอนแรกแพลนจะเข้าไปที่ คีร์กิซทางOsh จำนวน 9 วัน แต่ด่านระหว่างทาจิกับOsh ปิด จึงต้องลดจำนวนวันและวนกลับมาโดยเดินทางเป็นลักษณะ looping มาที่เมืองหลวงคือDushanbe.
เราจ้างคนขับ + รถ ทั้ง 7 วัน โดยเราได้เพื่อนร่วมเดินทางผ่านทาง Caravanistan ที่เป็นเว็บที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการเดินทางไปเอเชียกลาง ซึ่งมีประโยชน์มาก เฉพาะที่ Pamir Highway เราได้เพื่อนร่วมทาง 2 คนเพื่อช่วยกันหารค่าเช่ารถ
1.1
การเช่ารถ+คนขับ : เราใช้ผ่านเอเจนซี่ที่เป็นบริษัที่ คีร์กิซเพราะเห็นริวิวดีเลยลอง ราคาของ 7 วัน ต่อหัวคือ (ไปสามคน) ตกคนละ 583 USD ราคานี้ไม่รวมค่าที่พัก และ อาหารนะค่ะ จ่ายมัดจำก่อนไปล่วงหน้าคนละ 100 USD และไปจ่ายที่เหลือกับคนขับวันที่เราเจอเค้า เราจ่ายทั้งหมดวันแรกค่ะ
- ราคาของบริษัทนี้คือกลางๆ มีที่แพงและถูกกว่าก็มีค่ะ แต่เราว่าไม่ควรจ่ายเกินนี้นะค่ะ จ่ายเป็น USD.
- แนะนำว่าให้ไปกัน สามคน กำลังดี (ไม่รวมคนขับ) เพราะไม่งั้นจะเบียดเกินไปเพราะในแต่ละวันต้องนั่งรถไม่ต่ำกว่า 5 ชม.
1.2
ค่าที่พัก และอาหาร ตลอด 7 วัน ที่พักจะเป็นแบบ Home stay, Guest House ราคา 200 Taji Som ต่อหัวต่อคืน ไม่เกินนี้นะค่ะ
- จ่ายเป็นเงิน Taji Som เท่านั้น
1.3
เรื่องการกดเงินที่ตู้ATM: - ***** สำคัญมากคือ ที่ทาจิกิซสถานหาตู้ATM ที่สามารถกดเงินโดยใช้บัตรต่างประเทศได้ยากมากถึงมากที่สุด หรืออาจใช้คำว่า แถบไม่มีเลยก็ว่าได้ ดังนั้น เราต้องแลกเงินUSD ไปสำหรับทริปที่ Parmir ทั้งทริป โดยเมื่อไปถึงที่สนามบินทาจิ ให้แลกเงินเป็น Taji Som เพราะเค้าไม่รับเงินสกุลอื่นนะค่ะ USD จะใช้จ่ายสำหรับจ่ายค่าคนขับรถเท่านั้นค่ะ ****
การที่เรามีบัตรเอทีเอ็มที่เขียนว่า วีซ่า มาสเตอร์ ไม่สามารถใช้ได้นะค่ะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด เพราะจะใช้ได้กับตู้ที่ต้องมีคำว่า unionpay เท่านั้นค่ะ (ที่นั่นไม่เห็นคำว่า plus) ถึงจะมีโลโก้วีซ่า มาสเตอร์กดไม่ได้นะค่ะ เพราะที่นั่น เค้าจะมีรหัสแค่ 4 ตัวกัน ถ้าเราเอาบัตรไปกดตู้ที่ไม่มีคำว่า union pay เราจะไม่สามารถกดรหัส 6 ตัวของเราได้ เครื่องมันฟ้องว่ารหัสเราผิดค่ะ และเท่าที่ทราบคือ
มีตู้เอทีเอ็มนี้ที่เดียวก่อนที่จะมีอีกทีตอนจนทริปคือที่ห้างนี้นะค่ะ เดินเข้าไปตู้จะอยู่ชั้นใต้ดินใกล้บรรไดเลื่อนหน้าซุปเปอร์มาเก็ต (ลืมถ่ายรูปตู้มา) จำชื่อเมืองนี้ไม่ได้แต่คือออกมาจากเมืองหลวงได้ ประมาณ 45 นาที -1 ชม.คนขับจะแวะจอดรถที่นี่เพื่อสต็อคน้ำดื่มตลอดทั้งทริปและขนม ในห้างนี้เลยค่ะ
1.4
สถานที่พักตลอดเส้นทาง Parmir: ที่พักจะเป็นGuesthouse หรือ Homestay ซึ่งจาก 7 วัน จะมีอยู่แค่ 2 ที่ตามรูปที่ไม่มีน้ำและไม่มีไฟฟ้าคือที่ Jizeu Village ซึ่งต้องHike ขึ้นเขาไป 2 -2.5 ชม.แล้วแต่แรงขาค่ะ คนขับจะจอดรถข้างล่างและให้เราเก็บของและต้องเอาน้ำไปด้วย เพื่อไปนอนที่หมู่บ้านนี้ 1 คืนและเราhike ลงมาเจอคนขับอีกทีวันรุ่งขึ้นตอนสายๆค่ะ หมู่บ้านนี้ไม่ได้เป็นเส้นทางที่คนที่จะมา Parmir ไปกันทุกคนเพราะฉะนั้นต้องบอกเค้าหากเราต้องการไปนอนที่หมู่บ้านนนี้นะค่ะ รูปที่เราพักhomestay นี้เลยค่ะ น้ำในลำธารที่นี่ใกล้กับที่พักสามารถดื่มได้ไม่ต้องต้มหรือใช้เครื่องกรองใดๆทั้งสิ้น เพราะตอนแรกไม่กล้าแต่น้ำหมดเลยต้องดื่มและทั้งสามคนไม่มีใครมีอาการใดๆจาการดื่มน้ำที่นี่รสชาติเหมือนน้ำขวดเลย
* ทั้งทริปมีที่พักที่เดียวที่มีที่ทำความร้อน ตามความเห็นคือ ไม่มีความจำเป็นต้องเอาถุงนอนไปเพราะเค้ามีผ้าห่มเพียงพอค่ะ
* เกือบทั้งทริปจะเป็นการนอนรวมกัน ที่นี่จะเป็นห้องที่มี3-5 เตียง เรามีนอนเดี่ยวแค่ 2 ครั้ง
รูปด้านล่างที่มีสะพานคือที่ที่คนที่นี่ไปเติมน้ำมาให้เราดื่มค่ะ
อีกเมืองนึงที่จะไม่มีน้ำและไฟฟ้า (ไฟฟ้าจะใช้เครื่องปั่นไฟและจะเปิดให้ตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ) และจะมีอยู่แค่ 1 ห้องที่มีที่ทำความร้อน เมืองนี้ชื่อว่าเป็นเมืองนึงที่หนาวติดอันดับในทาจิ ตามที่คนขับบอกคือ Alichur เราพักแถวนี้
1.5
ซิมการ์ด และInternet: ให้ซื้อSim card จากที่เมืองหลวงให้เรียบร้อยเค้าจะถามว่าอยู่กี่วัน ก็จะมีpackage ให้เลือก 7 หรือ 15 วัน และทำใจว่าตลอดเส้นทาง Parmir Highway จะสามารถเจอสัญญาณ Data (Internet) ได้น่าจะประมาณ 10 - 20% ของทั้งทริปเท่านั้น สัญญาณมักจะมีตอนจังหวะที่เราขับผ่านเมืองใหญ่ (จริงๆก็ไม่ได้ใหญ่นะค่ะ ขับผ่านประมาณ 5 - 10 นาที) เป็นช่วงที่สามารถลองเปิดอินเตอร์เน็ตดู พอผ่านไปก็จะไม่มีสัญญาณค่ะ เป็นช่วงนาทีทองของคนจะส่งภาพหรือข้อความ เราใช้ของ Tcell ราคาประมาณนี้เลยค่ะ
1.6 ภาษาและผู้คน: ที่ทาจิ เค้าจะมีภาษาของตัวเอง คนที่พูดรัสเซียได้พอมีอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นที่ Parmir เค้าก็จะพูดภาษา Parmiri เลยค่ะ เกือบร้อยเปอร์เซ็นพูดอังกฤษไม่ได้นะค่ะ ดังนั้นการที่เราจ้างคนขับที่พอจะพูดอังกฤษได้คือช่วยเราได้เยอะเพราะไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ใช้google translate ไม่ได้
คนทาจิใจดี เค้าก็ชอบจะทักทายนักท่องเที่ยว คนที่ต้องระวังที่สุดคือ จนท.ตำรวจ ทหารและข้าราชการค่ะ หากเราไม่มีคนท้องถิ่นขับรถให้ (ฝรั่งบางคนเช่ารถขับเอง) เราจะเจอกับการขอส่วยตลอดเส้นทางค่ะ นอกนั้นเฟรนลี่มาก
1.7 ห้องน้ำ: ทำใจในการเข้าห้องน้ำ (ยกเว้นบางที่พักจะโอเค) บางที่เป็นกระดานวางเหยียบ และมีหลุมลงไป แนะนำให้ใช้ห้องน้ำธรรมชาติ เรื่องที่ท้าทายคือภูมิประเทศแถบParmir จะไม่มีต้นไม้ จะเป็นหินและต้นหญ้าแห้งๆเตี้ยๆและพื้นที่โล่ง ดังนั้น บางทีจะเจอว่ามันโล่งจริงๆไม่มีอะไรใดๆทั้งสิ้นเห็นทุกอย่างได้ในระยะไกล เราใช้วิธี ทำธุระหลังรถเพราะสามาถบังได้
1.8 การนั่งรถและถนนหนทาง: ทริปนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาของหลังหรือการที่ต้องกระแทก เพราะมันกะแทรกจริงๆ จะมีถนนที่จริงๆไม่เกิน 20 %นอกนั้น จะเป็นประมาณรูปนี้ หรือไม่ก็off road ไปเลย ทางก็มีน่ากลัวแคบๆบ้างช่วงแต่ถือว่าไม่เยอะ และตลอดเส้นทางจะเจอกับรถยางแตกตลอดทางเพราะพื้นเป็นหิน ส่วนคันเราแตกไป สามรอบค่ะ ทางส่วนมากจะประมาณนี้ ใครถ่ายวีดีโอจากมือถือในรถจะลำบากมากพอควร
1.9 ออนเซ็นที่ทาจิ: ที่นี่จะมีออนเซ็นชื่อ Fatima ประมาณนี้เป็นระหว่างทางที่จะไปFortress อันนี้ ให้คนขับรถแวะด้วยนะค่ะ บางคนไม่แวะให้ค่ะ คือมันดีมากน้ำร้อนกำลังดี ราคา 20 Taji Som 60 บาทไทย แยกชายหญิง เดินไปด้านบนจะเห็นน้ำร้อนมันผุดขึ้นมา และด้านล่างจะเป็นห้องแช่น้ำพุร้อนค่ะ ตามรูปเลยค่ะ
2.0 อาหารบนเส้นทางนี้: อาหารมีรสชาติเดียว คือ จืดสนิท เค้ามีเกลือนะค่ะ แต่เหมือนไม่นิยมใส่เยอะ และอาหารที่นี่คือไม่ว่าจะไปพักที่ไหน เมนูเดียวกันหมดค่ะ คือ ซุปใสใส่เนื้อวัว หรือแกะ มันฝรั่ง อาจมีมักกะโรนีใส่มาในซุป มีถั่ว ขนมปัง แยมhomemade ที่เป็นแอฟพริคอท แยมเชอรรี่ แล้วก็องุ่นอบแห้งที่ไม่มีน้ำตาลคือเค้าไปตากให้มันแห้งๆ ไม่เหมือนที่เราซื้อกินมันจะมีน้ำตาล แล้วก็มีลูกหม่อนขาวอบแห้ง สลัดผัก ไข่ดาวอาจมีเป็นบางที่พักและมักจะเสริฟมาพร้อมกับคุ้กกี้ ช้อคโกแลต และลูกอม คือเป็นpattern เมนูนี้ตลอดทริปค่ะ เหมือนกันหมด เราสามารถหาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้จะเป็นของรัสเซียก็จะจืดๆนะคะไม่เค็ม หากอยากก็พอหาซื้อได้ง่ายอยู่ค่ะเมืองเล็กๆก็มีขาย หน้าตาอาหารที่นั่นจะประมาณนี้
2.1
วีซ่า(ทาจิ)และGBAO Permit: คนไทยสามารถทำวีซ่าเข้าทาจิได้ทางออนไลน์ E visa:
https://www.visa.gov.tj/index.html เข้าอันนี้นะค่ะ ดูอันที่มีคำว่า gov มันมีอีกอันคล้ายๆกันแต่ไม่ใช่นะค่ะ ทำง่ายมากค่ะ และสำหรับคนที่จะมา Parmir Highway จะต้องทำ GBAO Permit โดยให้ Tick ที่ช่อง Permit ตอนทำวีซ่าด้วย หน้าตาที่ได้จะเป้นแบบนี้ค่ะ
ข้อสำคัญมาก เมื่อเราผ่านตม.ของทาจิเข้ามาแล้วเค้าจะสแตมป์ตราสีแดงลงบนหัวมุมด้านขวาของสำเนาวีซ่าฉบับนี้ที่เรายื่นให้ตม.ตอนขาเข้า
เราต้องเก็บตัวจริงที่มีสแตมป์ไว้ยื่นตอนขาออกนะค่ะ ไม่งั้นจะโดยเรียกเก็บส่วย 20USD และ
ที่สำคัญอีกอย่างคือ เราจะต้องทำสำเนาฉบับที่มีตราstampนี้จำนวน
อย่างน้อย 15 อันนะค่ะ เพราะตลอดเส้นทางPamir จะมี Check Point ตลอดและเค้าจะขอคนละใบเลย ย้ำว่าใช้อย่างน้อย 15 อัน เสำเนาไว้เกินก็ดี อีกอย่างคือสำเนาพาสปอตควรทำไว้สัก 5 ใบ ถ้าออกจากสนามบินคือระบบmanual และถ้าเราไม่มีอะไร จะโดนจ่ายส่วยค่ะ แนะให้หาที่ทำก็อปปี้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในเมืองหลวงDushanbe เพราะแค่ร้านทำก็ก็อปปี้ก็ไมไ่ด้หาง่ายนะคะ่ หากลืมโอกาสสุดท้ายคือที่ห้างที่บอกว่ามีตู้เอทีเอ็ม หลังจากนั้นหมดสิทธิ์ค่ะ
2.2 การบินโดรน: เพื่อนที่ไปด้วยกันเอาโดรนเข้าได้นะคะ เพราะอีกคนเข้าทาจิทางบกผ่านทางอุซเบไม่ชัวร์เค้าเลยฝากอีกคนที่บินมาก็เอาเข้าได้ ส่วนใหญ่ก็บินโดรนได้ ยกเว้นตามสถานที่ราชการ ส่วนบนเส้นParmir บินได้เกือบหมดยกเว้นเขตที่ติดกับอาฟกานิสถาน ช่วงที่เป็น Panj River ห้ามเด็ดขาดเพราะเป็นเขตTaliban เนื่องจากเขตแถบ Pamir เป็นพื้นที่สูงมาก ส่วนใหญ่ลมจะแรงมากเกือบทุกพื้นที่ เลยอาจหาโอกาสยากหน่อยที่จะขึ้นบินนะค่ะ
2.3 ขับตามแนวชายแดนอาฟกานิสถาน: เส้นทางถนนเลียบแม่น้ำPanj River จะสามารถเห็นบ้านเรือนและชาวบ้านอาฟกันตลอดเส้นทาง โดยช่วงที่เป็นฐานทัพของตาลีบัน (สังเกตุจากธงสีขาว) จะไม่สามารถ่ายรูปได้หากเป็นช่วงที่ไม่ใช่ฐานทัพตาลีบันก็สามารถถ่ายรูปได้แต่คนขับจะบอกให้ถ่ายในรถอย่ายื่นกล้องออกไปนอกตัวรถ บ้านฝั่งอาฟกันจะเขียวมากกว่าทางทาจิ เส้นทางริมชายแดนหลายกิโลมากและเป็นเขตของตาลีบันเราจะได้เห็นทหารตาลีบนถือปืนและนั่งบนหลังรถกะบะเหมือนตามภาพข่าวเลยแต่อันนั้นไม่กล้าถ่ายค่ะ ตามต่อได้ในกระทู้ "แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในทริปเอเชียกลาง เน้น Parmir Highway, ทาจิกิซสถาน #2"
แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในทริปเอเชียกลาง เน้น Parmir Highway, ทาจิกิซสถาน
1.Tajikistan, Parmir Highway ที่เราไปคือ 7 วัน เริ่มจาก Dushanbe และวนมาที่ Dushanbe ตอนแรกแพลนจะเข้าไปที่ คีร์กิซทางOsh จำนวน 9 วัน แต่ด่านระหว่างทาจิกับOsh ปิด จึงต้องลดจำนวนวันและวนกลับมาโดยเดินทางเป็นลักษณะ looping มาที่เมืองหลวงคือDushanbe.
เราจ้างคนขับ + รถ ทั้ง 7 วัน โดยเราได้เพื่อนร่วมเดินทางผ่านทาง Caravanistan ที่เป็นเว็บที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการเดินทางไปเอเชียกลาง ซึ่งมีประโยชน์มาก เฉพาะที่ Pamir Highway เราได้เพื่อนร่วมทาง 2 คนเพื่อช่วยกันหารค่าเช่ารถ
1.1 การเช่ารถ+คนขับ : เราใช้ผ่านเอเจนซี่ที่เป็นบริษัที่ คีร์กิซเพราะเห็นริวิวดีเลยลอง ราคาของ 7 วัน ต่อหัวคือ (ไปสามคน) ตกคนละ 583 USD ราคานี้ไม่รวมค่าที่พัก และ อาหารนะค่ะ จ่ายมัดจำก่อนไปล่วงหน้าคนละ 100 USD และไปจ่ายที่เหลือกับคนขับวันที่เราเจอเค้า เราจ่ายทั้งหมดวันแรกค่ะ
- ราคาของบริษัทนี้คือกลางๆ มีที่แพงและถูกกว่าก็มีค่ะ แต่เราว่าไม่ควรจ่ายเกินนี้นะค่ะ จ่ายเป็น USD.
- แนะนำว่าให้ไปกัน สามคน กำลังดี (ไม่รวมคนขับ) เพราะไม่งั้นจะเบียดเกินไปเพราะในแต่ละวันต้องนั่งรถไม่ต่ำกว่า 5 ชม.
1.2 ค่าที่พัก และอาหาร ตลอด 7 วัน ที่พักจะเป็นแบบ Home stay, Guest House ราคา 200 Taji Som ต่อหัวต่อคืน ไม่เกินนี้นะค่ะ
- จ่ายเป็นเงิน Taji Som เท่านั้น
1.3 เรื่องการกดเงินที่ตู้ATM: - ***** สำคัญมากคือ ที่ทาจิกิซสถานหาตู้ATM ที่สามารถกดเงินโดยใช้บัตรต่างประเทศได้ยากมากถึงมากที่สุด หรืออาจใช้คำว่า แถบไม่มีเลยก็ว่าได้ ดังนั้น เราต้องแลกเงินUSD ไปสำหรับทริปที่ Parmir ทั้งทริป โดยเมื่อไปถึงที่สนามบินทาจิ ให้แลกเงินเป็น Taji Som เพราะเค้าไม่รับเงินสกุลอื่นนะค่ะ USD จะใช้จ่ายสำหรับจ่ายค่าคนขับรถเท่านั้นค่ะ ****
การที่เรามีบัตรเอทีเอ็มที่เขียนว่า วีซ่า มาสเตอร์ ไม่สามารถใช้ได้นะค่ะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด เพราะจะใช้ได้กับตู้ที่ต้องมีคำว่า unionpay เท่านั้นค่ะ (ที่นั่นไม่เห็นคำว่า plus) ถึงจะมีโลโก้วีซ่า มาสเตอร์กดไม่ได้นะค่ะ เพราะที่นั่น เค้าจะมีรหัสแค่ 4 ตัวกัน ถ้าเราเอาบัตรไปกดตู้ที่ไม่มีคำว่า union pay เราจะไม่สามารถกดรหัส 6 ตัวของเราได้ เครื่องมันฟ้องว่ารหัสเราผิดค่ะ และเท่าที่ทราบคือ มีตู้เอทีเอ็มนี้ที่เดียวก่อนที่จะมีอีกทีตอนจนทริปคือที่ห้างนี้นะค่ะ เดินเข้าไปตู้จะอยู่ชั้นใต้ดินใกล้บรรไดเลื่อนหน้าซุปเปอร์มาเก็ต (ลืมถ่ายรูปตู้มา) จำชื่อเมืองนี้ไม่ได้แต่คือออกมาจากเมืองหลวงได้ ประมาณ 45 นาที -1 ชม.คนขับจะแวะจอดรถที่นี่เพื่อสต็อคน้ำดื่มตลอดทั้งทริปและขนม ในห้างนี้เลยค่ะ
1.4 สถานที่พักตลอดเส้นทาง Parmir: ที่พักจะเป็นGuesthouse หรือ Homestay ซึ่งจาก 7 วัน จะมีอยู่แค่ 2 ที่ตามรูปที่ไม่มีน้ำและไม่มีไฟฟ้าคือที่ Jizeu Village ซึ่งต้องHike ขึ้นเขาไป 2 -2.5 ชม.แล้วแต่แรงขาค่ะ คนขับจะจอดรถข้างล่างและให้เราเก็บของและต้องเอาน้ำไปด้วย เพื่อไปนอนที่หมู่บ้านนี้ 1 คืนและเราhike ลงมาเจอคนขับอีกทีวันรุ่งขึ้นตอนสายๆค่ะ หมู่บ้านนี้ไม่ได้เป็นเส้นทางที่คนที่จะมา Parmir ไปกันทุกคนเพราะฉะนั้นต้องบอกเค้าหากเราต้องการไปนอนที่หมู่บ้านนนี้นะค่ะ รูปที่เราพักhomestay นี้เลยค่ะ น้ำในลำธารที่นี่ใกล้กับที่พักสามารถดื่มได้ไม่ต้องต้มหรือใช้เครื่องกรองใดๆทั้งสิ้น เพราะตอนแรกไม่กล้าแต่น้ำหมดเลยต้องดื่มและทั้งสามคนไม่มีใครมีอาการใดๆจาการดื่มน้ำที่นี่รสชาติเหมือนน้ำขวดเลย
* ทั้งทริปมีที่พักที่เดียวที่มีที่ทำความร้อน ตามความเห็นคือ ไม่มีความจำเป็นต้องเอาถุงนอนไปเพราะเค้ามีผ้าห่มเพียงพอค่ะ
* เกือบทั้งทริปจะเป็นการนอนรวมกัน ที่นี่จะเป็นห้องที่มี3-5 เตียง เรามีนอนเดี่ยวแค่ 2 ครั้ง
รูปด้านล่างที่มีสะพานคือที่ที่คนที่นี่ไปเติมน้ำมาให้เราดื่มค่ะ
อีกเมืองนึงที่จะไม่มีน้ำและไฟฟ้า (ไฟฟ้าจะใช้เครื่องปั่นไฟและจะเปิดให้ตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ) และจะมีอยู่แค่ 1 ห้องที่มีที่ทำความร้อน เมืองนี้ชื่อว่าเป็นเมืองนึงที่หนาวติดอันดับในทาจิ ตามที่คนขับบอกคือ Alichur เราพักแถวนี้
1.5 ซิมการ์ด และInternet: ให้ซื้อSim card จากที่เมืองหลวงให้เรียบร้อยเค้าจะถามว่าอยู่กี่วัน ก็จะมีpackage ให้เลือก 7 หรือ 15 วัน และทำใจว่าตลอดเส้นทาง Parmir Highway จะสามารถเจอสัญญาณ Data (Internet) ได้น่าจะประมาณ 10 - 20% ของทั้งทริปเท่านั้น สัญญาณมักจะมีตอนจังหวะที่เราขับผ่านเมืองใหญ่ (จริงๆก็ไม่ได้ใหญ่นะค่ะ ขับผ่านประมาณ 5 - 10 นาที) เป็นช่วงที่สามารถลองเปิดอินเตอร์เน็ตดู พอผ่านไปก็จะไม่มีสัญญาณค่ะ เป็นช่วงนาทีทองของคนจะส่งภาพหรือข้อความ เราใช้ของ Tcell ราคาประมาณนี้เลยค่ะ
1.6 ภาษาและผู้คน: ที่ทาจิ เค้าจะมีภาษาของตัวเอง คนที่พูดรัสเซียได้พอมีอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นที่ Parmir เค้าก็จะพูดภาษา Parmiri เลยค่ะ เกือบร้อยเปอร์เซ็นพูดอังกฤษไม่ได้นะค่ะ ดังนั้นการที่เราจ้างคนขับที่พอจะพูดอังกฤษได้คือช่วยเราได้เยอะเพราะไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ใช้google translate ไม่ได้
คนทาจิใจดี เค้าก็ชอบจะทักทายนักท่องเที่ยว คนที่ต้องระวังที่สุดคือ จนท.ตำรวจ ทหารและข้าราชการค่ะ หากเราไม่มีคนท้องถิ่นขับรถให้ (ฝรั่งบางคนเช่ารถขับเอง) เราจะเจอกับการขอส่วยตลอดเส้นทางค่ะ นอกนั้นเฟรนลี่มาก
1.7 ห้องน้ำ: ทำใจในการเข้าห้องน้ำ (ยกเว้นบางที่พักจะโอเค) บางที่เป็นกระดานวางเหยียบ และมีหลุมลงไป แนะนำให้ใช้ห้องน้ำธรรมชาติ เรื่องที่ท้าทายคือภูมิประเทศแถบParmir จะไม่มีต้นไม้ จะเป็นหินและต้นหญ้าแห้งๆเตี้ยๆและพื้นที่โล่ง ดังนั้น บางทีจะเจอว่ามันโล่งจริงๆไม่มีอะไรใดๆทั้งสิ้นเห็นทุกอย่างได้ในระยะไกล เราใช้วิธี ทำธุระหลังรถเพราะสามาถบังได้
1.8 การนั่งรถและถนนหนทาง: ทริปนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาของหลังหรือการที่ต้องกระแทก เพราะมันกะแทรกจริงๆ จะมีถนนที่จริงๆไม่เกิน 20 %นอกนั้น จะเป็นประมาณรูปนี้ หรือไม่ก็off road ไปเลย ทางก็มีน่ากลัวแคบๆบ้างช่วงแต่ถือว่าไม่เยอะ และตลอดเส้นทางจะเจอกับรถยางแตกตลอดทางเพราะพื้นเป็นหิน ส่วนคันเราแตกไป สามรอบค่ะ ทางส่วนมากจะประมาณนี้ ใครถ่ายวีดีโอจากมือถือในรถจะลำบากมากพอควร
1.9 ออนเซ็นที่ทาจิ: ที่นี่จะมีออนเซ็นชื่อ Fatima ประมาณนี้เป็นระหว่างทางที่จะไปFortress อันนี้ ให้คนขับรถแวะด้วยนะค่ะ บางคนไม่แวะให้ค่ะ คือมันดีมากน้ำร้อนกำลังดี ราคา 20 Taji Som 60 บาทไทย แยกชายหญิง เดินไปด้านบนจะเห็นน้ำร้อนมันผุดขึ้นมา และด้านล่างจะเป็นห้องแช่น้ำพุร้อนค่ะ ตามรูปเลยค่ะ
2.0 อาหารบนเส้นทางนี้: อาหารมีรสชาติเดียว คือ จืดสนิท เค้ามีเกลือนะค่ะ แต่เหมือนไม่นิยมใส่เยอะ และอาหารที่นี่คือไม่ว่าจะไปพักที่ไหน เมนูเดียวกันหมดค่ะ คือ ซุปใสใส่เนื้อวัว หรือแกะ มันฝรั่ง อาจมีมักกะโรนีใส่มาในซุป มีถั่ว ขนมปัง แยมhomemade ที่เป็นแอฟพริคอท แยมเชอรรี่ แล้วก็องุ่นอบแห้งที่ไม่มีน้ำตาลคือเค้าไปตากให้มันแห้งๆ ไม่เหมือนที่เราซื้อกินมันจะมีน้ำตาล แล้วก็มีลูกหม่อนขาวอบแห้ง สลัดผัก ไข่ดาวอาจมีเป็นบางที่พักและมักจะเสริฟมาพร้อมกับคุ้กกี้ ช้อคโกแลต และลูกอม คือเป็นpattern เมนูนี้ตลอดทริปค่ะ เหมือนกันหมด เราสามารถหาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้จะเป็นของรัสเซียก็จะจืดๆนะคะไม่เค็ม หากอยากก็พอหาซื้อได้ง่ายอยู่ค่ะเมืองเล็กๆก็มีขาย หน้าตาอาหารที่นั่นจะประมาณนี้
2.1 วีซ่า(ทาจิ)และGBAO Permit: คนไทยสามารถทำวีซ่าเข้าทาจิได้ทางออนไลน์ E visa: https://www.visa.gov.tj/index.html เข้าอันนี้นะค่ะ ดูอันที่มีคำว่า gov มันมีอีกอันคล้ายๆกันแต่ไม่ใช่นะค่ะ ทำง่ายมากค่ะ และสำหรับคนที่จะมา Parmir Highway จะต้องทำ GBAO Permit โดยให้ Tick ที่ช่อง Permit ตอนทำวีซ่าด้วย หน้าตาที่ได้จะเป้นแบบนี้ค่ะ ข้อสำคัญมาก เมื่อเราผ่านตม.ของทาจิเข้ามาแล้วเค้าจะสแตมป์ตราสีแดงลงบนหัวมุมด้านขวาของสำเนาวีซ่าฉบับนี้ที่เรายื่นให้ตม.ตอนขาเข้า เราต้องเก็บตัวจริงที่มีสแตมป์ไว้ยื่นตอนขาออกนะค่ะ ไม่งั้นจะโดยเรียกเก็บส่วย 20USD และที่สำคัญอีกอย่างคือ เราจะต้องทำสำเนาฉบับที่มีตราstampนี้จำนวนอย่างน้อย 15 อันนะค่ะ เพราะตลอดเส้นทางPamir จะมี Check Point ตลอดและเค้าจะขอคนละใบเลย ย้ำว่าใช้อย่างน้อย 15 อัน เสำเนาไว้เกินก็ดี อีกอย่างคือสำเนาพาสปอตควรทำไว้สัก 5 ใบ ถ้าออกจากสนามบินคือระบบmanual และถ้าเราไม่มีอะไร จะโดนจ่ายส่วยค่ะ แนะให้หาที่ทำก็อปปี้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในเมืองหลวงDushanbe เพราะแค่ร้านทำก็ก็อปปี้ก็ไมไ่ด้หาง่ายนะคะ่ หากลืมโอกาสสุดท้ายคือที่ห้างที่บอกว่ามีตู้เอทีเอ็ม หลังจากนั้นหมดสิทธิ์ค่ะ
2.2 การบินโดรน: เพื่อนที่ไปด้วยกันเอาโดรนเข้าได้นะคะ เพราะอีกคนเข้าทาจิทางบกผ่านทางอุซเบไม่ชัวร์เค้าเลยฝากอีกคนที่บินมาก็เอาเข้าได้ ส่วนใหญ่ก็บินโดรนได้ ยกเว้นตามสถานที่ราชการ ส่วนบนเส้นParmir บินได้เกือบหมดยกเว้นเขตที่ติดกับอาฟกานิสถาน ช่วงที่เป็น Panj River ห้ามเด็ดขาดเพราะเป็นเขตTaliban เนื่องจากเขตแถบ Pamir เป็นพื้นที่สูงมาก ส่วนใหญ่ลมจะแรงมากเกือบทุกพื้นที่ เลยอาจหาโอกาสยากหน่อยที่จะขึ้นบินนะค่ะ
2.3 ขับตามแนวชายแดนอาฟกานิสถาน: เส้นทางถนนเลียบแม่น้ำPanj River จะสามารถเห็นบ้านเรือนและชาวบ้านอาฟกันตลอดเส้นทาง โดยช่วงที่เป็นฐานทัพของตาลีบัน (สังเกตุจากธงสีขาว) จะไม่สามารถ่ายรูปได้หากเป็นช่วงที่ไม่ใช่ฐานทัพตาลีบันก็สามารถถ่ายรูปได้แต่คนขับจะบอกให้ถ่ายในรถอย่ายื่นกล้องออกไปนอกตัวรถ บ้านฝั่งอาฟกันจะเขียวมากกว่าทางทาจิ เส้นทางริมชายแดนหลายกิโลมากและเป็นเขตของตาลีบันเราจะได้เห็นทหารตาลีบนถือปืนและนั่งบนหลังรถกะบะเหมือนตามภาพข่าวเลยแต่อันนั้นไม่กล้าถ่ายค่ะ ตามต่อได้ในกระทู้ "แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในทริปเอเชียกลาง เน้น Parmir Highway, ทาจิกิซสถาน #2"