ถึงเวลาจะผ่านไปหลายวัน แต่ศรีจิตรายังไม่สามารถลืมความอบอุ่นหัวใจที่จักรภพสามารถให้เธอได้
มันมีทั้งความสุขและความเศร้า สุขที่ยังได้มีโอกาสเจอเขา
เศร้าที่ไม่สามารถคุยหรือเจอได้เลยถ้าคิดถึง แล้วก็ไม่อาจทำนายอนาคตได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร
ทางจักรภพเองก็คิดถึงศรีจิตราเหมือนกัน แต่เขาก็พอเข้าใจสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร
เขาไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก
ผ่านไปอีกสองวัน ธนัชส่งคนไปบอกทั้งคู่ว่าทั้งศรีจิตราและจักรพันธ์ต้องออกงานร่วมกันอีก
งานครั้งนี้สำคัญมากและจะพลาดไม่ได้ แค่ได้ข่าวนี้ จิตใจของทั้งสองก็แช่มชื่นขึ้น
ทั้งคู่เข้าใจว่าการรอคอยมันมีค่ามากแค่ไหน และยินดีที่จะรอด้วยใจสงบ
พอถึงวันนัด คนขับรถมาจอดรถเทียบตึกใหญ่ ธนัชเข้าไปนั่งหน้าข้างคนขับ
จักรพันธ์เข้าไปนั่งเบาะหลัง เขานั่งอยู่หลังคนขับพอดี
จักรภพขี่มอเตอร์ไซด์มาจากเพดานดาว พอมาถึงหน้าตึกใหญ่ เขาก็จอดรถไว้ที่นี่
หลังจากนั้น เขาก็ยืนรอศรีจิตรา
ไม่นานนัก ศรีจิตราก็เดินลงมาทางหน้าตึก เธออยู่ในชุดราตรีสั้นที่งามสง่า
พอทั้งคู่สบตากัน ก็ต่างยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
จักรภพเดินไปเปิดประตูรถให้ศรีจิตรา
"ขอบคุณค่ะ" ศรีจิตราเข้าไปนั่งในรถ
จักรภพเดินไปนั่งตรงฝั่งคนขับ วันนี้เขาจะเป็นคนขับรถเอง
ระหว่างที่จักรภพขับรถ ศรีจิตราพยายามนั่งมองวิวด้านซ้าย
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไปมองหน้าของจักรภพในกระจก
บัดนี้ เธอตระหนักแล้วว่าจักรภพมีทั้งความอบอุ่นและปลอดภัย
เขาทั้งดี น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษและก็หล่อเข้มมาก
คิ้วเขาเข้มขัดกับผิวขาวนวลที่บ่งบอกถึงการเป็นคนสุขภาพดี
ศรีจิตรายอมรับกับตัวเองว่าตอนนี้เธอหลงใหลจักรภพเข้าให้แล้ว
แต่เธอก็ยังมีสติและเชื่อมั่นว่าตัวเองจะวางตัวได้ดี
พอถึงโรงแรมที่จัดงาน มีนักข่าวมารอทำข่าวกันเต็มไปหมด
จักรพันธ์กับศรีจิตราเดินเข้างานด้วยกันอย่างสง่างาม
พวกเขาหยุดยืนเป็นระยะเพื่อให้นักข่าวถ่ายรูป
วันนี้ทั้งคู่หล่อสวยเป็นพิเศษ งานนี้ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับจักรพันธ์
และบริษัทในเครืออย่างมาก
จักรพันธ์กับศรีจิตราเดินเข้าไปในห้องแถลงข่าว ทุกคนหันมองเป็นตาเดียว
ธนัชกับจักรภพเดินเข้าไปติด ๆ พอถึงเวลาที่ต้องขึ้นเวที
จักรพันธ์กับธนัชเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยกัน ตอนนั้นจักรภพก็เข้ามาประกบศรีจิตราทันที
นักข่าวออนไลน์ก็เริ่มทำข่าวกันทันที
พวกเขาออกข่าวประมาณว่าเมื่อเจ้าชายต้องไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ
องครักษ์ก็เข้าประกบเจ้าหญิงทันที องครักษ์ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เป็นน้องชายคนสุดท้องของตระกูลจักรินบดินทร์วัฒนาที่ชื่อจักรภพ
นักข่าวยังออกข่าวไปว่าจักรภพเป็นคนที่ชอบเก็บตัวมาก
แต่ที่เขายอมเป็นองครักษ์ให้พี่สะใภ้คงเป็นเพราะเขารักพี่ชายของเขามาก
การปรากฏตัวของจักรภพสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทในเครือจักรพันธ์
และตระกูลจักรินบดินทร์วัฒนาเป็นอย่างมากจนทำให้เรตติ้งพุ่งกระฉูด
งานช่วงเช้าผ่านไปได้ด้วยดี ตอนบ่ายทั้ง 4 คนแวะไปทานอาหารที่ภัตตาคารวรงค์
คุณวรงค์ เจ้าของภัตตาคารได้ออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
งานนี้พวกเขาอนุญาตให้นักข่าวมาทำข่าวได้ด้วย
โต๊ะรับประทานอาหารจึงจัดเป็นแถวหน้ากระดาน โดยเรียงจากซ้ายไปขวาจะเป็น
จักรภพ ศรีจิตรา จักรพันธ์ และธนัช
จักรภพอยู่ในฐานะบอดี้การ์ดของศรีจิตรา ส่วนธนัชอยู่ในฐานะที่ปรึกษาคนสนิทของจักรพันธ์
นักข่าวออนไลน์ทำข่าวกันสะบั้นหั่นแหลก บางคนก็บอกว่าจักรภพเองก็หล่อและมีเสน่ห์มาก
ส่วนธนัชก็หล่อมากเช่นเดียวกัน
พอรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ทั้งหมดก็นั่งคุยกัน ดื่มชากาแฟกันบ้าง
ทั้งหมดยังคงนั่งอยู่เพื่อให้พวกนักข่าวออนไลน์ทำข่าวกันอย่างหนำใจ
เวลาล่วงเลยจนถึงช่วงบ่ายแก่ ๆ คุณวรงค์เข้ามาแจ้งว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งฝากจดหมายมาให้จักรพันธ์
คุณวรงค์แจ้งเป็นการส่วนตัว ทำให้อีก 3 คนไม่ทราบข้อมูล
จักรพันธ์ไปแอบเปิดดูในห้องน้ำ ในจดหมายเขียนว่า
"เย็นนี้โปรดมาเจอฉันที่โรงแรมมอนติคาโล"
จักรพันธ์เข้าใจว่าเป็นคู่ขาเก่า จึงบอกทั้ง 3 คนว่าเขามีธุระด่วน ขอตัวไปก่อน
ธนัชกะจะตามไปด้วย แต่ดันมีสายเข้าซะก่อน
"คุณธนัชครับ รีบกลับมาที่วิลล่าพาเลซด่วนเลยครับ คุณจักพรรดิกับคุณวรรณาทะเลาะกันใหญ่แล้ว"
หลังจากวางสาย เขาก็ขอตัวด้วยเหมือนกัน ทิ้งให้ศรีจิตราอยู่กับจักรภพ แล้วก็ทิ้งรถไว้ให้ใช้ด้วย
จึงเข้าทางจักรภพ "ผมมีที่พิเศษจะพาคุณไปดินเนอร์นะครับ"
ตอนที่ธนัชกลับมาถึงวิลล่าพาเลซ รถของวรรณากำลังออกไป
ธนัชเป็นห่วงจักรพรรดิมาก ช่วงนี้ เขากับภรรยาทะเลาะกันบ่อยขึ้น
เขาขึ้นไปที่ตึกที่จักรพรรดิอาศัยอยู่ เดินขึ้นไปที่ห้องนอนของจักรพรรดิ
พอเข้าไป เขาเห็นจักรพรรดินั่งอยู่ที่พื้น หลังพิงตู้ใบหนึ่งอยู่
เขาดูเครียดมาก ธนัชเดินไปนั่งที่ปลายเตียง หันหน้าเข้าหาจักรพรรดิพอดี
เขามองหนุ่มหล่อผู้นั้นด้วยความห่วงใย เขารักจักรพรรดิตั้งแต่แรกเห็น
และจะรักตลอดไป เมื่อคุณรักใครสักคน คุณจะรู้ว่าคน ๆ นั้นมีค่ากับคุณยิ่งกว่าลมหายใจ
จักรภพพาศรีจิตรามาที่ร้านอาหารที่มีชื่อว่า เมฆเคียงฟ้า ผาเคียงดาว
เขาจองโต๊ะพิเศษไว้ มันอยู่ใกล้ ๆ ริมผา แต่ลมไม่ค่อยแรง
"คุณหาที่นี่เจอได้ยังไงค่ะ มันสวยราวดุจสวรรค์"
"ร้านเพื่อนผมเองครับ"
ศรีจิตราชอบวิวทิวทัศน์ตรงนี้มาก มันสวยราวภาพวาด
ช่วงแรก พนักงานเสริฟแต่อาหารเบา ๆ ก่อน
ทั้งคู่มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น เวลาทั้งคู่เจอกัน เวลามักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอ
เวลาล่วงเลยจนทั้งคู่ได้ทานอาหารชุดใหญ่ไปแล้ว
"ฟ้าสวยจังค่ะ ลำธารข้างล่างก็สวย คืนนี้พระจันทร์ก็สวยมาก ๆ เลยนะคะ"
จักรภพได้แต่ยิ้ม เขาไม่ได้พูดอะไร จนคนถือไวโอลินเดินเข้ามา
"คุณอยากฟังเพลงอะไรครับ"
"เอาเป็น moon river ก็แล้วกันค่ะ"
หลังจากนั้นพนักงานก็สีไวโอลินเพลง moon river
จักรภพลุกขึ้นแล้วเดินไปหาศรีจิตรา เขาโค้งให้เธอ ผายมือออก
"ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงนะครับคุณผู้หญิง"
ศรีจิตราลุกขึ้นให้เกียรติเขา ทั้งคู่เต้นรำกันใต้แสงเดือน
ตรงมุมที่สวยที่สุดของเมฆเคียงฟ้า ผาเคียงดาว
เมื่อจักรพันธ์มาถึงโรงแรมมอนติคาโล เขาก็ตามหาห้องของหญิงสาวคนนั้นจนเจอ
พอเขาเข้าไป ก็พบหญิงสาวสวมชุดราตรีสีแดงเพลิงนามว่านาถรพี
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 6
มันมีทั้งความสุขและความเศร้า สุขที่ยังได้มีโอกาสเจอเขา
เศร้าที่ไม่สามารถคุยหรือเจอได้เลยถ้าคิดถึง แล้วก็ไม่อาจทำนายอนาคตได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร
ทางจักรภพเองก็คิดถึงศรีจิตราเหมือนกัน แต่เขาก็พอเข้าใจสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร
เขาไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก
ผ่านไปอีกสองวัน ธนัชส่งคนไปบอกทั้งคู่ว่าทั้งศรีจิตราและจักรพันธ์ต้องออกงานร่วมกันอีก
งานครั้งนี้สำคัญมากและจะพลาดไม่ได้ แค่ได้ข่าวนี้ จิตใจของทั้งสองก็แช่มชื่นขึ้น
ทั้งคู่เข้าใจว่าการรอคอยมันมีค่ามากแค่ไหน และยินดีที่จะรอด้วยใจสงบ
พอถึงวันนัด คนขับรถมาจอดรถเทียบตึกใหญ่ ธนัชเข้าไปนั่งหน้าข้างคนขับ
จักรพันธ์เข้าไปนั่งเบาะหลัง เขานั่งอยู่หลังคนขับพอดี
จักรภพขี่มอเตอร์ไซด์มาจากเพดานดาว พอมาถึงหน้าตึกใหญ่ เขาก็จอดรถไว้ที่นี่
หลังจากนั้น เขาก็ยืนรอศรีจิตรา
ไม่นานนัก ศรีจิตราก็เดินลงมาทางหน้าตึก เธออยู่ในชุดราตรีสั้นที่งามสง่า
พอทั้งคู่สบตากัน ก็ต่างยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
จักรภพเดินไปเปิดประตูรถให้ศรีจิตรา
"ขอบคุณค่ะ" ศรีจิตราเข้าไปนั่งในรถ
จักรภพเดินไปนั่งตรงฝั่งคนขับ วันนี้เขาจะเป็นคนขับรถเอง
ระหว่างที่จักรภพขับรถ ศรีจิตราพยายามนั่งมองวิวด้านซ้าย
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไปมองหน้าของจักรภพในกระจก
บัดนี้ เธอตระหนักแล้วว่าจักรภพมีทั้งความอบอุ่นและปลอดภัย
เขาทั้งดี น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษและก็หล่อเข้มมาก
คิ้วเขาเข้มขัดกับผิวขาวนวลที่บ่งบอกถึงการเป็นคนสุขภาพดี
ศรีจิตรายอมรับกับตัวเองว่าตอนนี้เธอหลงใหลจักรภพเข้าให้แล้ว
แต่เธอก็ยังมีสติและเชื่อมั่นว่าตัวเองจะวางตัวได้ดี
พอถึงโรงแรมที่จัดงาน มีนักข่าวมารอทำข่าวกันเต็มไปหมด
จักรพันธ์กับศรีจิตราเดินเข้างานด้วยกันอย่างสง่างาม
พวกเขาหยุดยืนเป็นระยะเพื่อให้นักข่าวถ่ายรูป
วันนี้ทั้งคู่หล่อสวยเป็นพิเศษ งานนี้ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับจักรพันธ์
และบริษัทในเครืออย่างมาก
จักรพันธ์กับศรีจิตราเดินเข้าไปในห้องแถลงข่าว ทุกคนหันมองเป็นตาเดียว
ธนัชกับจักรภพเดินเข้าไปติด ๆ พอถึงเวลาที่ต้องขึ้นเวที
จักรพันธ์กับธนัชเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยกัน ตอนนั้นจักรภพก็เข้ามาประกบศรีจิตราทันที
นักข่าวออนไลน์ก็เริ่มทำข่าวกันทันที
พวกเขาออกข่าวประมาณว่าเมื่อเจ้าชายต้องไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ
องครักษ์ก็เข้าประกบเจ้าหญิงทันที องครักษ์ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เป็นน้องชายคนสุดท้องของตระกูลจักรินบดินทร์วัฒนาที่ชื่อจักรภพ
นักข่าวยังออกข่าวไปว่าจักรภพเป็นคนที่ชอบเก็บตัวมาก
แต่ที่เขายอมเป็นองครักษ์ให้พี่สะใภ้คงเป็นเพราะเขารักพี่ชายของเขามาก
การปรากฏตัวของจักรภพสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทในเครือจักรพันธ์
และตระกูลจักรินบดินทร์วัฒนาเป็นอย่างมากจนทำให้เรตติ้งพุ่งกระฉูด
งานช่วงเช้าผ่านไปได้ด้วยดี ตอนบ่ายทั้ง 4 คนแวะไปทานอาหารที่ภัตตาคารวรงค์
คุณวรงค์ เจ้าของภัตตาคารได้ออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
งานนี้พวกเขาอนุญาตให้นักข่าวมาทำข่าวได้ด้วย
โต๊ะรับประทานอาหารจึงจัดเป็นแถวหน้ากระดาน โดยเรียงจากซ้ายไปขวาจะเป็น
จักรภพ ศรีจิตรา จักรพันธ์ และธนัช
จักรภพอยู่ในฐานะบอดี้การ์ดของศรีจิตรา ส่วนธนัชอยู่ในฐานะที่ปรึกษาคนสนิทของจักรพันธ์
นักข่าวออนไลน์ทำข่าวกันสะบั้นหั่นแหลก บางคนก็บอกว่าจักรภพเองก็หล่อและมีเสน่ห์มาก
ส่วนธนัชก็หล่อมากเช่นเดียวกัน
พอรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ทั้งหมดก็นั่งคุยกัน ดื่มชากาแฟกันบ้าง
ทั้งหมดยังคงนั่งอยู่เพื่อให้พวกนักข่าวออนไลน์ทำข่าวกันอย่างหนำใจ
เวลาล่วงเลยจนถึงช่วงบ่ายแก่ ๆ คุณวรงค์เข้ามาแจ้งว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งฝากจดหมายมาให้จักรพันธ์
คุณวรงค์แจ้งเป็นการส่วนตัว ทำให้อีก 3 คนไม่ทราบข้อมูล
จักรพันธ์ไปแอบเปิดดูในห้องน้ำ ในจดหมายเขียนว่า
"เย็นนี้โปรดมาเจอฉันที่โรงแรมมอนติคาโล"
จักรพันธ์เข้าใจว่าเป็นคู่ขาเก่า จึงบอกทั้ง 3 คนว่าเขามีธุระด่วน ขอตัวไปก่อน
ธนัชกะจะตามไปด้วย แต่ดันมีสายเข้าซะก่อน
"คุณธนัชครับ รีบกลับมาที่วิลล่าพาเลซด่วนเลยครับ คุณจักพรรดิกับคุณวรรณาทะเลาะกันใหญ่แล้ว"
หลังจากวางสาย เขาก็ขอตัวด้วยเหมือนกัน ทิ้งให้ศรีจิตราอยู่กับจักรภพ แล้วก็ทิ้งรถไว้ให้ใช้ด้วย
จึงเข้าทางจักรภพ "ผมมีที่พิเศษจะพาคุณไปดินเนอร์นะครับ"
ตอนที่ธนัชกลับมาถึงวิลล่าพาเลซ รถของวรรณากำลังออกไป
ธนัชเป็นห่วงจักรพรรดิมาก ช่วงนี้ เขากับภรรยาทะเลาะกันบ่อยขึ้น
เขาขึ้นไปที่ตึกที่จักรพรรดิอาศัยอยู่ เดินขึ้นไปที่ห้องนอนของจักรพรรดิ
พอเข้าไป เขาเห็นจักรพรรดินั่งอยู่ที่พื้น หลังพิงตู้ใบหนึ่งอยู่
เขาดูเครียดมาก ธนัชเดินไปนั่งที่ปลายเตียง หันหน้าเข้าหาจักรพรรดิพอดี
เขามองหนุ่มหล่อผู้นั้นด้วยความห่วงใย เขารักจักรพรรดิตั้งแต่แรกเห็น
และจะรักตลอดไป เมื่อคุณรักใครสักคน คุณจะรู้ว่าคน ๆ นั้นมีค่ากับคุณยิ่งกว่าลมหายใจ
จักรภพพาศรีจิตรามาที่ร้านอาหารที่มีชื่อว่า เมฆเคียงฟ้า ผาเคียงดาว
เขาจองโต๊ะพิเศษไว้ มันอยู่ใกล้ ๆ ริมผา แต่ลมไม่ค่อยแรง
"คุณหาที่นี่เจอได้ยังไงค่ะ มันสวยราวดุจสวรรค์"
"ร้านเพื่อนผมเองครับ"
ศรีจิตราชอบวิวทิวทัศน์ตรงนี้มาก มันสวยราวภาพวาด
ช่วงแรก พนักงานเสริฟแต่อาหารเบา ๆ ก่อน
ทั้งคู่มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น เวลาทั้งคู่เจอกัน เวลามักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอ
เวลาล่วงเลยจนทั้งคู่ได้ทานอาหารชุดใหญ่ไปแล้ว
"ฟ้าสวยจังค่ะ ลำธารข้างล่างก็สวย คืนนี้พระจันทร์ก็สวยมาก ๆ เลยนะคะ"
จักรภพได้แต่ยิ้ม เขาไม่ได้พูดอะไร จนคนถือไวโอลินเดินเข้ามา
"คุณอยากฟังเพลงอะไรครับ"
"เอาเป็น moon river ก็แล้วกันค่ะ"
หลังจากนั้นพนักงานก็สีไวโอลินเพลง moon river
จักรภพลุกขึ้นแล้วเดินไปหาศรีจิตรา เขาโค้งให้เธอ ผายมือออก
"ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงนะครับคุณผู้หญิง"
ศรีจิตราลุกขึ้นให้เกียรติเขา ทั้งคู่เต้นรำกันใต้แสงเดือน
ตรงมุมที่สวยที่สุดของเมฆเคียงฟ้า ผาเคียงดาว
เมื่อจักรพันธ์มาถึงโรงแรมมอนติคาโล เขาก็ตามหาห้องของหญิงสาวคนนั้นจนเจอ
พอเขาเข้าไป ก็พบหญิงสาวสวมชุดราตรีสีแดงเพลิงนามว่านาถรพี