โอวาทปาฏิโมกข์ เป็นหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา ในกระทู้นี้คัดลอกมาเฉพาะ "พระพุทธพจน์คาถาที่สาม"
วัตถุประสงค์ก็คือ: ต้องการให้มุสลิมไทยได้เข้าใจ ถึงหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่สอนเกี่ยวกับหลักการเผยแพร่พระ
พุทธศาสนา และการวางตัวให้เหมาะสมในสังคมที่อยู่ร่วมกันอยู่หลายศาสนา โดยเฉพาะการเผยแพร่คำสอนของพระพุทธ
องค์ ซึ่งมีคล้ายๆกับคำสอนในศาสนาอิสลาม ในการอธิบายหลักการของศาสนาอิสลามต่อผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม
"พระพุทธพจน์คาถาที่สาม" จากโอวาทปาฏิโมกข์ มีกล่าวไว้ดังนี้
หมายถึงวิธีการที่ธรรมทูตผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาถือเป็นกลยุทธ พระภิกษุที่ออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาซึ่งมีเป็นจำนวน
มากให้ใช้วิธีการเหมือนกันเพื่อจะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกันและถูกต้องเป็นธรรม ได้แก่ วิธีการทั้ง 6
1.
การไม่กล่าวร้าย (เผยแผ่ศาสนาด้วยการไม่กล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น)
2. การไม่ทำร้าย (เผยแผ่ศาสนาด้วยการไม่ใช้กำลังบังคับข่มขู่ด้วยวิธีการต่างๆ)
3. ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ (รักษาความประพฤติให้น่าเลื่อมใส)
4.ความเป็นผู้รู้จักประมาณในการบริโภค (เสพปัจจัยสี่อย่างรู้ประมาณพอเพียง)
5. นั่งนอนในที่อันสงัด (สันโดษไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ)
6. ความเพียรในอธิจิต (พัฒนาจิตใจให้ยิ่งด้วยสมถะและวิปัสสนาเสมอ มิใช่ว่าเอาแต่สอนแต่ตนเองไม่กระทำตามที่สอน)
เนื่องจาก พระสงฆ์ และพุทธบริษัททุกๆท่านที่สนทนากับมุสลิมผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็เปรียบเสมือน เป็นพระธรรมทูต หรือ
พระธรรมจาริก ซึ่งรวมถึง พระภิกษุที่เดินทางไปแสดงธรรมในที่ต่างๆ และพุทธสมาชิก ผู้ทำหน้าที่เหมือนทูตทางธรรมหรือทูต
ของพระพุทธศาสนา ซึ่งพูดคุยสนทนากับมุสลิมหรือผู้ต่างศาสนาอื่นๆ ถ้าพุทธบริษัทผู้ใดประพฤติดีไม่ผิด"พระพุทธพจน์คาถาที่สาม"
ข้อหนึ่งข้อใด ก็ย่อมเป็นที่นับถือและเลื่อมใสต่อคู่สนทนาและมีโอกาศที่จะประกาศหลักธรรมของพระพุทธองค์ แต่ในทางที่
ครงกันข้ามถ้าพุทธสมาชิกผู้ใดทำตัวเป็นพาลหรือมารต่อศาสนิกชนอื่นๆ โดยการกล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น ประพฤติตน
ผิดจากศีลธรรมและจรรยาธรรมหรือ "ลักษณะแห่งธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน" ไว้ เช่น สัลเลขธรรม เป็นพระธรรมที่ทำน้าที่
ขัดเกลาจิต หรือบาปอกุศลให้ออกไปจากจิต ตามคุณสมบัติแห่งองค์ธรรมนั้น เช่น ปัญญาขจัดความโง่เขลา เมตตาขจัดความ
พยาบาทความโกรธ เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอวาทปาฏิโมกข์ ในเรื่องของ "พระพุทธพจน์คาถาที่สาม" นี้ บอกให้มุสลิมทราบอย่างชัดเจนว่า ในพุทธศาสนาไม่มีการสอนในเรื่องผู้สร้าง แต่
มีคำสอนในเรื่องจรรยาธรรม ซึ่งมีข้อห้ามในการกล่าวร้ายกล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมหวังว่ากระทู้นี้คงให้ความรู้ทางพุทธศาสนาแก่สมาชิกมุสลิม เพือจะได้เข้าใจพุทธสมาชิกที่แสดงความคิดเห็นใน Tag. อิสลาม และเป็นเครื่องเตือนใจ
พุทธสมาชิกถึงหลักธรรมของพระพุทธองค์ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งเมื่อสนทนากับผู้ต่างศาสนา
https://th.wikipedia.org/wiki/โอวาทปาติโมกข์
"โอวาทปาฏิโมกข์" เป็นหลักคำสอนที่สำคัญของพระพุทธศาสนา
วัตถุประสงค์ก็คือ: ต้องการให้มุสลิมไทยได้เข้าใจ ถึงหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่สอนเกี่ยวกับหลักการเผยแพร่พระ
พุทธศาสนา และการวางตัวให้เหมาะสมในสังคมที่อยู่ร่วมกันอยู่หลายศาสนา โดยเฉพาะการเผยแพร่คำสอนของพระพุทธ
องค์ ซึ่งมีคล้ายๆกับคำสอนในศาสนาอิสลาม ในการอธิบายหลักการของศาสนาอิสลามต่อผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม
"พระพุทธพจน์คาถาที่สาม" จากโอวาทปาฏิโมกข์ มีกล่าวไว้ดังนี้
หมายถึงวิธีการที่ธรรมทูตผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาถือเป็นกลยุทธ พระภิกษุที่ออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาซึ่งมีเป็นจำนวน
มากให้ใช้วิธีการเหมือนกันเพื่อจะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกันและถูกต้องเป็นธรรม ได้แก่ วิธีการทั้ง 6
1. การไม่กล่าวร้าย (เผยแผ่ศาสนาด้วยการไม่กล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น)
2. การไม่ทำร้าย (เผยแผ่ศาสนาด้วยการไม่ใช้กำลังบังคับข่มขู่ด้วยวิธีการต่างๆ)
3. ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ (รักษาความประพฤติให้น่าเลื่อมใส)
4.ความเป็นผู้รู้จักประมาณในการบริโภค (เสพปัจจัยสี่อย่างรู้ประมาณพอเพียง)
5. นั่งนอนในที่อันสงัด (สันโดษไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ)
6. ความเพียรในอธิจิต (พัฒนาจิตใจให้ยิ่งด้วยสมถะและวิปัสสนาเสมอ มิใช่ว่าเอาแต่สอนแต่ตนเองไม่กระทำตามที่สอน)
เนื่องจาก พระสงฆ์ และพุทธบริษัททุกๆท่านที่สนทนากับมุสลิมผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็เปรียบเสมือน เป็นพระธรรมทูต หรือ
พระธรรมจาริก ซึ่งรวมถึง พระภิกษุที่เดินทางไปแสดงธรรมในที่ต่างๆ และพุทธสมาชิก ผู้ทำหน้าที่เหมือนทูตทางธรรมหรือทูต
ของพระพุทธศาสนา ซึ่งพูดคุยสนทนากับมุสลิมหรือผู้ต่างศาสนาอื่นๆ ถ้าพุทธบริษัทผู้ใดประพฤติดีไม่ผิด"พระพุทธพจน์คาถาที่สาม"
ข้อหนึ่งข้อใด ก็ย่อมเป็นที่นับถือและเลื่อมใสต่อคู่สนทนาและมีโอกาศที่จะประกาศหลักธรรมของพระพุทธองค์ แต่ในทางที่
ครงกันข้ามถ้าพุทธสมาชิกผู้ใดทำตัวเป็นพาลหรือมารต่อศาสนิกชนอื่นๆ โดยการกล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น ประพฤติตน
ผิดจากศีลธรรมและจรรยาธรรมหรือ "ลักษณะแห่งธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน" ไว้ เช่น สัลเลขธรรม เป็นพระธรรมที่ทำน้าที่
ขัดเกลาจิต หรือบาปอกุศลให้ออกไปจากจิต ตามคุณสมบัติแห่งองค์ธรรมนั้น เช่น ปัญญาขจัดความโง่เขลา เมตตาขจัดความ
พยาบาทความโกรธ เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอวาทปาฏิโมกข์ ในเรื่องของ "พระพุทธพจน์คาถาที่สาม" นี้ บอกให้มุสลิมทราบอย่างชัดเจนว่า ในพุทธศาสนาไม่มีการสอนในเรื่องผู้สร้าง แต่
มีคำสอนในเรื่องจรรยาธรรม ซึ่งมีข้อห้ามในการกล่าวร้ายกล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมหวังว่ากระทู้นี้คงให้ความรู้ทางพุทธศาสนาแก่สมาชิกมุสลิม เพือจะได้เข้าใจพุทธสมาชิกที่แสดงความคิดเห็นใน Tag. อิสลาม และเป็นเครื่องเตือนใจ
พุทธสมาชิกถึงหลักธรรมของพระพุทธองค์ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งเมื่อสนทนากับผู้ต่างศาสนา
https://th.wikipedia.org/wiki/โอวาทปาติโมกข์