สิ่งที่พรรคก้าวไกลนำเสนอต่อสาธารณะ ไม่มีอะไรสุดขั้วหรือสุดโต่ง หรือที่เรียกว่าทะลุเพดานอะไรเลย
ล้วนเป็นเรื่องปกติที่แสนธรรมดาทั้งนั้น แต่เพราะสังคมไทยกระแดะดัดจริตกันจนเคย ซุกใต้พรมกันจนเคย
พอมาเจออะไรที่ตรงไปตรงมา ก็มองว่า ก็หาว่า สุดขั้ว สุดโต่ง เพื่อกลบความแหล กลบการซูเอี๋ยในสังคมเคยตัว
สังคมไทยเป็นสังคมเน่าเฟะ เล่นพรรคเล่นพวก มักอุ้มชูช่วยเหลือกันในทางที่ผิด ปกปิดชั่ว สร้างภาพดี หลอกตัวเองและสังคมอยู่ตลอด
เมื่อก้าวไกลนำเสนอนโยบาย วิธีการ เป้าหมาย ที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ตรงไปตรงมา สังคมกระแดะก็สะดุ้ง รับไม่ได้ กล่าวหาทันที
เพื่อเป็นเกราะกำบังความเน่าเฟะในสังคมของตัวเอง ในสัมพันธภาพทางสังคมและการงานของตัวเอง
แก้ไข 112 ก็เรื่องปกติ หากศึกษาประวัติศาสตร์ ย้อนกลับไปดูที่ไปที่มาของกฎหมายบทนี้ ไม่มีอะไรสุดขั้วเลย ไม่เสียหายอะไรเลย
แค่ย้อนกลับไปหาความปกติที่ควรเป็นเท่านั้น ผลพวงจากรัฐประหาร 2519 ที่เพิ่มเติมแก้ไข 112 ต่างหากที่สุดขั้วเกินไป
เรื่องอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน อย่างเรื่องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น นานาอารยะประเทศเขาเจริญ ความเหลื่อมล้ำต่ำ
ก็เพราะการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ต่างกับไทย ที่รวบอำนาจไว้กับคนไม่กี่คน แล้วก็โจมตีกัน ว่านักการเมือง ทหารยึด ด่าทหาร คืนนัการเมือง
ผลัดกันรวบอำนาจ ผลัดกันขึ้นมาแสวงหาผลประโยชน์ ท้องถิ่นถูกคลุมครอบ แบ่งอำนาจให้แบบผิดที่ผิดทาง
คิดดูนะ ถ้าตำรวจขึ้นกับท้องถิ่น ่ตำรวจรีดไถจะเหลือเหรอ บ่อนจะมีเหรอ ยาเสพติดจะเกลื่อนเหรอ
เพราะตำรวจต้องทำงานหนัก ไม่รีดไถรับส่วย ขืนทำโดนประชาชนในท้องถิ่นเล่นงานตาย ไม่เลือกกลับมาอีก
ระบบราชการก็เช่นเดียวกัน เลิกเหอะ บรรจุแล้วอยู่จน 60 -70 ถึงเกษียณ แถมมีบำนาญ
บรรจุแล้ว ก็เป็นพระยาเลี้ยง เช้าชามเย็นชาม ควรเลิกระบบเดิม ควรใช้ระบบท้องถิ่นดูแล ประเมินทุกปีสองปี ไม่ผ่านก็ออกไป
หากท้องถิ่นจะเล่นเล่นสาย ท้องถิ่นก็ต้องถูกระดับเหนือกว่าตรวจสอบ ประเมินเช่นเดียวกัน เป็นขั้น ๆ ขึ้นไป แต่ทั้งหมดยึดโยงกับประชาชน
ก้าวไกลไม่สุดขั้ว ไม่สุดโต่ง สังคมกระแดะ วัฒนธรรมดัดจริตต่างหากที่ผิดสุดขั้วมาเป็นร้อยปีแล้ว
ก้าวไกลน่ะเหรอสุดขั้ว ก้าวไกลน่ะเหรอสุดโต่ง ไม่ใช่แน่นอน
ล้วนเป็นเรื่องปกติที่แสนธรรมดาทั้งนั้น แต่เพราะสังคมไทยกระแดะดัดจริตกันจนเคย ซุกใต้พรมกันจนเคย
พอมาเจออะไรที่ตรงไปตรงมา ก็มองว่า ก็หาว่า สุดขั้ว สุดโต่ง เพื่อกลบความแหล กลบการซูเอี๋ยในสังคมเคยตัว
สังคมไทยเป็นสังคมเน่าเฟะ เล่นพรรคเล่นพวก มักอุ้มชูช่วยเหลือกันในทางที่ผิด ปกปิดชั่ว สร้างภาพดี หลอกตัวเองและสังคมอยู่ตลอด
เมื่อก้าวไกลนำเสนอนโยบาย วิธีการ เป้าหมาย ที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ตรงไปตรงมา สังคมกระแดะก็สะดุ้ง รับไม่ได้ กล่าวหาทันที
เพื่อเป็นเกราะกำบังความเน่าเฟะในสังคมของตัวเอง ในสัมพันธภาพทางสังคมและการงานของตัวเอง
แก้ไข 112 ก็เรื่องปกติ หากศึกษาประวัติศาสตร์ ย้อนกลับไปดูที่ไปที่มาของกฎหมายบทนี้ ไม่มีอะไรสุดขั้วเลย ไม่เสียหายอะไรเลย
แค่ย้อนกลับไปหาความปกติที่ควรเป็นเท่านั้น ผลพวงจากรัฐประหาร 2519 ที่เพิ่มเติมแก้ไข 112 ต่างหากที่สุดขั้วเกินไป
เรื่องอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน อย่างเรื่องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น นานาอารยะประเทศเขาเจริญ ความเหลื่อมล้ำต่ำ
ก็เพราะการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ต่างกับไทย ที่รวบอำนาจไว้กับคนไม่กี่คน แล้วก็โจมตีกัน ว่านักการเมือง ทหารยึด ด่าทหาร คืนนัการเมือง
ผลัดกันรวบอำนาจ ผลัดกันขึ้นมาแสวงหาผลประโยชน์ ท้องถิ่นถูกคลุมครอบ แบ่งอำนาจให้แบบผิดที่ผิดทาง
คิดดูนะ ถ้าตำรวจขึ้นกับท้องถิ่น ่ตำรวจรีดไถจะเหลือเหรอ บ่อนจะมีเหรอ ยาเสพติดจะเกลื่อนเหรอ
เพราะตำรวจต้องทำงานหนัก ไม่รีดไถรับส่วย ขืนทำโดนประชาชนในท้องถิ่นเล่นงานตาย ไม่เลือกกลับมาอีก
ระบบราชการก็เช่นเดียวกัน เลิกเหอะ บรรจุแล้วอยู่จน 60 -70 ถึงเกษียณ แถมมีบำนาญ
บรรจุแล้ว ก็เป็นพระยาเลี้ยง เช้าชามเย็นชาม ควรเลิกระบบเดิม ควรใช้ระบบท้องถิ่นดูแล ประเมินทุกปีสองปี ไม่ผ่านก็ออกไป
หากท้องถิ่นจะเล่นเล่นสาย ท้องถิ่นก็ต้องถูกระดับเหนือกว่าตรวจสอบ ประเมินเช่นเดียวกัน เป็นขั้น ๆ ขึ้นไป แต่ทั้งหมดยึดโยงกับประชาชน
ก้าวไกลไม่สุดขั้ว ไม่สุดโต่ง สังคมกระแดะ วัฒนธรรมดัดจริตต่างหากที่ผิดสุดขั้วมาเป็นร้อยปีแล้ว