สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
Brand นี้เขามีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้เกี่ยวกับลิซ
ตอนเอาลิซมาก็แค่ฮือฮามากขึ้น ไม่มีลิซเขาก็คว้าคนอื่นมาต่อ
มันเป็นแค่การตลาดในวงการธุรกิจ
บางเรื่อง FC ก็สำคัญในตัวนักร้องเกินเบอร์
*************************************
Edit ให้อ่านตรงนี้เลยแล้วกัน
และผมก็ไม่ได้เป็นพวกแอนตี้แฟน ก็นิยมชมชอบน้องเค้าอยู่เสมอ
ผมก็ค่อนข้างแปลกใจพอสมควร ที่ความรักในๆอดอลบังตาจนแปลใจความได้ผิดขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสมัยนี้ถึงได้ถูกกระแสพาหลอกกันง่ายๆ
ประเด็นสรุปง่ายๆก็คือ ในการทำธุรกิจ แน่นอนซีลีนต้องการรีแบรนด์ตัวเองใหม่จากความเก่าคร่ำครึ
จึงได้นำลิซ่ามาช่วยโปรโมตเพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ มิใช่แบรนด์เติบโตมากับลิซ่า
ถ้าในอนาคตลิซ่าหมดสัญญาแล้ว ทางแบรนด์ก็อาจจะเปลี่ยนพรีเซนเตอร์คนใหม่ก็ถ้า ถ้าต้อฃการคงภาพลักษณ์ความทันสมัย
ซึ่งมันเป็นเรืาองปกติของการทำธุรกิจ เพราะกนะแสความนิยมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาก็ต้องเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ไปตามกาลเวลา
อย่าได้สำคัญผิดว่าไม่มีลิซ่าแล้วแบรนด์จะเหี่ยวเฉาลงไป มันก็เหมือนกับเวลาทำงานนั่นแหละ อย่าได้คิดว่าถ้าขาดฉันไปแล้ว บ จะตกต่ำลงไป
สรุป มันเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจนั่นแหละลิซ่าก็แค่คนที่ถูกดึงมาทำการตลาด ถึงเวลาที่เหมาะสม ก็เปลี่ยนคน เป็นเรื่องธรรมดา
ตอนเอาลิซมาก็แค่ฮือฮามากขึ้น ไม่มีลิซเขาก็คว้าคนอื่นมาต่อ
มันเป็นแค่การตลาดในวงการธุรกิจ
บางเรื่อง FC ก็สำคัญในตัวนักร้องเกินเบอร์
*************************************
Edit ให้อ่านตรงนี้เลยแล้วกัน
และผมก็ไม่ได้เป็นพวกแอนตี้แฟน ก็นิยมชมชอบน้องเค้าอยู่เสมอ
ผมก็ค่อนข้างแปลกใจพอสมควร ที่ความรักในๆอดอลบังตาจนแปลใจความได้ผิดขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสมัยนี้ถึงได้ถูกกระแสพาหลอกกันง่ายๆ
ประเด็นสรุปง่ายๆก็คือ ในการทำธุรกิจ แน่นอนซีลีนต้องการรีแบรนด์ตัวเองใหม่จากความเก่าคร่ำครึ
จึงได้นำลิซ่ามาช่วยโปรโมตเพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ มิใช่แบรนด์เติบโตมากับลิซ่า
ถ้าในอนาคตลิซ่าหมดสัญญาแล้ว ทางแบรนด์ก็อาจจะเปลี่ยนพรีเซนเตอร์คนใหม่ก็ถ้า ถ้าต้อฃการคงภาพลักษณ์ความทันสมัย
ซึ่งมันเป็นเรืาองปกติของการทำธุรกิจ เพราะกนะแสความนิยมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาก็ต้องเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ไปตามกาลเวลา
อย่าได้สำคัญผิดว่าไม่มีลิซ่าแล้วแบรนด์จะเหี่ยวเฉาลงไป มันก็เหมือนกับเวลาทำงานนั่นแหละ อย่าได้คิดว่าถ้าขาดฉันไปแล้ว บ จะตกต่ำลงไป
สรุป มันเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจนั่นแหละลิซ่าก็แค่คนที่ถูกดึงมาทำการตลาด ถึงเวลาที่เหมาะสม ก็เปลี่ยนคน เป็นเรื่องธรรมดา
สมาชิกหมายเลข 5450795 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2967627 ขำกลิ้ง, การบูรเมนทอลหอมเย็นชื่นใจ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6446094 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7784415 ขำกลิ้ง, puylogin ถูกใจ, 004 ถูกใจ, ounjipae สยอง, สมาชิกหมายเลข 7891502 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7837679 สยองรวมถึงอีก 124 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 29
โอ้ย นี้ลิซ่านะคะ ไม่ใช่ลูกอีแก้วอีคำที่ไหน ยังมีคนกล้าคิดว่าแฟนคลับมโน สำคัญตัวเรื่องความดังของนางอยู่หรอ
ก็จริงที่นางจะอยู่หรือไปเซลีนก็ไม่ล่มจมหรอกจ้า อยู่มาก่อนลิซ่ายังไงเซลีนมันก็อยู่ต่อไปได้ แต่เซลีนอิมแพคขึ้นได้ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะลิซ่าจะเป็นใครล่ะคะ
และสุดท้ายเซลีนจะรุ่งหรือร่วงหลังจากนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า เซลีนไม่เคยแบกนาง แต่นางแบกเซลีนอันนี้ก็โลกประจักษ์ชัดเจน ไม่ได้สำคัญตัวนะจ๊ะ ดังจริงค้าา
ก็จริงที่นางจะอยู่หรือไปเซลีนก็ไม่ล่มจมหรอกจ้า อยู่มาก่อนลิซ่ายังไงเซลีนมันก็อยู่ต่อไปได้ แต่เซลีนอิมแพคขึ้นได้ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะลิซ่าจะเป็นใครล่ะคะ
และสุดท้ายเซลีนจะรุ่งหรือร่วงหลังจากนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า เซลีนไม่เคยแบกนาง แต่นางแบกเซลีนอันนี้ก็โลกประจักษ์ชัดเจน ไม่ได้สำคัญตัวนะจ๊ะ ดังจริงค้าา
สมาชิกหมายเลข 6844975 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2967627 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7277006 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2205958 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7784415 สยอง, สมาชิกหมายเลข 7726815 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 7242842 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5604987 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4110270 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7837679 ถูกใจรวมถึงอีก 115 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 31
จำได้ว่าตอน Lisa ถูกตั้งเป็น muse ของ celine ยังมีแต่คนบอกว่าเป็นแบรนด์ระดับล่างๆ โบราณ มีแต่คนแก่ใช้กัน (ยุคก่อนลุงจะเข้ามา) ข่มกันกระจุยกระจาย ว่าไม่ได้แบรนด์ระดับ TOP
แต่พอ Lisa ปลุกกระแสแบรนด์กลับมาติดตลาดได้ มีข้อมูลชัดเจนว่าหลัง lisa เข้ามา ยอดขายแบรนด์โตขึ้นหลายเท่าตัว
วันนี้กลายเป็นว่าแบรนด์ดังมาก่อนแล้ว ลิซ่าไม่ได้มีผลอะไร เหอๆๆ
สิ่งที่ต้องยอมรับคือ Lisa คือภาพจำของ Celine ในยุคนี้ไปแล้ว และคนรุ่นใหม่ที่มาซื้อแบรนด์นี้ ก็ตาม Lisa กันมานะแหละ ก่อนนั้นเคยมีคนไทยคนไหนใช้ celine ออกสื่อกันบ้าง ตอนนี้ใส่กันรัวๆ และสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ที่ไทย แต่เป็นกันทั้งโลก นี่แหละอิทธิพลของ GBA ที่เจ้าของแบรนด์รัก เพราะสามารถสร้างยอดขายได้
ส่วนประเด็นว่า lisa จะทิ้ง celine แล้วไป LV หรือเปล่า อันนี้ไม่มีใครรู้ เพราะยังไม่มีข่าวออกมา
Lisa อาจจะขยับไปเป็น GBA ให้กับเครือ LVMH ทั้งเครือเลยก็ได้ คือสามารถเลือกใช้แบรนด์อะไรก็ได้ในเครือ ไปร่วมงานได้หมด ใช้สินค้าออกสื่อได้หมด เพราะช่วงหลังก็เห็นใช้สลับกันทั้ง celine lv dior มันน่าจะมีนัยยะสำคัญพอสมควร
แล้วที่สำคัญในซีรีย์ HBO เรื่องใหม่ แม้จะยังไม่รู้ว่า airtime lisa ในซีรีย์จะมากน้อยแค่ไหน แต่เราน่าจะเห็นแฟชั่นของลิซ่าในซีรีย์เพียบแน่ๆ
ก็รอดูกันต่อไป ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่จากกระแสงาน PFW ล่าสุด บอกเลยว่า แบรนด์ไหนก็ต้องการตัว Lisa กันทั้งนั้น ส่วนแอนตี้ก็สู้ๆ นะ เหนื่อยใจแทน นี่พึ่งสามเดือนแรกแห่งปีเอง เปิดค่ายตัวเองแป๊ปเดียว งานปังๆ ก็เข้ารัวๆ หุๆๆ
แต่พอ Lisa ปลุกกระแสแบรนด์กลับมาติดตลาดได้ มีข้อมูลชัดเจนว่าหลัง lisa เข้ามา ยอดขายแบรนด์โตขึ้นหลายเท่าตัว
วันนี้กลายเป็นว่าแบรนด์ดังมาก่อนแล้ว ลิซ่าไม่ได้มีผลอะไร เหอๆๆ
สิ่งที่ต้องยอมรับคือ Lisa คือภาพจำของ Celine ในยุคนี้ไปแล้ว และคนรุ่นใหม่ที่มาซื้อแบรนด์นี้ ก็ตาม Lisa กันมานะแหละ ก่อนนั้นเคยมีคนไทยคนไหนใช้ celine ออกสื่อกันบ้าง ตอนนี้ใส่กันรัวๆ และสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ที่ไทย แต่เป็นกันทั้งโลก นี่แหละอิทธิพลของ GBA ที่เจ้าของแบรนด์รัก เพราะสามารถสร้างยอดขายได้
ส่วนประเด็นว่า lisa จะทิ้ง celine แล้วไป LV หรือเปล่า อันนี้ไม่มีใครรู้ เพราะยังไม่มีข่าวออกมา
Lisa อาจจะขยับไปเป็น GBA ให้กับเครือ LVMH ทั้งเครือเลยก็ได้ คือสามารถเลือกใช้แบรนด์อะไรก็ได้ในเครือ ไปร่วมงานได้หมด ใช้สินค้าออกสื่อได้หมด เพราะช่วงหลังก็เห็นใช้สลับกันทั้ง celine lv dior มันน่าจะมีนัยยะสำคัญพอสมควร
แล้วที่สำคัญในซีรีย์ HBO เรื่องใหม่ แม้จะยังไม่รู้ว่า airtime lisa ในซีรีย์จะมากน้อยแค่ไหน แต่เราน่าจะเห็นแฟชั่นของลิซ่าในซีรีย์เพียบแน่ๆ
ก็รอดูกันต่อไป ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่จากกระแสงาน PFW ล่าสุด บอกเลยว่า แบรนด์ไหนก็ต้องการตัว Lisa กันทั้งนั้น ส่วนแอนตี้ก็สู้ๆ นะ เหนื่อยใจแทน นี่พึ่งสามเดือนแรกแห่งปีเอง เปิดค่ายตัวเองแป๊ปเดียว งานปังๆ ก็เข้ารัวๆ หุๆๆ
สมาชิกหมายเลข 2967627 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2205958 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7726815 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 5604987 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7837679 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6674061 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 8001551 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 4392133 ถูกใจ, ying noname ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298293 ถูกใจรวมถึงอีก 93 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 30
ส่วนตัวนะ เอาแบบเดาๆเลย เราก็ตามลิซ่ามาซักพัก เราว่า พักหลังน้องเหมือนจะประกาศให้สื่อหรือFCรู้แบบนัยๆว่า น้องไม่ยึดติดกับ Celine แล้ว
เพราะน้อง เวลาอัพIGก็ชัดเจนมาก ยิ่งหลังๆเอาแบรนด์อื่น ขึ้นหน้าIGเด่นเลย ก่อนหน้านั้น ลิซ่าเวลาจะโพสอะไร น้องต้องศึกษากฏหมายมาด้วยแหละว่า สัญญา มันระบุไว้ยังไง จำได้ช่วงที่น้องเป็น GBAของ Celine แรกๆ น้องมีโพสรูปแบรนด์อื่นเด่นมาก พอไม่กี่วินาที ก็รีบลบออกทันที
เราไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยว่า สัญญาระบุไว้ยังไง เพราะ Celine ไม่มีเคมเปญ ใหม่ๆออกมาให้ลิซ่าเลย หรือ หมดสัญญาแล้วหรือเปล่า หรือ แบรนด์ เค้า วางกลยุทธอะไรไว้ เพราะถ้าใครที่ตามCeline มากับลิซ่า เราจำได้ เวลาแฟชั่นวีค เกิดขึ้น
เฮดิ จะทำการตลาดแย่งพื้นที่สื่อ ช่วงแฟชั่นวีค เช่น ให้ลิซ่าไปเปิดตัว แบรนด์ที่Shop เพื่ออาศัยการทวิตขึ้นแทรนด์ หรือบางช่วงก็ปล่อย VDO ของ Celine ออกมา แต่พักหลัง Celine แทบไม่ประสานงานอะไรกับลิซ่าเลย เพราะน้องเพิ่งไปออกงานปลายปีที่แล้วที่Celine สยามพารากอน ซึ่งพอหลังจากหมดต้นปี ลิซ่าก็ได้ใส่แบรนด์ Celine น้อยลงชัดมาก แต่ใส่แบรนด์อื่นเยอะมาก
อีกอย่าง ทำให้แบรนด์ไหนๆจะไม่อยากได้ลิซ่า ต้องถามแบบนี้ดีกว่า............แต่Celine ล่ะ ทรีต GBA แบรนด์ดีมากน้อยแค่ไหน?
ให้ออกงานไพรเวท พื้นที่สื่อก็น้อยมาก FCปั่นทวีตยังไงก็ไม่รู้จะขุดหารูปคลิบมาจากไหน? เพราะงานไพรเวทมาก คนในงานก็คนมาดูแฟชั่นโชวN ไม่ได้บ้าคลั่งลิซ่า ขนาดต้องถ่ายรูปหรือคลิบรัวๆ เพราะคนพวกนี้คือ พวกแฟชั่น ไม่ได้คลั่งK-pop
บางคนบางว่า LV เค้าแค่เชิญลิซ่ามาในงานเฉยๆไม่ใช่GBA แต่พวกคุณไม่เคยคิดเลยหรอ?
บางอย่างน้อง กับ แบรนด์ก็ส่งสัญญาณชัดมาก เช่น
หรือแม้แต่ น้องลงรูป ก็ แท็คหาดีไซด์เนอร์ชัดเจนขนาดนี้ แถมโพสลงIGด้วย แบบออกตัวเลย
แล้ว ถ้าน้องเป็นแค่แขกรับเชิญทั่วไป ทำไมน้องได้สิทธ ได้ซีนเด่นในงาน ไม่ว่า การออกเป็นคนสุดท้ายในงาน เพื่อให้สื่อถ่ายรูป ซึ่งถ้าไม่สำคัญขนาดนี้ แบรนด์เค้าไม่ทรีตขนาดนั้นนะ
แล้วการ์ดและเจ้าหน้าที่ของแบรนด์ก็ประกบลิซ่า แถมทรีตออกหน้ามากกว่า (คำว่าแขก รับเชิญ ทั่วไป)
เชื่อว่า สุดท้าย เค้าคงดิลอะไรกันบ้าง เพราะ อย่าลืมว่า (ทำไม น้องต้องแคร์ เฮดิ หรือ Celine ขนาดนั้น ทุกอย่าง คือการ จ้างกัน และเพิ่งมากัน) อีกอย่างเฮดิ ก็เดาใจยาก เพราะเค้ารู้ว่า Celine กับ ลิซ่า ผูกติดกันเกินไป ในแง่คนทำธุรกิจแบรนด์ มันไม่ดีนะ คนที่สำคัญของแบรนด์อันดับ1คือ
1.ดีไซด์เนอร์ (เพราะคนคิดสร้างสรรค์งาน ผลงาน และ ฝีมือ)
2.การประชาสัมพันธ์ ของแบรนด์ สำคัญรองลงมา เพราะ งานดีออกแบบดี ต้องประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อได้กะแส
3.GBA เป็นคนที่แค่ตอกย้ำแบรนด์ แต่ ไม่ควรสำคัญมากกว่า ดีไซด์เนอร์ หรือแบรนด์ เค้าจ้างมาเพื่อกระตุ้นยอดขายและภาพลักษณ์แบรนด์
แต่ในกรณีลิซ่า กลับกันไปหมด เพราะ
1. ลิซ่า= Celine
2.ดีไซด์เนอร์ แทบจะไม่มีคนนึกถึงเลยสำหรับแบรนด์นี้ เพราะ มันผูกติดของคนทั่วไปคือ ลิซ่า= Celine
แน่นอนเฮดิเค้าไม่ปลื้มมากเพราะถ้ายอดขายมาจาก GBA คนแห่ซื้อเพราะ ลิซ่า ไม่ใช่ซื้อเพราะดีไซด์เนอร์รังสรรค์ออกแบบถูกใจ
เหมือนCelineก็ลดบทบาทลิซ่าลงอย่างเห็นได้ชัด ออกงานไพรเวท พื้นที่สื่อน้อยมาก มีGBA ดังๆ3คนทั้ง V ลิซ่า โบกอม แต่ตลกที่3คนนี้ไม่มีเคมเปญอะไรออกมาเลยสำหรับแบรนด์ที่ทำงานร่วมกันเขย่าสื่อโซเชียล หลังจากที่3คนเคยทำโซเชียลพังมาแล้ว ที่ไปออกงานร่วมกันที่ปารีส ส่วนลิซ่าเอง ก็ไม่ใช่เด็กๆหรือเป็นคนอ่อนคนยอมไปหมดทุกอย่าง คุณจ้างฉัน แต่ให้พื้นที่สื่อกับฉันน้อยมาก จะไพรเวทให้ใครดู ทั้งที่น้องก็ดังระดับโลกลับกัน LV คือแบรนด์แรงกิ้ง ระดับบน จำได้ว่า อยู่ตัวท็อปของเครือLVMH แต่แบรนด์Celine จากตำแหน่ง จะอยู่กลางๆ ไม่ใช่ระดับบนยอดLuxuryของเครือ แล้วถ้า LV หยิบยื่นโอกาสให้ ทำไมลิซ่าจะไม่เอา
LV เทียบภาษีกับ ความนิยม มีมากกว่า Celine มาก เพราะเป็นแบรนด์ที่ ต่อยอดได้ขายได้ ต่างกับ Celine ราคาขายแพงเวอร์วัง แต่ขายราคาตก แถมแบรนดืก็ไม่ใช่Luxuryด้วย แต่ตั้งราคาโอโห เท่ากับChanel ได้มั้ง ตอนนี้ ต้องดู Celine ก่อน ว่าจะมีอะไรสานต่อ ลิซ่าไหม? เพราะล่าสุด ยอดขายน่าจะตกด้วยเพราะหลายคนบอก สินค้าราคาแพงโอเวอร์มาก สวนทาง แมททีเรียล มาก คนก็ไม่ค่อยซื้อแล้ว คิดดูราคากระเป๋าะเกินครึ่งแสนไปแล้ว กับบางรุ่น จาก4หมื่นไปจะ6หมื่นบาท ทั้งที่ลุคก็ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้ดี ลุกคุณ เล้ย
อีกอย่าง แบรนด์ทั้ง LV กับ Celine ก็ขายคนละกลุ่มกัน ไม่ตีกันอยู่แล้ว ถ้าลิซ่าอนาคตจะเซ้นต์อีกแบรนด์ ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรกับ เฮดิ เพราะเฮดิแค่ลูกจ้าง คนจ้างคือ LVMH เค้าเลือกเพื่อสานต่อยอดขาย เราไม่รู้แหละว่า ในแง่ ธุรกิจ เครื่อ เค้ามีกลยุทธอะไร หรือลิซ่าอาจจะรับ%ไหม? เพราะจากงาน หรือ ดีไซด์เนอร์และแบรนด์ LV พร้อมใจตามIGลิซ่าครบ นั้น= อาจจะมีข่าวดีก็ได้
แขกรับเชิญทั่วไป เค้าคงไม่ทรีตในงานขนาดนี้
ลิซ่านั่งประกบข้างกับ Sophie Turner สุดยอดนักแสดงแห่งยุคผู้ดำรงตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของหลุยส์ วิตตองมานานหลายปี รวมถึง Ana de Armas ทั้ง 2 คนถือว่าเป็นบุคคลระดับแถวหน้าของแบรนด์โดยแท้จริง นั่นหมายถึงลิซ่าถูกให้ความสำคัญและแสงสปอตไลต์ในระดับเดียวกัน และแน่นอนว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าแบรนด์กำลังดูแลลิซ่าในฐานะบุคคลระดับแถวหน้าเช่นกัน
คำถาม Celine คิดว่าแบรนด์นี้จะยังปังอยู่อีกมั้ย?
เค้าก็อยู่ได้ แบรนด์นี้เค้ามีมานานแล้ว สมัย Old Celine เค้าก็มีกลุ่มของเค้า แต่ถ้าลิซ่าออกไปจริง ก็มีผลต่อ แบรนด์พอควรระดับนึง เพราะ ลิซ่าทำยอดขายให้แบรนด์หลายชิ้นมากแบบ Sold Out ที่น้องโพสลงIG นั้น= ลิซ่ามีผลต่อ คนซื้อแบรนด์นี้มากพอควร หลายคนซื้อเพระชอบลิซ่าเอาง่ายๆ ถ้าคุณมีเงิน6หมื่นบาท(เกินครึ่งแสน) ถ้าลิซ่าไม่ได้เป็นGBAของ Celine ถามหน่อย คุณจะซื้อไหม ราคาสินค้าเท่า LV เท่า Chanel เอาง่ายๆๆๆ คุณคิดว่า Celine ยังน่าลงทุนอีกไหม? นั้นแหละคำตอบ
อีกอย่าง สินค้าทั้งหมด อยู่ในเครือ LVMH มันไม่ได้สำคัญอะไร ว่าลิซ่าจะออกจาก Celineไหม?
คนที่กุมขมับคือเฮดิ เพราะเค้าเองต้องทำงานหนักมาก เพื่อสร้างผลงานและยอดขายให้ปังได้โดยไม่มีลิซ่า จะทำได้ไหม? ลิซ่าไม่จำเป็นต้องแคร์ เฮดิ (เพราะ เรา2คนมันก็แค่ลูกจ้างจ้า เฮดิไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ จะแคร์เพื่ออะไรก่อน? ใครยื่นข้อเสนอดีดีมาให้ฉัน ใครไม่รับก็โง่แล้ว)
เพราะถ้าLVMHเค้าอยากได้ใครมาแจมในเครือต่อยอดแบรนด์อื่นๆ คนสำคัญมาในแบรนด์ จะแบรนด์ไหน ก็สำคัญหมด celine ยังไงเค้าก็อยู่ได้ มีกลุ่มของเค้า ต่อให้ไม่มีลิซ่าแบรนด์นี้ก็มีกลุ่มเฉพาะคนที่เล่น เพียงแต่ตอนนี้ Celine มันถีบตัวเองอัพราคาไปดาวอังคารไปแล้ว นั้น=คนที่คิดจะซื้อเพื่อเก็งกำไร ขายต่อต้องทำใจ เพราะแบรนด์มันไม่ใช่กลุ่มคนเล่นวงกว้างแบบ LV / Dior / Chanel คือแบรนด์พวกนี้ ต่อให้ไม่มีGBA วงBlackpink ยังไงแบรนด์เค้าก็ขายได้ เช่น คนซื้อChanel เค้าซื้อไม่ได้มาจากเจนนี่ คนที่ซื้อแบรนด์นี้ เพราะคนที่คลั่งไคล้แบรนด์ ไม่ใช่คลั่งไคล้ GBA เพราะว่าแบรนด์พวกนี้อยู่ระดับบนเครือ LVMH ทุกแบรนด์ก็อยู่ในเครือ LVMH บางทีเค้าก็อยากกระตุ้นแบรนด์ก็ได้ อีกอย่าง ลิซ่าเธอมีลุคหลากหลายมาก เธอจะไปแบรนด์ไหน ก็เปลี่ยนลุคได้หมด
ปัญหามันอยู่ที่ ความสบายใจ และต่างฝ่ายต่างเพิ่งพากัน เพื่อกระตุ้นแบรนด์ให้เติบโต อย่าไปยึดติดกับ ลิซ่า=Celine
ต้องบอก ลิซ่า = LVMH มากกว่าถึงจะถูก (คือใครจ้างตรู และให้พื้นที่ฉัน สมราคาจ้าง ก็รับข้อเสนอหมด ต่างคนต่างเพิ่งพากัน)
เอาตรงๆแบรนด์ Celine ประวัติแบรนด์ CELINE เกิดขึ้นในปี .....1945 คิดดู จะ80ปี ......แล้วนะ แบรนด์นี้ เค้าอยู่มานานโดยไม่มีGBA
โดยมาดาม เซลีน วิเพียน่า (Ćeline Vipiana) เเละ ริชาร์พ (Richarp) สามีของเธอ ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นร้านผลิตรองเท้าเล็กๆ สำหรับเด็ก ฝั่ง Left Bank ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากการดูเเลของ Ćeline ทำให้ เเบรนด์ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยม จนต้องขยายร้านเเละสาขาในปี 1948 หลังจากได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นก็ได้มีการพัฒนา จากที่ทำรองเท้าเด็กก็เริ่มผลิตเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง เน้นสไตล์เรียบหรู ดูดี ใส่ได้ ทุกวัน และเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงที่ชอบเล่นกีฬา เพิ่มสินค้าพวกเครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้าสำหรับผู้ใหญ่ เข็มขัด ถุงมือ และในปี 1964 เป็นแบรนด์ที่ล้มลุกคลุกคลานเปลี่ยนดีไซด์เนอร์ไปหลายคน แล้วช่วงพีคของแบรนด์นี้ก็มีนะในแวดวงแฟชั่น ไม่ใช่มาดังมาจากเฮดินะ เค้าดังในช่วง ยุคของเค้า เช่น ดีไซด์เนอร์คนเก่าอย่าง Phoebe Philo ถือเป็นผู้ที่ทำให้แบรนด์ CELINE ประสบความสำเร็จอีกครั้ง ผ่านผลงานการดีไซน์ที่ให้ความเก๋ ความเรียบโก้ และมินิมอล เหมือนกับที่ Ćeline Vipiana ได้เคยสร้างไว้ โดยให้ผู้หญิงสวมใส่ได้ทุกโอกาส พร้อมการตัดเย็บที่ละเอียดคมชัด ก่อนจะประกาศลาออก ในปี 2017 หลังเสร็จคอลเลคชั่น “Fall 2018” ก่อนจะสัปเปลี่ยนดีไซด์เนอร์คนใหม่ อย่าง เฮดิ เข่ามาแทน
ยุค Old Celine เค้ามีเอกลักษณ์แบรนด์ชัดมาก เรียบ โก้ ภูมิฐาน ตัดเย็บเนี๊ยบกริบ สไตล์ผู้ดี มินิมอล
ลูกค้าเซเลปตัวแม่ก็นิยมมานานแล้ว ด้วยสไตล์งานที่เป็นแบบ Stealth Wealth” หรือ “Quiet Luxury” แปลอย่างง่ายๆ ว่าเป็นสไตล์การแต่งตัว “หรูแบบไม่ต้องโชว์โลโก้ แพงโดยไม่ต้องตะโกน”
ซึ่งกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในยุคนี้ แต่พอแบรนด์นี้เปลี่ยนคอเคลเตอร์แบรนด์ใหม่หมด เป็นสไตล์ของ เฮดิ แบบหน้ามือเป็นหลังมือ คือ (ลูกค้ากลุ่มเดิมของ Old Celine ส่วนมากแอนตี้งานของ เฮดิ เพราะมันคือเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ หรูผู้ดีแบบมินิมอล กลายเป็น แฟชั่นร็อค ฮิปปี้ ร็อกแอนด์โรล ตามสไตล์ที่เฮดิ คลั่งไคล้ ยุค70s and 80s)
แต่นอนว่า ด้วยสไตล์งานแบบ ไม่ได้เน้นLuxury หรูเรียบ นิ่ง แบบเดิม แต่กลับกลายเป็นอัพราคาเท่าแบรนด์หรูLuxury ของเครือระดับบน เลยทำให้ กลุ่มลุกค้า Celine ตลาดวัยรุ่ยเริ่มลังเลในการตัดสินใจซื้อ
พอนึกออกป่ะ (คือ สมมุติ เสื้อผ้าตัวละ5หมื่นกว่า ถ้าไม่บอกว่าแบรนด์ Celine หรือไม่มีโลโก้ แบรนด์แบบตะโกนในชิ้นงาน คนที่ซื้อ ก็ชั่งใจ เพราะ ถ้าราคาเท่ากัน มีโลโก้แบรนด์ติด ระหว่าง Celine / Chanel เอาตรงๆๆ คนมันก็ไปซื้อ Chanel ดีกว่า เพราะแบรนด์แข็งแรงมากในแง่ อุปทานหมู่)
ส่วนเรื่อง Celine คิดว่าแบรนด์นี้จะยังปังอยู่อีกมั้ย? ในเมื่อ สินค้าฟุ่มเฟือย มันอาศัยปัจจัย(อุปทานหมู่) เป็นเรื่องของ ค่านิยม และ การลงทุน ดังนั้น ต่อให้ไม่มีลิซ่าต่อ แบรนด์ก็ต้องดำเนินต่อไป เค้าก็คงมีกลุ่มตลาดของเค้า หรือคนรุ่นใหม่ บางคนอาจจะชอบสไตล์ Celine แบบ เฮดิ เพราะลุคดูเด็กลง สนุกขึ้น ใส่ง่ายขึ้น (ขึ้นอยู่กับรสนิยม แต่ละบุคคล)
บางที LVMH อาจจะต้องการให้ลิซ่ากระตุ้น แอนเกจ แบรนด์ในเครือก็ได้ เพราะรู้ว่าลิซ่ามีอิทธิพลในโลกโซเชียล 2แบรนด์ก็อยู่ในเครือเดียวกัน
เพราะน้อง เวลาอัพIGก็ชัดเจนมาก ยิ่งหลังๆเอาแบรนด์อื่น ขึ้นหน้าIGเด่นเลย ก่อนหน้านั้น ลิซ่าเวลาจะโพสอะไร น้องต้องศึกษากฏหมายมาด้วยแหละว่า สัญญา มันระบุไว้ยังไง จำได้ช่วงที่น้องเป็น GBAของ Celine แรกๆ น้องมีโพสรูปแบรนด์อื่นเด่นมาก พอไม่กี่วินาที ก็รีบลบออกทันที
เราไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยว่า สัญญาระบุไว้ยังไง เพราะ Celine ไม่มีเคมเปญ ใหม่ๆออกมาให้ลิซ่าเลย หรือ หมดสัญญาแล้วหรือเปล่า หรือ แบรนด์ เค้า วางกลยุทธอะไรไว้ เพราะถ้าใครที่ตามCeline มากับลิซ่า เราจำได้ เวลาแฟชั่นวีค เกิดขึ้น
เฮดิ จะทำการตลาดแย่งพื้นที่สื่อ ช่วงแฟชั่นวีค เช่น ให้ลิซ่าไปเปิดตัว แบรนด์ที่Shop เพื่ออาศัยการทวิตขึ้นแทรนด์ หรือบางช่วงก็ปล่อย VDO ของ Celine ออกมา แต่พักหลัง Celine แทบไม่ประสานงานอะไรกับลิซ่าเลย เพราะน้องเพิ่งไปออกงานปลายปีที่แล้วที่Celine สยามพารากอน ซึ่งพอหลังจากหมดต้นปี ลิซ่าก็ได้ใส่แบรนด์ Celine น้อยลงชัดมาก แต่ใส่แบรนด์อื่นเยอะมาก
อีกอย่าง ทำให้แบรนด์ไหนๆจะไม่อยากได้ลิซ่า ต้องถามแบบนี้ดีกว่า............แต่Celine ล่ะ ทรีต GBA แบรนด์ดีมากน้อยแค่ไหน?
ให้ออกงานไพรเวท พื้นที่สื่อก็น้อยมาก FCปั่นทวีตยังไงก็ไม่รู้จะขุดหารูปคลิบมาจากไหน? เพราะงานไพรเวทมาก คนในงานก็คนมาดูแฟชั่นโชวN ไม่ได้บ้าคลั่งลิซ่า ขนาดต้องถ่ายรูปหรือคลิบรัวๆ เพราะคนพวกนี้คือ พวกแฟชั่น ไม่ได้คลั่งK-pop
บางคนบางว่า LV เค้าแค่เชิญลิซ่ามาในงานเฉยๆไม่ใช่GBA แต่พวกคุณไม่เคยคิดเลยหรอ?
บางอย่างน้อง กับ แบรนด์ก็ส่งสัญญาณชัดมาก เช่น
หรือแม้แต่ น้องลงรูป ก็ แท็คหาดีไซด์เนอร์ชัดเจนขนาดนี้ แถมโพสลงIGด้วย แบบออกตัวเลย
แล้ว ถ้าน้องเป็นแค่แขกรับเชิญทั่วไป ทำไมน้องได้สิทธ ได้ซีนเด่นในงาน ไม่ว่า การออกเป็นคนสุดท้ายในงาน เพื่อให้สื่อถ่ายรูป ซึ่งถ้าไม่สำคัญขนาดนี้ แบรนด์เค้าไม่ทรีตขนาดนั้นนะ
แล้วการ์ดและเจ้าหน้าที่ของแบรนด์ก็ประกบลิซ่า แถมทรีตออกหน้ามากกว่า (คำว่าแขก รับเชิญ ทั่วไป)
เชื่อว่า สุดท้าย เค้าคงดิลอะไรกันบ้าง เพราะ อย่าลืมว่า (ทำไม น้องต้องแคร์ เฮดิ หรือ Celine ขนาดนั้น ทุกอย่าง คือการ จ้างกัน และเพิ่งมากัน) อีกอย่างเฮดิ ก็เดาใจยาก เพราะเค้ารู้ว่า Celine กับ ลิซ่า ผูกติดกันเกินไป ในแง่คนทำธุรกิจแบรนด์ มันไม่ดีนะ คนที่สำคัญของแบรนด์อันดับ1คือ
1.ดีไซด์เนอร์ (เพราะคนคิดสร้างสรรค์งาน ผลงาน และ ฝีมือ)
2.การประชาสัมพันธ์ ของแบรนด์ สำคัญรองลงมา เพราะ งานดีออกแบบดี ต้องประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อได้กะแส
3.GBA เป็นคนที่แค่ตอกย้ำแบรนด์ แต่ ไม่ควรสำคัญมากกว่า ดีไซด์เนอร์ หรือแบรนด์ เค้าจ้างมาเพื่อกระตุ้นยอดขายและภาพลักษณ์แบรนด์
แต่ในกรณีลิซ่า กลับกันไปหมด เพราะ
1. ลิซ่า= Celine
2.ดีไซด์เนอร์ แทบจะไม่มีคนนึกถึงเลยสำหรับแบรนด์นี้ เพราะ มันผูกติดของคนทั่วไปคือ ลิซ่า= Celine
แน่นอนเฮดิเค้าไม่ปลื้มมากเพราะถ้ายอดขายมาจาก GBA คนแห่ซื้อเพราะ ลิซ่า ไม่ใช่ซื้อเพราะดีไซด์เนอร์รังสรรค์ออกแบบถูกใจ
เหมือนCelineก็ลดบทบาทลิซ่าลงอย่างเห็นได้ชัด ออกงานไพรเวท พื้นที่สื่อน้อยมาก มีGBA ดังๆ3คนทั้ง V ลิซ่า โบกอม แต่ตลกที่3คนนี้ไม่มีเคมเปญอะไรออกมาเลยสำหรับแบรนด์ที่ทำงานร่วมกันเขย่าสื่อโซเชียล หลังจากที่3คนเคยทำโซเชียลพังมาแล้ว ที่ไปออกงานร่วมกันที่ปารีส ส่วนลิซ่าเอง ก็ไม่ใช่เด็กๆหรือเป็นคนอ่อนคนยอมไปหมดทุกอย่าง คุณจ้างฉัน แต่ให้พื้นที่สื่อกับฉันน้อยมาก จะไพรเวทให้ใครดู ทั้งที่น้องก็ดังระดับโลกลับกัน LV คือแบรนด์แรงกิ้ง ระดับบน จำได้ว่า อยู่ตัวท็อปของเครือLVMH แต่แบรนด์Celine จากตำแหน่ง จะอยู่กลางๆ ไม่ใช่ระดับบนยอดLuxuryของเครือ แล้วถ้า LV หยิบยื่นโอกาสให้ ทำไมลิซ่าจะไม่เอา
LV เทียบภาษีกับ ความนิยม มีมากกว่า Celine มาก เพราะเป็นแบรนด์ที่ ต่อยอดได้ขายได้ ต่างกับ Celine ราคาขายแพงเวอร์วัง แต่ขายราคาตก แถมแบรนดืก็ไม่ใช่Luxuryด้วย แต่ตั้งราคาโอโห เท่ากับChanel ได้มั้ง ตอนนี้ ต้องดู Celine ก่อน ว่าจะมีอะไรสานต่อ ลิซ่าไหม? เพราะล่าสุด ยอดขายน่าจะตกด้วยเพราะหลายคนบอก สินค้าราคาแพงโอเวอร์มาก สวนทาง แมททีเรียล มาก คนก็ไม่ค่อยซื้อแล้ว คิดดูราคากระเป๋าะเกินครึ่งแสนไปแล้ว กับบางรุ่น จาก4หมื่นไปจะ6หมื่นบาท ทั้งที่ลุคก็ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้ดี ลุกคุณ เล้ย
อีกอย่าง แบรนด์ทั้ง LV กับ Celine ก็ขายคนละกลุ่มกัน ไม่ตีกันอยู่แล้ว ถ้าลิซ่าอนาคตจะเซ้นต์อีกแบรนด์ ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรกับ เฮดิ เพราะเฮดิแค่ลูกจ้าง คนจ้างคือ LVMH เค้าเลือกเพื่อสานต่อยอดขาย เราไม่รู้แหละว่า ในแง่ ธุรกิจ เครื่อ เค้ามีกลยุทธอะไร หรือลิซ่าอาจจะรับ%ไหม? เพราะจากงาน หรือ ดีไซด์เนอร์และแบรนด์ LV พร้อมใจตามIGลิซ่าครบ นั้น= อาจจะมีข่าวดีก็ได้
แขกรับเชิญทั่วไป เค้าคงไม่ทรีตในงานขนาดนี้
ลิซ่านั่งประกบข้างกับ Sophie Turner สุดยอดนักแสดงแห่งยุคผู้ดำรงตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของหลุยส์ วิตตองมานานหลายปี รวมถึง Ana de Armas ทั้ง 2 คนถือว่าเป็นบุคคลระดับแถวหน้าของแบรนด์โดยแท้จริง นั่นหมายถึงลิซ่าถูกให้ความสำคัญและแสงสปอตไลต์ในระดับเดียวกัน และแน่นอนว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าแบรนด์กำลังดูแลลิซ่าในฐานะบุคคลระดับแถวหน้าเช่นกัน
คำถาม Celine คิดว่าแบรนด์นี้จะยังปังอยู่อีกมั้ย?
เค้าก็อยู่ได้ แบรนด์นี้เค้ามีมานานแล้ว สมัย Old Celine เค้าก็มีกลุ่มของเค้า แต่ถ้าลิซ่าออกไปจริง ก็มีผลต่อ แบรนด์พอควรระดับนึง เพราะ ลิซ่าทำยอดขายให้แบรนด์หลายชิ้นมากแบบ Sold Out ที่น้องโพสลงIG นั้น= ลิซ่ามีผลต่อ คนซื้อแบรนด์นี้มากพอควร หลายคนซื้อเพระชอบลิซ่าเอาง่ายๆ ถ้าคุณมีเงิน6หมื่นบาท(เกินครึ่งแสน) ถ้าลิซ่าไม่ได้เป็นGBAของ Celine ถามหน่อย คุณจะซื้อไหม ราคาสินค้าเท่า LV เท่า Chanel เอาง่ายๆๆๆ คุณคิดว่า Celine ยังน่าลงทุนอีกไหม? นั้นแหละคำตอบ
อีกอย่าง สินค้าทั้งหมด อยู่ในเครือ LVMH มันไม่ได้สำคัญอะไร ว่าลิซ่าจะออกจาก Celineไหม?
คนที่กุมขมับคือเฮดิ เพราะเค้าเองต้องทำงานหนักมาก เพื่อสร้างผลงานและยอดขายให้ปังได้โดยไม่มีลิซ่า จะทำได้ไหม? ลิซ่าไม่จำเป็นต้องแคร์ เฮดิ (เพราะ เรา2คนมันก็แค่ลูกจ้างจ้า เฮดิไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ จะแคร์เพื่ออะไรก่อน? ใครยื่นข้อเสนอดีดีมาให้ฉัน ใครไม่รับก็โง่แล้ว)
เพราะถ้าLVMHเค้าอยากได้ใครมาแจมในเครือต่อยอดแบรนด์อื่นๆ คนสำคัญมาในแบรนด์ จะแบรนด์ไหน ก็สำคัญหมด celine ยังไงเค้าก็อยู่ได้ มีกลุ่มของเค้า ต่อให้ไม่มีลิซ่าแบรนด์นี้ก็มีกลุ่มเฉพาะคนที่เล่น เพียงแต่ตอนนี้ Celine มันถีบตัวเองอัพราคาไปดาวอังคารไปแล้ว นั้น=คนที่คิดจะซื้อเพื่อเก็งกำไร ขายต่อต้องทำใจ เพราะแบรนด์มันไม่ใช่กลุ่มคนเล่นวงกว้างแบบ LV / Dior / Chanel คือแบรนด์พวกนี้ ต่อให้ไม่มีGBA วงBlackpink ยังไงแบรนด์เค้าก็ขายได้ เช่น คนซื้อChanel เค้าซื้อไม่ได้มาจากเจนนี่ คนที่ซื้อแบรนด์นี้ เพราะคนที่คลั่งไคล้แบรนด์ ไม่ใช่คลั่งไคล้ GBA เพราะว่าแบรนด์พวกนี้อยู่ระดับบนเครือ LVMH ทุกแบรนด์ก็อยู่ในเครือ LVMH บางทีเค้าก็อยากกระตุ้นแบรนด์ก็ได้ อีกอย่าง ลิซ่าเธอมีลุคหลากหลายมาก เธอจะไปแบรนด์ไหน ก็เปลี่ยนลุคได้หมด
ปัญหามันอยู่ที่ ความสบายใจ และต่างฝ่ายต่างเพิ่งพากัน เพื่อกระตุ้นแบรนด์ให้เติบโต อย่าไปยึดติดกับ ลิซ่า=Celine
ต้องบอก ลิซ่า = LVMH มากกว่าถึงจะถูก (คือใครจ้างตรู และให้พื้นที่ฉัน สมราคาจ้าง ก็รับข้อเสนอหมด ต่างคนต่างเพิ่งพากัน)
เอาตรงๆแบรนด์ Celine ประวัติแบรนด์ CELINE เกิดขึ้นในปี .....1945 คิดดู จะ80ปี ......แล้วนะ แบรนด์นี้ เค้าอยู่มานานโดยไม่มีGBA
โดยมาดาม เซลีน วิเพียน่า (Ćeline Vipiana) เเละ ริชาร์พ (Richarp) สามีของเธอ ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นร้านผลิตรองเท้าเล็กๆ สำหรับเด็ก ฝั่ง Left Bank ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากการดูเเลของ Ćeline ทำให้ เเบรนด์ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยม จนต้องขยายร้านเเละสาขาในปี 1948 หลังจากได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นก็ได้มีการพัฒนา จากที่ทำรองเท้าเด็กก็เริ่มผลิตเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง เน้นสไตล์เรียบหรู ดูดี ใส่ได้ ทุกวัน และเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงที่ชอบเล่นกีฬา เพิ่มสินค้าพวกเครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้าสำหรับผู้ใหญ่ เข็มขัด ถุงมือ และในปี 1964 เป็นแบรนด์ที่ล้มลุกคลุกคลานเปลี่ยนดีไซด์เนอร์ไปหลายคน แล้วช่วงพีคของแบรนด์นี้ก็มีนะในแวดวงแฟชั่น ไม่ใช่มาดังมาจากเฮดินะ เค้าดังในช่วง ยุคของเค้า เช่น ดีไซด์เนอร์คนเก่าอย่าง Phoebe Philo ถือเป็นผู้ที่ทำให้แบรนด์ CELINE ประสบความสำเร็จอีกครั้ง ผ่านผลงานการดีไซน์ที่ให้ความเก๋ ความเรียบโก้ และมินิมอล เหมือนกับที่ Ćeline Vipiana ได้เคยสร้างไว้ โดยให้ผู้หญิงสวมใส่ได้ทุกโอกาส พร้อมการตัดเย็บที่ละเอียดคมชัด ก่อนจะประกาศลาออก ในปี 2017 หลังเสร็จคอลเลคชั่น “Fall 2018” ก่อนจะสัปเปลี่ยนดีไซด์เนอร์คนใหม่ อย่าง เฮดิ เข่ามาแทน
ยุค Old Celine เค้ามีเอกลักษณ์แบรนด์ชัดมาก เรียบ โก้ ภูมิฐาน ตัดเย็บเนี๊ยบกริบ สไตล์ผู้ดี มินิมอล
ลูกค้าเซเลปตัวแม่ก็นิยมมานานแล้ว ด้วยสไตล์งานที่เป็นแบบ Stealth Wealth” หรือ “Quiet Luxury” แปลอย่างง่ายๆ ว่าเป็นสไตล์การแต่งตัว “หรูแบบไม่ต้องโชว์โลโก้ แพงโดยไม่ต้องตะโกน”
ซึ่งกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในยุคนี้ แต่พอแบรนด์นี้เปลี่ยนคอเคลเตอร์แบรนด์ใหม่หมด เป็นสไตล์ของ เฮดิ แบบหน้ามือเป็นหลังมือ คือ (ลูกค้ากลุ่มเดิมของ Old Celine ส่วนมากแอนตี้งานของ เฮดิ เพราะมันคือเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ หรูผู้ดีแบบมินิมอล กลายเป็น แฟชั่นร็อค ฮิปปี้ ร็อกแอนด์โรล ตามสไตล์ที่เฮดิ คลั่งไคล้ ยุค70s and 80s)
แต่นอนว่า ด้วยสไตล์งานแบบ ไม่ได้เน้นLuxury หรูเรียบ นิ่ง แบบเดิม แต่กลับกลายเป็นอัพราคาเท่าแบรนด์หรูLuxury ของเครือระดับบน เลยทำให้ กลุ่มลุกค้า Celine ตลาดวัยรุ่ยเริ่มลังเลในการตัดสินใจซื้อ
พอนึกออกป่ะ (คือ สมมุติ เสื้อผ้าตัวละ5หมื่นกว่า ถ้าไม่บอกว่าแบรนด์ Celine หรือไม่มีโลโก้ แบรนด์แบบตะโกนในชิ้นงาน คนที่ซื้อ ก็ชั่งใจ เพราะ ถ้าราคาเท่ากัน มีโลโก้แบรนด์ติด ระหว่าง Celine / Chanel เอาตรงๆๆ คนมันก็ไปซื้อ Chanel ดีกว่า เพราะแบรนด์แข็งแรงมากในแง่ อุปทานหมู่)
ส่วนเรื่อง Celine คิดว่าแบรนด์นี้จะยังปังอยู่อีกมั้ย? ในเมื่อ สินค้าฟุ่มเฟือย มันอาศัยปัจจัย
บางที LVMH อาจจะต้องการให้ลิซ่ากระตุ้น แอนเกจ แบรนด์ในเครือก็ได้ เพราะรู้ว่าลิซ่ามีอิทธิพลในโลกโซเชียล 2แบรนด์ก็อยู่ในเครือเดียวกัน
สมาชิกหมายเลข 4105464 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5604987 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6674061 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 8001551 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 5187058 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4013731 ถูกใจ, ying noname ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3640380 ถูกใจ, ting_fang ถูกใจ, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ถูกใจรวมถึงอีก 87 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 34
บางคอมเห็นก็กดลิซ่ามากเลยนะ
ตอนลิซ่ารับเป็น GBA Celine ก็ติ่งเกาหลีนี่แหล่ะบอกว่าเป็นแบรนด์นูกู ไม่ไฮเท่าคนอื่น
แต่พอเฮดีมารีแบนด์แล้วเลือกลิซ่ามาช่วยดันจนดังในวงกว้างขึ้นมา
ก็ออกตัวกันเลยว่าแบรนด์เค้าดังอยู่แล้ว บอกว่าแฟนคลับสำคัญตัวเกินเบอร์
เลยจะบอกว่าแฟนคลับไม่เคยบอกเอง แต่รายงานประจำปีกับสื่อแฟชั่นบอกแทนตลอดนะ
ไม่ได้มั่นแบบไม่มี Fact ประกอบ ไม่ได้มโนเองไปวันๆ
เจ๋งไม่เจ๋งก็มีกระเป๋ารุ่นที่เป็นภาพจำของตัวเอง
และยังไงก็ตาม ณ ตอนนี้ Celine ก็มี GBA ที่ประกาศจากแบรนด์อย่างเป็นทางการคนเดียว คือ ลิซ่า
ตอนลิซ่ารับเป็น GBA Celine ก็ติ่งเกาหลีนี่แหล่ะบอกว่าเป็นแบรนด์นูกู ไม่ไฮเท่าคนอื่น
แต่พอเฮดีมารีแบนด์แล้วเลือกลิซ่ามาช่วยดันจนดังในวงกว้างขึ้นมา
ก็ออกตัวกันเลยว่าแบรนด์เค้าดังอยู่แล้ว บอกว่าแฟนคลับสำคัญตัวเกินเบอร์
เลยจะบอกว่าแฟนคลับไม่เคยบอกเอง แต่รายงานประจำปีกับสื่อแฟชั่นบอกแทนตลอดนะ
ไม่ได้มั่นแบบไม่มี Fact ประกอบ ไม่ได้มโนเองไปวันๆ
เจ๋งไม่เจ๋งก็มีกระเป๋ารุ่นที่เป็นภาพจำของตัวเอง
และยังไงก็ตาม ณ ตอนนี้ Celine ก็มี GBA ที่ประกาศจากแบรนด์อย่างเป็นทางการคนเดียว คือ ลิซ่า
สมาชิกหมายเลข 2967627 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 5604987 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7837679 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6674061 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4392133 ถูกใจ, ying noname ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5298293 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5462720 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 1988114 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5994953 ถูกใจรวมถึงอีก 69 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ลิซ่าโบกมือลา Celine คิดว่าแบรนด์นี้จะยังปังอยู่อีกมั้ย?
คิดอะไรไม่ออกก็หลุยส์ไว้ก่อน ซื้อง่ายขายคล่อง
Celine ต้องยอมรับกันตรงๆว่าฟื้นคืนชีพได้เพราะลิซ่า ลิซ่า และ ลิซ่า
นี่เป็นคนนึงไม่เคยแลมองแบรนด์นี้มาก่อน แต่ลิซ่าเข้ามามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ Celine สำหรับเรามากๆ
เพราะช่วงหลัง พยายามขยับตัวเองขึ้นไปเป็น hi end แถวๆหน้าเทียบ LV Gucci Prada Dior
คิดว่า Celine จะกลับเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้งมั้ย หลังจากลิซ่ามากอบกู้ให้เข้าสู่ยุคเรเนซองส์มานานหลายปีเลย?