"ปลาเป็น ปลาตาย"
อาจจะดูแปลกๆ แต่ส่วนหนึ่งมาจาก "ความเชื่อใจ"
คิดว่าหลายท่านในช่วงเลือกตั้ง "มั่นใจ" ว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล และเป็นผู้นำรัฐบาล
จากแนวทางการทำงาน และผลงานที่ผ่านมา ทำให้หลายท่านเชื่อใจว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศแล้ว เศรษฐกิจการเงินจะดีขึ้น สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกจะดีขึ้น ฯลฯ ยิ่งเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมาแล้วก็ยิ่ง "มั่นใจ"
ความเชื่อใจ และมั่นใจในการทำงานของพรรคการเมือง และจะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลนี้แหละ ที่ทำให้ถูกมองว่าเป็น "ปลาตาย" เลือกตั้งครั้งนี้ยังไงก็ได้อยู่แล้ว ทำให้ "ปลาตาย" ถูกมองข้ามไป โดยธรรมชาติเราๆ ท่านๆ ก็จะไปแสวงหา "ปลาเป็น" จะเพื่อท้าทาย เพื่อหาความแปลกใหม่ หรือ เพื่อต่อยอดความต้องการที่เกินเลยไปจาก "ปลาตาย" ที่มีอยู่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วๆ ไป (แนวคิด 2 ใบ 2 พรรคก่อนลงคะแนนเลือกตั้งนั่นแหละที่เป็นตัวบอก)
ก่อนลงคะแนนหลายท่านยังมีความคิดว่า เรื่องปากท้อง "ปลาตาย" ต้องดูแลตามหน้าที่อยู่แล้ว ปัญหาอะไรถ้าจะเกิดขึ้นก็ให้ "ปลาตาย" ที่เป็นพี่ใหญ่ช่วยเคลียร์ให้ เป็นพี่เลี้ยงช่วยประคับประคอง ช่วยสอน ช่วยแนะ วิธีบริหารการจัดการให้ หรือแม้แต่เป็นกำแพงพิงหลังให้ ประเทศจะได้เดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดูได้จากกระแสก่อนเลือกตั้งที่แทบจะไม่มีคนสนใจนโยบายทางเศรษฐกิจเลยเล่นกันแต่เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับปากท้อง เผลอไปคิดอยากลองของใหม่หรือความต้องการอื่นที่อยากได้ใหม่ๆ ดีกว่า
พอหันกลับมาอีกที พบว่า "ปลาตาย" ไม่สมบูรณ์เต็มตัว ไม่ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ถนนเกือบจะทุกสายก็จะพยายามรั้ง ทั้งฉุดดึง ทั้งข่มขู่ให้ปลาตายมาร่วมรัฐบาล มาทำหน้าที่ที่เคยคาดหวัง ที่เคยมั่นใจไว้ จะด้วยวิธีอะไรก็เห็นกันอยู่
อยากจะบอกว่า เมื่อไม่สมบูรณ์เต็มตัว อย่าคาดหวังว่าจะได้ตามที่คิด อยากกินพุงปลาแล้วพุงปลาหายไปก็ไม่ได้กิน
หรือ ถ้าโชคไม่ดี "ปลาตาย" หายไปไม่ได้เข้าร่วมบริหารก็ต้องหวังพึ่ง "ปลาเป็น" ที่เลือกไว้อย่างเดียว
ปล.
กระทู้นี้กล่าวถึงหนึ่งในสาเหตุที่ไม่ชนะของพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองอื่น หรือกลุ่มคนที่ไม่ชอบพรรคการเมืองนี้อยู่แล้ว
พรรคเพื่อไทยที่แพ้เลือกตั้งครั้งนี้ แพ้เพราะความเชื่อใจ
อาจจะดูแปลกๆ แต่ส่วนหนึ่งมาจาก "ความเชื่อใจ"
คิดว่าหลายท่านในช่วงเลือกตั้ง "มั่นใจ" ว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล และเป็นผู้นำรัฐบาล
จากแนวทางการทำงาน และผลงานที่ผ่านมา ทำให้หลายท่านเชื่อใจว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศแล้ว เศรษฐกิจการเงินจะดีขึ้น สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกจะดีขึ้น ฯลฯ ยิ่งเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมาแล้วก็ยิ่ง "มั่นใจ"
ความเชื่อใจ และมั่นใจในการทำงานของพรรคการเมือง และจะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลนี้แหละ ที่ทำให้ถูกมองว่าเป็น "ปลาตาย" เลือกตั้งครั้งนี้ยังไงก็ได้อยู่แล้ว ทำให้ "ปลาตาย" ถูกมองข้ามไป โดยธรรมชาติเราๆ ท่านๆ ก็จะไปแสวงหา "ปลาเป็น" จะเพื่อท้าทาย เพื่อหาความแปลกใหม่ หรือ เพื่อต่อยอดความต้องการที่เกินเลยไปจาก "ปลาตาย" ที่มีอยู่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วๆ ไป (แนวคิด 2 ใบ 2 พรรคก่อนลงคะแนนเลือกตั้งนั่นแหละที่เป็นตัวบอก)
ก่อนลงคะแนนหลายท่านยังมีความคิดว่า เรื่องปากท้อง "ปลาตาย" ต้องดูแลตามหน้าที่อยู่แล้ว ปัญหาอะไรถ้าจะเกิดขึ้นก็ให้ "ปลาตาย" ที่เป็นพี่ใหญ่ช่วยเคลียร์ให้ เป็นพี่เลี้ยงช่วยประคับประคอง ช่วยสอน ช่วยแนะ วิธีบริหารการจัดการให้ หรือแม้แต่เป็นกำแพงพิงหลังให้ ประเทศจะได้เดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดูได้จากกระแสก่อนเลือกตั้งที่แทบจะไม่มีคนสนใจนโยบายทางเศรษฐกิจเลยเล่นกันแต่เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับปากท้อง เผลอไปคิดอยากลองของใหม่หรือความต้องการอื่นที่อยากได้ใหม่ๆ ดีกว่า
พอหันกลับมาอีกที พบว่า "ปลาตาย" ไม่สมบูรณ์เต็มตัว ไม่ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ถนนเกือบจะทุกสายก็จะพยายามรั้ง ทั้งฉุดดึง ทั้งข่มขู่ให้ปลาตายมาร่วมรัฐบาล มาทำหน้าที่ที่เคยคาดหวัง ที่เคยมั่นใจไว้ จะด้วยวิธีอะไรก็เห็นกันอยู่
อยากจะบอกว่า เมื่อไม่สมบูรณ์เต็มตัว อย่าคาดหวังว่าจะได้ตามที่คิด อยากกินพุงปลาแล้วพุงปลาหายไปก็ไม่ได้กิน
หรือ ถ้าโชคไม่ดี "ปลาตาย" หายไปไม่ได้เข้าร่วมบริหารก็ต้องหวังพึ่ง "ปลาเป็น" ที่เลือกไว้อย่างเดียว
ปล.
กระทู้นี้กล่าวถึงหนึ่งในสาเหตุที่ไม่ชนะของพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองอื่น หรือกลุ่มคนที่ไม่ชอบพรรคการเมืองนี้อยู่แล้ว