รู้สึกว่าลิซ่าควรเปลี่ยนแบรน Celine เป็นแบรนอื่นจะดีมั้ย รู้สึกช่วงหลังๆ ผมไม่ค่อยชอบแบรนนี้เลย

ทุกคนคิดว่าไง อาจจะคิดไปเองคนเดียว แต่รู้สึกว่าลิซ่า ไม่ได้ถูกทรีตแบบเมื่อก่อน อยากเปลี่ยนแบรนที่เค้าให้ความสำคัญเราจริงๆ ทั่งๆที่บอกได้ว่า แบรนตอนนั้นก็พึ่งจะรีแบรนมาใหม่ ลิซ่าก็มีส่วนในการส่งเสริมแบรนมาจนถึงจุดนี้ จะ 10-20% ก็มีส่วนช่วย แต่หลังๆผมรู้สึกหมดศรัทธากับแบรนนี้ ไม่อยากให้ค่าแล้ว ไม่รู้ทุกคนคิดแบบผมมั้ย อีกอย่าง ถ้าลิซ่าเปลี่ยนแบรน น่าจะได้เห็นลุคใหม่ๆของลิซ่าด้วย อีกอย่างตอนนี้แบรน celine ก็มาไกลมากๆแล้ว ในอนาคตเค้าคงได้ GBA คนใหม่มาแทนลิซ่า ตอนนี้ผมมอง Celine ดูให้ความสำคัญเราน้อยมาก หรือเพราะว่า ลิซ่า ไม่ได้ไปบุกตลาดจีนแบบแต่ก่อนหรอ ? ถึงดูเปลี่ยนไป
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
วันๆไปแต่งานไพรเวท สุดยอด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เป็นยูสอมยิ้ม

ที่ตั้งกระทู้ ตอบกระทู้แต่ละที

แบบได้ " เอ๊ะ " ตลอด
ความคิดเห็นที่ 5
คนที่รู้ดีที่สุดว่าเขาให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหนคือลิซ่าครับ  ถ้าลิซ่ายัง happy ดีกับแบรนด์  น้องก็คงต่อสัญญาไปเรื่อยๆ  แต่ถ้าน้องไม่ Happy  แล้วคุยกันไม่ลงตัว  ก็คงไม่ต่อสัญญา หาแบรนด์ใหม่ต่อไป  มันก็เป็นวิสัยของมืออาชีพครับ

เราคนนอกไม่รู้ข้อมูลเชิงลึก ไม่รู้ว่าทาง celine จ่ายให้ลิซ่ามากน้อยแค่ไหน  มี plan งานอะไรยังไงในอนาคตบ้าง  เอาอะไรไปตัดสินครับว่าเขาดูแลไม่ดี  หรือให้ความสำคัญกับคนอื่นเยอะเกินไป  

จริงอยู่ว่าแบรนด์อาจะจะมีปัญหากับชาวบ้านเยอะไปหน่อย  จนจำกัดการทำงานของน้อง การไปร่วมงานของน้องไปบ้างเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น  แต่ถ้าลิซ๋ายัง happy ดีกับข้อเสนอที่ทางแบรนด์ให้  ผมว่าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมั้ง  ก็ถือว่าได้พักผ่อนบ้าง  งานเยอะขนาดนี้

ตอนนี้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ติดกับภาพของลิซ่าขนาดนี้  ไปงานไหน ก็ส่งมือขวาประกบตลอด  ขนาดนี้ยังไม่ดีอีกเหรอครับ
ความคิดเห็นที่ 47
ขอแสดงความเห็นนะ

แบรนด์CELINE มีอายุไม่น้อยนะ 78ปี เลยทีเดียว เกิดขึ้นในปี 1945  สมัยก่อยเป็นแบรนด์มีชื่อในเฉพาะกลุ่ม แบรนด์คือเรียบ นิ่ง สไตล์มินิมมอล จากดีไซด์เนอร์ ไมเคิล คอร์ (Michael Kors) และเปลี่ยนมือไป  ฟีบิ ฟิลโล่ (Phoebe Philo) กลุ่มคนอายุ30++ พอเปลี่ยนยุค CELINE ในยุค Hedi Slimane เติบโตสูงกว่ายุคของ Phoebe Philo เกือบเท่าตัว เฮดิก็เปลี่ยนใหม่หมด ปรับเปลี่ยนโลโก้ของแบรนด์ ให้แบรนด์ดูเด็กลง  และทันสมัยมากขึ้น ที่สำคัญดึงเอาลิซ่าเป็น GBA คนแรกของแบรนด์

ส่วนยอดขายที่ดีก็ส่วนนึงมาจาก GBA ลิซ่าด้วย ที่ดึงเอาแบรนด์นี้ตอกย้ำคนรุ่นใหม่ ลิซ่าแบกแบรนด์นี้ไว้เยอะ จนมีสำนักข่าววิเคราะห์ว่าลิซ่ามีผลต่อแบรนด์ celine ยอดขายในยุคนี้มาก


ปัญหาหลัก ที่ถ้าพูดถึงคนทำธุรกิจ............GBA มีส่วนสำคัญต่อแบรนด์และ ยอดขาย มากกว่าดีไซด์เนอร์............ตรงนี้ ไม่ใช่ผลดีต่อแบรนด์นะ เพราะ ตามหลักการทำแบรนด์ แล้ว ดีไซด์เนอร์ คือหัวหอกสำคัญมากกว่า GBA เพราะเป็นคนออกแบบและต้องมองการตลาดให้ขาด

แต่ปัญหาตอนนี้คือ ลิซ่า ดันมีผลต่อการกระตุ้นยอดขายมากกว่า ดีไซด์เนอร์ .....เมื่อลิซ่าใส่แล้วโพสสินค้าในโซเชียล ทำให้เกิด แรงกระตุ้น เกิดความต้องการ เอนเกจ ต่อผู้บริโภคสูง

เฮดิทราบนะ และคิดว่า เหมือนน่าจะทดสอบอะไรหลายๆอย่าง ให้ลองดูว่า ถ้าลดความสำคัญของลิซ่าลง แล้วลองดูว่าดีไซด์เนอร์จะสามารถกระตุ้นยอดขายได้มากกว่า GBAไหม

CELINE ไม่ใช่  Chanel Dior  ต่อให้ไม่มี จีซู หรือ เจนนี่ เป็น GBA แบรนด์เค้าก็ขายได้ เพียงแต่พอมีGBAกลุ่มวัยรุ่นลง ก็สามารถสร้างขยายตลาดมากขึ้นของช่วงวัย  CELINE ไม่ใช่ Hermes ที่ขายได้ไม่ต้องอาศัย GBA ที่ทำมาไม่กี่แบบก็มีคนต่อแถวซื้อ มีเงินอย่างเดียวก็ซื้อไม่ได้ต้องสะสมยอดตามออเดอร์อีก ยอ่งสร้างความต้องการมากขึ้นไปอีก.
.
.
.
เฮดิเป็นคนที่เข้าถึงยาก ความคิดเค้า น่าจะทดสอบ ความสามารถตัวเองอยู่หรือเปล่า? การให้ลิซ่าแบกแบรนด์ ขนาดนี้ ไม่ใช่ผลดีต่อแบรด์ในแง่คนมองธุรกิจ..........


เพี้ยนแคปเจอร์.เปรียบเทียบคล้ายๆกับว่าสมมุติ บริษัท มีพนักงานคนนึง สำคัญต่อบริษัท ให้การขายของกระตุ้นการชายให้กับบริษัท แต่เกิดวันใดวันนึง พนักงานคนนั้นลาออก หรือไม่อยู่ บริษัทไม่มีคนสานต่อ ไม่มีคนประสานงาน ไม่รู้เรื่องงานต่อ เพราะไปให้ความสำคัญคนนึงคนใดมากสุดในองค์กร ทีนี้ คนเป็นหัวหน้าทำงานต่อไม่ได้

ลองคิดดิ เจ้าของกิจการจะรู้สึกยังไง?
ความคิดเห็นที่ 36
เอาจริง ความรู้สึกเราคือแบรนด์ happy นะที่ได้ลิซ่ามาเป็น GBA ดันยอดขายและภาพลักษณ์ แต่สิ่งที่แบรนด์เผชิญตอนนี้คือชื่อลิซ่าที่ไปไกลกว่าแบรนด์ไม่ว่าจะ tag trend ทุกงานที่ลิซ่าไปคือคนหวีดแต่น้อง นิตยสารที่ลงก็พาดไปที่ GBA เพื่อเรียกยอด engagement ยิ่งสื่อใหญ่อย่าง vogue ที่ไม่กินเส้นกับเอดิเลือกที่จะลงข่าวลิษแต่เลี่ยงที่จะพูดชื่อแบรนด์ น้อยมากที่คนจะชื่นชมชิ้นงานจริงๆ รีแบรนด์สำเร็จแล้วแต่งานหินของเซลีนคือจะทำยังไงให้คนจดจำตัวแบรนด์มากขึ้นเมื่อเทียบกับชื่อเสียงของ GBA เพื่อหาความสมดุลย์ระหว่างชื่อเสียงแบรนด์และ GBA การลดงานเบื้องหน้าน้องลงอาจจะเป็นกลยุทธ์นึง ส่วนลิษก็น่าจะ happy นอกจากค่าตอบแทนแล้วทุกงานที่ไปแบรนด์ก็ทรีทดีเป็น first priority ตลอด เชื่อเลยไม่ว่าจะงาน private หรือ public ก็จะไม่มีทางเริ่มจนกว่า GBA จะมานั่งที่ของเธอ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนลิษคือผู้บริหาร/หุ้นส่วนคนนึงไปแล้ว
ความคิดเห็นที่ 15
กระทู้มันจะดีอยู่แล้วแค่แฟนๆมาบ่น ด่าแบรนด์ไปก็จบ
อันนี้ไปพูดถึงคนอื่นเดี๋ยวก็มีวอร์
ให้คนมาด้อยค่าน้องอีก อยากรับบทอิจฉาเหรอ?
ให้เขาหัวเราะเหรอคะ?
พิมพ์อะไรก็คิดเยอะๆนะคะ บางคำที่มันไม่สร้างสรรค์ตัดออกบ้างก็ดีนะคะ. ไม่งั้นก็รอรับวอร์ได้เลยไม่กระทู้นี้
เขาก็ไปด่าสะใจอยู่กระทู้เขา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่