[CR] No.31 Under The Silver Lake : หาไม่เจอ หรือ เธอไม่มี อลวนสับสนชอบกลยิ่งนัก


ตลอดระยะเวลาที่ล่อเข้าไป 2 ชั่วโมง 19 นาที ยอมรับว่าดูไม่รู้เรื่องเลยแต่มันมีความสนุกไปกับมุกตลกของการเสียดสีวัฒนธรรมอเมริกันอย่างเมามันส์บันเทิงแม้จะเป็นช่วงเวลาในการดูหนังที่ยาวนานมากจนแอบแวะไปทำอย่างอื่นฆ่าเวลาพลาง ๆ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันสามารถทำหน้าที่ปั่นประสาทคนดูให้รู้สึกสับสนและมึนงงไปกับบทเพี้ยน ๆ นี้อย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะการเลือกใช้ Location ย่าน Hollywood ใน Los Angeles เป็นฉากหลังตัวแทนของความรุ่งโรจน์ในยุค 50 - 60's ผสมกับการจิกกัดความเป็น Pop Culture ผ่านยุคผ่านสมัยกับ สภาพบ้านเมือง (ทรงทาวน์เฮ้าส์ที่มีสีโทนเดียวกัน) , ผู้หญิง (ผมสีทอง แต่งหน้าจัด) , แฟชั่น (เครื่องแต่งกายสวย ๆ เครื่องประดับแพง ๆ ) หรือ สถานบันเทิง (ผับ,บาร์) สิ่งเหล่านี้เป็นตัวสะท้อนของความหรูหราฟุ่มเฟือยของชนชั้น Elite ที่เน้นชื่อเสียง ลาภยศ และ เงินทองมากกว่าอื่นสิ่งใด น่าเสียดายที่ช่วงกลางเรื่องเล่าได้ยืดเยื้อไปมาก วนอ่างเวิ่นเว้ออยู่แต่กับสิ่งที่ใส่เข้ามาโดยไม่จำเป็นจนเกลื่อนกลาดแถมไปบดบังส่วนที่ควรเล่าจริง ๆ อย่างประเด็นการสืบสวนคดีคนหายในสไตล์ Whodonit ที่ควรทำในแนวนี้ตังหาก ถ้าจะหาความสมเหตุสมผลในเรื่องล่ะแทบจะไม่มีอะไรให้สามารถจับประเด็นอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันได้เลย นอกจากความกาวของไอเดียที่ผู้กำกับยัดเข้ามาเท่านั้น

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนี้ ถ้าให้เปรียบเทียบกับอาหารก็เหมือนเอาวัตถุดิบที่เหลืออยู่ในตู้เย็น เช่น ขนม , ผัก , ผลไม้ และ นมมาผสมในเครื่องปั่นเข้าด้วยกัน พอกินเข้าไปแล้วรู้สึกว่ารสชาติมันแปลก ๆ บอกไม่ถูกว่าจะรสชาติไปทางไหน ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน เพราะ ชีวิตประจำวันของพระเอกส่วนใหญ่วนเวียนแต่อยู่กับสุรา นารี และ ปลาปิ้งไปวัน ๆ เมื่ออิ่มหนำสำราญได้ที่ก็มีแรงในการวิ่งหานางเอกไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงคืออะไร กว่าจะพอก็จนกว่าฤทธิ์ยาจะหมดลงแล้วกลับมาเติมใหม่ที่บ้านต่อ แล้วก็ออกไปตามหาต่อ ซึ่งทั้งเรื่องก็จะวน ๆ อยู่อย่างนี้ ขณะเดียวกันก็ค่อย ๆ มีตัวละครอื่นเข้ามาเพิ่มปมให้ข้อมูลแก่พระเอกได้เบาะแสเพิ่มขึ้นทีละนิด เช่น ลูกสาวของมหาเศรษฐีที่ถูกฆาตกรรม หรือ ชายลึกลับแต่งชุดนักรบโรมัน แต่ก็มิได้นำพาอะไรต่อนอกจากทำหน้าที่ให้ข้อมูลพระเอกแล้วก็จากไป สิ่งที่พอแก้ไขข้อเหล่านั้นก็คือแถความเป็น Fantasy เข้าไปผสมแบบเนียน ๆ แทนเพื่อรองรับให้เนื้อเรื่องมีปริมาณมากขึ้นแค่นั้น แถมช่วงท้ายเรื่องที่เฉลยปมนี้รู้สึกเหวอและตะลึงอยู่ซักพักไม่คิดว่าจะหาทางสรุปแบบนี้รวมถึงงงกับตรรกะเหตุผลของตัวละครบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเท่าไหร่

ยังดีหน่อยที่ได้นักแสดงนำ อย่างพรี่ Andrew Garfield จาก The Social Network (2010) เป็นตัวเดินเรื่องที่แบกรับทั้งเรื่องไว้ได้อยู่หมัด ทิ้งคราบไอ้แมงมุมมารับบทเป็นหนุ่มทะเล้น ติสท์แตก เข้ากับบทคลู ๆ อย่างลื่นไหลโดยไม่ห่วงหล่อ ถ้าขาดตัวพระเอกไป รับรองหนังแป๊กสนิททันที ตัวละครอีกคนที่เป็นตัวแปรสำคัญอย่างสาว Riley Keough จาก Mad Max : Fury Road (2015) นางเอกของเรื่องที่มาเป็นรับเชิญซะมากกว่า โผล่มาไม่กี่ฉากแต่ทุก Scene ที่เธอปรากฎใช้เสน่ห์ความสวยได้เป็นประโยชน์อยู่ไม่น้อยและเป็น Keywords สำคัญที่ขาดไปไม่ได้อีกด้วย ส่วนนักแสดงสมทบท่านอื่น เช่น Topher Grace จาก Spider Man 3 (2007) , Callie Hernandez จาก La La Land (2016) และ Jimmi Simpson จาก Herbie : Fully Loaded (2005) รับจ๊อบเหมือนร้อนเงิน รีบโผล่มาฉาก 2 ฉากเสร็จแล้วมารับค่าตัวกลับไปทันที แถมที่ขาดไปไม่ได้อีกอย่างคือ สาว ๆ เรื่องนี้งานดีทุกคน เรียกว่าหลุดออกมาจากนิตยสาร playboy มาปรากฎยลโฉมให้พอให้เรื่องมีสีสันกระชุ่มกระช่วยได้ไม่น้อย

ถ้าให้เทียบกับผลงานเรื่องก่อนของผู้กำกับ David Robert Mitchell อย่าง It Follow (2014) แล้วผมว่าเรื่องก่อนนั้นยังมี Concept ที่ชัดเจนพอที่จะจับต้องชนปลายได้มากกว่าเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง แม้จะมีฉากการตีความเชิงสัญลักษณ์ค่อนข้างมากแต่ก็ยังอยู่ใน Way ที่กำหนดไว้อยู่ แต่กับเรื่องนี้ผิดคาดอย่างสิ้นเชิง ดูได้จากการใส่ฉาก Abstract ส่วนตัวของผู้กำกับที่มากเกินไปแถมวางสะเปะสะปะจนเรารู้สึกว่ามันไม่ Smooth กับ Details ที่จะสื่อจริง ๆ กันเท่าไหร่ ไม่ว่าในส่วน Comedy เอย Crime เอย หรือด้าน Mystery ก็ดันไปไม่สุดซักทาง แต่อย่างน้อยก็สามารถเก็บ Details เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเสื้อผ้าหน้าผมหรือสถานที่ข้างทางได้ละเอียดดีอยู่ ถ้าไม่คิดในส่วนที่กล่าวไปเรื่องนี้จัดว่าทำหน้าที่ให้ความสนุก ความบันเทิง ตลกร้ายบ้าบอ เงื่อนงำกวนประสาท ให้ปวดหัวเล่น ๆ อยู่ไม่น้อย เหมือนตัวพระเอกที่ทำตัวเสเพล ไร้แก่นสารไปวัน ๆ นั่นแหล่ะ ถ้าคนที่ชอบเสพงานอินดี้ค่าย A24 ชอบตีความในสิ่งที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง และ กล้าตั้งคำถามหาคำตอบในสไตล์ Whodonit รสชาติแปลก เรื่องนี้ถูกใจคุณแน่นอน
 
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT และ Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า:   Review By EMCONCEPT
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่