อันเนื่องมาจากกระทู้     
                         
 https://ppantip.com/topic/42036218

   ผมต้องการความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวไทยพุทธบริษัทที่มีใจยุติธรรมและรักความสงบ ที่จะช่วยสร้างมิตรภาพและความเข้าใจอันดี
ระหว่างพุทธบริษัทและผู้ต่างศาสนา ผมไม่มีที่พึ่งที่ใดที่จะสนทนากันอย่างผู้ที่มีความศรัทธาด้วยกัน ผมเคยสนทนากับพุทธบริษัทบางท่าน
เกี่ยวกับปัญหาทางพุทธศาสนาที่ผมขาดความเข้าใจ ซึ่งผมได้รับความร่วมมือจากท่านพุทธบริษัทเป็นอย่างดี ได้เข้าใจพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น
เป็นอย่างมากทีเดียว เนื่องจากผมไม่ต้องการที่จะรวมเอาพุทธบริษัทเลวๆคนหนึ่งที่ ดูหมิ่นหลักการของศาสนาอิสลามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วเหมารวมเอาพระพุทธศาสนาและพระพุทธองค์เข้ามาเกี่ยวข้องกับพุทธบริษัทที่มีจิตทรามเช่นนั้น  ผมจึงใคร่ขอความกรุณาจากสมาชิก
พุทธบริษัทผู้ที่มีศีลธรรมและน้ำใจยุติธรรมช่วยตักเตือนพุทธบริษัทผู้ที่สนุกกับการล้อเลียน หรือดูหมิ่นหลักการของศาสนาอิสลาม ศาสดา
ของศาสนาอิสลาม และสิ่งที่เคารพสูงสุดของศาสนาอิสลาม ให้เขามีสำนึกและหยุดการกระทำที่ไม่ใช่บุคลิกของพุทธบริษัทที่มีคุณธรรม

ศาสนาอิสลามก็ไม่ต่างจากศาสนาอื่นในเรื่องการตีความหลักศาสนา และวิธีการสอนของผู้รู้ และการดัดแปลงหลักปฏิบัติ ผิดไปจากคำสอน
ที่แท้จริงจากคัมภีร์ แต่เมื่อท่านได้รับคำอธิบายแล้วไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือเห็นด้วยหรือไม่ ด้วยมารยาทที่ดีรักสงบ ก็ควรหาทางหลีกเลี่ยงการ
โต้เถียงในเรื่องศาสนาระหว่างกัน สำหรับผมถ้าเห็นเยาวชนมุสลิมผู้ใด กล่าวไม่สุภาพและขาดเหตุผลต่อพระพุทธศาสนาแล้ว ผมมักจะตัก
เตือนทันที

ผมจำได้เสมอเมื่อผมมีคำถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ท่านพุทธสมาชิกพันทิปบางท่านปฏิบัติไม่ต่างจากคำสอนของศาสนาอิสลาม ซึ่งแสดง
ให้เห็นว่าพุทธศาสนาก็มีคำสอนไม่ต่างไปจากศาสนาอิสลามที่ว่า;

“จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของเจ้าด้วยสติปัญญาและคำสั่งสอนที่ดี และจงโต้เถียงกับพวกเขาด้วยแนวทางที่ดีที่สุด แท้จริง
   พระเจ้าของเธอทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่หลงจากทางของพระองค์ และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งว่าใครคือผู้ที่ได้รับทางนำ"
"Invite to the way of your Lord with wisdom and good instruction, and argue with them in a way that is best. Indeed,
your Lord is most knowing of who has strayed from His way, and He is most knowing of who is [rightly] guided."
(An-Nahl 16:125)
 
ถ้าคุณสมาชิกนามแฝง "ตาชั่งแขวน" อ่านกระทู้นี้โปรดกรุณาให้เหตุผลด้วยว่าเพราะเหตุใด "คุณจึงชอบใจ" ข้อความซึ่งไม่เป็น
ความจริง และเป็นการดูหมิ่นหลักศรัทธาของศาสนาอิสลาม 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(สมาชิกหมายเลข 6427669 ถูกใจ, ตาชั่งแขวน ถูกใจ)
สำหรับคุณ สมาชิกหมายเลข 6427669 คุณยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในหลักการของศาสนาอิสลาม ผมจึงจัดให้คุณเป็น
ผู้ที่ต้องเรียนรู้ก่อนที่คุณจะแสดงความเห็นด้วย ต่อข้อความที่ "เลวทรามต่อสตรีในศาสนาอิสลาม"
..............

 เรียนคุณตาชั่งแขวน  
ผมเคยคุยกับคุณเรื่องพระพุทธศาสนาซึ่งคุณแสดงความคิดเห็นกับผมและช่วยให้ผมเข้าใจพุทธศาสนามากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
ซึ่งผมชื่นชมในน้ำใจของคุณตลอดมา ทำให้ผมไม่ทราบว่าข้อความที่เลวทรามข้างล่างนี้คุณเห็นด้วยได้อย่างไร จากจิตใจ
ของผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์

 "มุสลิมชายที่มีต่อสตรี จะมองผู้หญิงเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงไว้ในครอบครอง จะแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงอยู่บ้างก็ตรง
ที่เลี้ยงดูผู้หญิงเพื่อเอาไว้เสพกามผลิตลูก" 

  ศาสนาอิสลามรวมทั้งท่านศาสดามูฮัมมัดไม่เคยดูถูก สติปัญญา ความคิดอ่านและความสามารถของเพศหญิง ว่าด้อยกว่า
เพศชาย มีแต่สอนให้ชายปกป้องและให้เกียรติสตรี ในทุกๆทางให้ความรักต่อ ภรรยา คุณทราบดีว่า เหตุผลที่จำกัดจำนวน
การมีภรรยาไม่เกิน 4 คน ภายใต้เงื่อนไขที่ยากที่ชายมุสลิมจะปฏิบัติได้(ยกเว้นชายอรับบางคนผู้ที่เคยชินต่อการมีภรรยามาก 
มาก่อนศาสนาอิสลามเมื่อถุกจำกัดลงมาไม่เกิน 4 คน เขาก็พยายามใช้สิทธินั้นโดยปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาสนาที่วางไว้)
 ผมได้อธิบายถึงวัตถุประสงค์ของศาสนยาในเรื่อง ภรรยา 4 คน นี้ไว้อย่างชัดเจนว่ามีความมุ่งหมายทางสังคมสงเคราะห์ ซึ่ง
ไม่ใช่ในเรื่องกามรมณ์, แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้ที่มีน้ำใจทรามต่อศาสนาอิสลาม ไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ในศาสนาอิสลามไม่เคยมองว่าเพศหญิงเปรียบเสมือนนางบำเรอของเพศชาย และหรือ บ้าคลั่งทางกามรมณ์ เป็น
อันตรายต่อหลักการของอิสลาม

 
  ที่ผมจำเป็นต้องเขียนถึงคุณโดยตรงเพราะผมเชื่อว่าคุณเป็นพุทธสมาชิกที่ดีมีใจเป็นธรรมและมีความยุติธรรมในการใช้หลัก
คำสอนของพระพุทธองค์ คือ  หลักธรรมกาลามสูตร

 กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระโคตมพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล กาลามสูตรเป็นหลัก
แห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็น
จริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่:1. มา อนุสฺสวเนน - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะฟังตามกันมา
2. มา ปรมฺปราย - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถือสืบกันมา
3. มา อิติกิราย - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ
4. มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีในตำรา
5. มา ตกฺกเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรรกะ
6. มา นยเหตุ - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะอนุมาน
7. มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะลักษณะอาการที่ปรากฎ
8. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะตรงกับความคิดของตน
9. มา ภพฺพรูปตา - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะดูน่าเชื่อถือ
10. มา สมโณ โน ครูติ - อย่าเพิ่งเชื่อเพราะเป็นครูของตน 

เนื่องจากคุณเป็นผู้รู้ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดีผู้หนึ่ง ซึ่งผมได้อ่านความคิดเห็นของคุณในหลายๆกระทู้ โดยเฉพาะกระทู้
"เรื่องพุทธวจน พระคึกฤทธิ์ ผิดตรงไหน".  https://ppantip.com/topic/42032417/comment18  ความเห็นของคุณแสดงให้
เห็นว่า คุณมีความรู้ทางพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งผู้หนึ่ง จึงทำให้ผมเข้าใจว่า คุณคงทราบดีว่าพระพุทธองค์ทรงสอนในเรื่องสตรี
อย่างไร โดยเฉพาะ "พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์"  แต่ผมไม่ชอบการสนทนาอย่างผู้ขาดสติ โต้ตอบกันไปมาในข้อที่เราเห็น
ต่างกันตามหลักการของแต่ละศาสนา "เสมือนเล่นปิงปอง" ซึ่งแสดงถึงความเขลา ความไม่เข้าถึงแก่นของคำสอนในศาสนาของ
เราเอง  ดังนั้นผมจึงถามคุณว่าคุณเห็นด้วยกับข้อความที่คุณแสดงความชอบจากใจจริงของคุณหรือ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"สังเกตตรรกะของมุสลิมชายที่มีต่อสตรี จะมองผู้หญิงเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงไว้ในครอบครอง จะแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงอยู่บ้างก็
ตรงที่เลี้ยงดูผู้หญิงเพื่อเอาไว้เสพกามผลิตลูก"...(สมาชิกหมายเลข 6427669 ถูกใจ, ตาชั่งแขวน ถูกใจ)
ถ้าคุณเห็นด้วยจากใจจริงและความคิดอ่านของคุณ ..ผมก็ไม่มีอะไรที่จะสนทนากับคุณในอนาคตอีก, แต่ถ้าคุณไม่เห็นด้วยคุณจะ
ให้คำแนะนำและสอนผู้ที่เขลาต่อหลักการของพระพุทธองค์ในเรื่อง "สตรีในทัศนะของพระพุทธองค์" ทรงกล่าวถึงสตรีว่าอย่างไร?
คุณจะยังคงมองศาสนาอิสลามว่า "ชายมองเพศหญิงเพศมารดาเดียวกับ มารดาของผมและของคุณว่า เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงไว้ในครอบ
ครอง อีกต่อไปหรือไม่?"
ผมยินดีที่จะสนทนากับคุณในเรื่องคำสอนของพระพุทธองค์ในเรื่องสตรีนี้ทางหลังไมค์เท่านั้น ต้องบอกให้คุณเข้าใจก่อนว่าผมเข้าใจดี
ว่าเพราะเหตุใดพระพุทธองค์ทรงสอนเช่นนั้น แต่ไม่ต้องการนำมาในกระทู้เนื่องจาก คนที่มีใจและะทัศนคติที่ทรามต่อศาสนาอิสลาม
จะฉวยโอกาศนำออกทะเล เพราะความเขลาของเขา