เรื่องราวร้ายๆ ของเรายังไม่จบแค่นั้นนะคะต่อมาด้วย ปี 63 พอจะตั้งตัวได้ ก็มาตรวจเจอว่าตัวเองมีเชื้อมะเร็งตรวจเจอก็อยู่ในระยะที่ 2 แล้ว ตอนนั้นบอกเลยค่ะว่ามืดแปดด้านไปหมดเพราะว่าต้องมารับภาระค่าใช้จ่ายพี่ชายที่ติดคุกไปอีกแต่พี่ชายนี่ไม่ได้สนิทกันนะคะเป็นพี่น้องกันแท้ๆก็จริงแต่ก็ไม่เคยอยู่ด้วยกันเราต้องมาเดินเรื่องให้เขาออกจากเรือนจำที่คลองเปรมตอนนั้นทำงานอยู่ที่รัฐสภา ก็ทำได้ประมาณเกือบปีอ่ะค่ะแล้วก็โดนไล่ออกเพราะว่าโดนกลั่นแกล้งสารพัด มีแฟนชาวบ้านมาชอบเราด้วยความที่เราโสดเราก็คิดว่าเขาจะโสดเหมือนเราก็ลองคุยกันไปสุดท้ายแฟนเขาก็มาด่าเราก็เลยลาออกจากที่ทำงานก็ตกงานตอนที่ป่วยมันก็ขำดีชีวิต ในตอนนั้นก็ร่างกายแบบคือผอมโทรมด้วยคนเป็นมะเร็งนะคะมันก็ร่างกายต้องแย่อยู่แล้ว ก็เลยกะว่าจะกลับมาตั้งหลักที่บ้าน แต่มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิด กลับมาที่บ้านก็ยิ่งแย่กว่าเดิมเราคิดว่าครอบครัวเราพี่ชายแม่เรารู้ว่าเราเป็นมะเร็งเขาจะดูแลเราดีกว่านี้สงสารเรา แต่ความเป็นจริงไม่เลย เรามาถึงบ้านเป็นจังหวะพอดีกับช่วงที่ยายป่วย ประมาณ 1 เดือนท่านก็เสีย ที่พึ่งสุดท้ายเราก็ได้จบลง เราก็เลยตัดสินใจไปเริ่มต้นใหม่ที่มีนบุรีไปสมัครเป็นหัวหน้ารปภบริษัทแห่งหนึ่งแต่ภาระในการดูแลพี่ชายก็ยังไม่จบลงอยู่ประมาณ 1 ปีเดินเรื่องจบจนเขาได้ออกมาได้ 8 เดือน เขาโดนจับอีกรอบเราต้องหาเงินมาประกัน 20,000 บาทตอนนั้นเราทั้งควงเวรรับเวรแทนคนอื่นไม่ได้หลับได้นอนอยู่58ชั่วโมงหลังจ่ายหาเงินครบแล้ว แล้วไปประกันตัวเขา วันต่อมาเราทำงานอยู่ๆเลือดออกจมูกไอเป็นเลือดแล้วก้อไม่ได้สติอีกเลยรู้สึกตัวอีกที่อยู่ที่ รพ.แล้วทาง รพ.โทรบอกแม่เราแม่เราโทรบอกพี่ชายเราแต่กลับไม่มีใครมาเลยจนเราออกจาก รพ. พวกเขาถึงมาเราก้อเลยกลับไปทำงานอีกผ่านไป3วันพี่เราโดนจับอีกแล้วครั้งนี้จะเอา50,000เราก้อเลยปล่อยให้โดนจับไปแล้วเขาก้อมาพากันว่าเราไม่รักครอบครัวเราจนปัญญาจิงๆที่จิงเรื่องร้ายๆก้อยังไม่หนีจากเราตอนนี้เราเป็นโรคประหลาดเกิดอาการท้องโตเหมือนคนท้องไปหาบอกนี้ไหนก้อให้คำตอบไม่ได้เศ้าสุดๆมะเร็งก้อพึ่งจะดีขึ้นโรคอื่นมาอีกแล้วจะไปทำงานที่ไหนก้อไม่ได้เพราะเขาไม่รับบอกเราท้องไม่รุ้จะเอาไงต่อกับชีวิต
ประสบการณ์แย่ๆในชีวิต