- จากที่เอา CR-V G3 ซ่อมเปลี่ยนตู้แอร์กับช่างแต๋ง ไปเมื่อ สิงหา ปีที่แล้ว และรถก็ใช้งานได้ดีไม่มีประเด็นอะไร แต่ที่คาใจอย่างนึงก็คือ ทำไมมันเย็นสู้ตอนป้ายแดงไม่ได้นะ
ร้านแรก
จนเข้าช่วงหน้าร้อนจัดๆ ก็มีเพื่อนในคลับ Pulsar มาชวนไปลอง น้ำยาแอร์ ยี่ห้อ iceberg ที่ร้านแห่งหนึ่ง พร้อมเปลี่ยนไส้กรองไดร์เออร์ ซึ่งถอดออกมาก็ตามภาพครับ ดำสนิท (รถ 12 ปี ไม่เคยเปลี่ยน)
จากนั้นก็ vac ด้วยเครื่อง 2 stage
สุดท้าย ด้วย น้ำยา iceberg 7ดาว รุ่นใหม่ ที่อยากลอง
ผลการใช้งาน
1. ช่างวัดอุณหภูมิหน้าช่องแอร์ ตั้งแต่ตอนมาถึงร้าน โดยเร่งน้ำยา เร่งพัดลมสุด ทำได้ที่ 14 องศา / หลังทำ ลงมาได้ 2 องศา
2. ความรู้สึกเหรอ ? .. มันก็เย็นขึ้น ฉ่ำขึ้น แบบรู้สึกได้นะครับ แต่ถ้าเจอรถติดนานๆ ก็จะไม่ค่อยฉ่ำละ แต่โดยรวมก็พอใจแหละ เปิดน้ำยาน้อยกว่าตอนทำที่ช่างแต๋ง
................................
ผ่านไปอีกไม่นาน เพื่อนอีกคน คนที่ remap ให้ผมนี่แหละ มาชวนไปลอง จัดไปตามประสาคนใจง่าย
ECU STUDIO
- เจ้าของร้านอยากลองเอง เพราะไปลอง iceberg (แถวบ้านเค้านะ คนละร้าน) แล้วบอกว่า มันยังไม่สุด อยากสุด เลยจัดเจ้านี่มา ซึ่งราคาก็จะแพงกว่า iceberg เกือบ 2 เท่า ประเด็นคือ Made in Japan ด้วยไง ในขณะที่แบรนด์อื่นจะ China หมดละ ยกเว้นมี Honeywell อีกตัว เจ้านั่น USA ราคาสูสีนี่แหละ
ก่อนทำ
- ขอวัด temp หน้าช่องแอร์ก่อน รอบนี้หนีกลับขึ้นไป 14 องศาแฮะ (เท่ากับตอนทำจากร้านช่างแต๋ง)
- ตาแมว มีฟองอากาศนิดนึง / (ก่อนทำที่ร้านบางกรวย มีฟองเยอะหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นขาด) และตอนร้านที่บางกรวยเติม ผมดูแล้วมันใสนะ
เริ่มเลย
- ปล่อยน้ำยาเสร็จ ก็ vac ด้วยเครื่อง 2 stage เกิน 30 นาที เหมือนกัน
- เรียบร้อยแล้วก็เติมน้ำยากลับ .. ที่นี่ใช้ช่างน้ำหนักตาม manual คือ 490 กรัมครับ (ปกติ ร้านอื่นดูแรงดัน) เติมจนตาแมวใสๆ (แอบใจเสีย ตอนเห็นฟองอากาศ ก่อนปล่อยน้ำยานี่แหละ แต่ก็เปลี่ยนหมดแล้วนะ คงไม่มีอะไรรั่วนะ)
- มาดูที่เกจ์
- จากนั้น ทิ้งไว้พักใหญ่ๆ เข้าไปดูอุณหภูมิกันหน่อย
แหม เทพจริง น้ำยาเค้า
ผลการใช้งาน
1. วันขับรถกลับเนี่ย อุณหภูมิ 38 - 39 องศา แต่เปิดน้ำยาแค่ 9 โมงเอง เทียบกับตอนทำจากช่างแต๋ง ที่อุณหภูมิใกล้กัน (ตอนก่อนสงกรานต์) ผมเร่งน้ำยาไป บ่ายโมงครับ
2. แอร์เย็นเร็วขึ้น อาการชืดเวลาเจอรถติดเหลือน้อยลง จะบอกว่า หายก็เวอร์ไป เอาว่า เหลือน้อยลงละกัน
3. แต่ถ้าถามว่า เท่าตอนออกป้ายแดงไหม ? บอกเลยว่า ไม่เท่า
- คำว่า ไม่เท่า ของผมก็คือ รถคันนี้ ไม่เคยเปิดน้ำยาขึ้นมาจากต่ำสุดเลย มันก็เย็นจนหนาว แต่ปัจจุบัน ต้องเปิดน้ำยาขึ้นมาราวๆ 9 โมง เพื่อให้ฉ่ำเท่าเก่า และ เท่า City กับ Pulsar
- เย็นช้ากว่าป้ายแดง .. แม้น้ำยาใหม่จะเร็วขึ้นแล้ว แต่ยังช้ากว่าแหละ
4. รถผม คงต้องทำใจ เพราะ 1.8 แสนกม.ละ คอมก็เสื่อมลงไปตามกาลเวลา ครับ (ไม่รู้จะได้เปลี่ยนคอม หรือ เปลี่ยนรถก่อน 55+)
แล้วมันเหมาะกับใคร ?
1. รถเดิมๆ ป้ายแดงจากโรงงาน คงไม่ต้องไปควานหาน้ำยาแอร์อะไร ของติดรถดีสุดละ
2. รถที่ระบบสมบูรณ์ ไม่รั่ว ไม่ตัน เพราะถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุ ไปแก้ที่ปลายเหตุ มันก็ไม่ช่วยอะไร ดีขึ้น แต่คงไม่คุ้มเงิน
3. รถที่ไปซ่อมแอร์มาจนสมบูรณ์แล้ว แต่เจอร้านที่อาจจะใช้น้ำยาเกรดต่ำ คุณภาพไม่ดี vac ไม่นาน .. เจ้านี่ช่วยได้
............
แชร์ไว้เป็นไอเดีย ตามประสา คนอยากลอง ครับ
ปล. จ่ายเงินตามปกติ ทั้ง 2 ร้านนะครับ ไม่ได้ทำฟรี
[CR] * * * ลองน้ำยาแอร์เทพๆดีกว่า KLEA Made in JAPAN * * *
ร้านแรก
จนเข้าช่วงหน้าร้อนจัดๆ ก็มีเพื่อนในคลับ Pulsar มาชวนไปลอง น้ำยาแอร์ ยี่ห้อ iceberg ที่ร้านแห่งหนึ่ง พร้อมเปลี่ยนไส้กรองไดร์เออร์ ซึ่งถอดออกมาก็ตามภาพครับ ดำสนิท (รถ 12 ปี ไม่เคยเปลี่ยน)
จากนั้นก็ vac ด้วยเครื่อง 2 stage
สุดท้าย ด้วย น้ำยา iceberg 7ดาว รุ่นใหม่ ที่อยากลอง
ผลการใช้งาน
1. ช่างวัดอุณหภูมิหน้าช่องแอร์ ตั้งแต่ตอนมาถึงร้าน โดยเร่งน้ำยา เร่งพัดลมสุด ทำได้ที่ 14 องศา / หลังทำ ลงมาได้ 2 องศา
2. ความรู้สึกเหรอ ? .. มันก็เย็นขึ้น ฉ่ำขึ้น แบบรู้สึกได้นะครับ แต่ถ้าเจอรถติดนานๆ ก็จะไม่ค่อยฉ่ำละ แต่โดยรวมก็พอใจแหละ เปิดน้ำยาน้อยกว่าตอนทำที่ช่างแต๋ง
................................
ผ่านไปอีกไม่นาน เพื่อนอีกคน คนที่ remap ให้ผมนี่แหละ มาชวนไปลอง จัดไปตามประสาคนใจง่าย
ECU STUDIO
- เจ้าของร้านอยากลองเอง เพราะไปลอง iceberg (แถวบ้านเค้านะ คนละร้าน) แล้วบอกว่า มันยังไม่สุด อยากสุด เลยจัดเจ้านี่มา ซึ่งราคาก็จะแพงกว่า iceberg เกือบ 2 เท่า ประเด็นคือ Made in Japan ด้วยไง ในขณะที่แบรนด์อื่นจะ China หมดละ ยกเว้นมี Honeywell อีกตัว เจ้านั่น USA ราคาสูสีนี่แหละ
ก่อนทำ
- ขอวัด temp หน้าช่องแอร์ก่อน รอบนี้หนีกลับขึ้นไป 14 องศาแฮะ (เท่ากับตอนทำจากร้านช่างแต๋ง)
- ตาแมว มีฟองอากาศนิดนึง / (ก่อนทำที่ร้านบางกรวย มีฟองเยอะหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นขาด) และตอนร้านที่บางกรวยเติม ผมดูแล้วมันใสนะ
เริ่มเลย
- ปล่อยน้ำยาเสร็จ ก็ vac ด้วยเครื่อง 2 stage เกิน 30 นาที เหมือนกัน
- เรียบร้อยแล้วก็เติมน้ำยากลับ .. ที่นี่ใช้ช่างน้ำหนักตาม manual คือ 490 กรัมครับ (ปกติ ร้านอื่นดูแรงดัน) เติมจนตาแมวใสๆ (แอบใจเสีย ตอนเห็นฟองอากาศ ก่อนปล่อยน้ำยานี่แหละ แต่ก็เปลี่ยนหมดแล้วนะ คงไม่มีอะไรรั่วนะ)
- มาดูที่เกจ์
- จากนั้น ทิ้งไว้พักใหญ่ๆ เข้าไปดูอุณหภูมิกันหน่อย
แหม เทพจริง น้ำยาเค้า
ผลการใช้งาน
1. วันขับรถกลับเนี่ย อุณหภูมิ 38 - 39 องศา แต่เปิดน้ำยาแค่ 9 โมงเอง เทียบกับตอนทำจากช่างแต๋ง ที่อุณหภูมิใกล้กัน (ตอนก่อนสงกรานต์) ผมเร่งน้ำยาไป บ่ายโมงครับ
2. แอร์เย็นเร็วขึ้น อาการชืดเวลาเจอรถติดเหลือน้อยลง จะบอกว่า หายก็เวอร์ไป เอาว่า เหลือน้อยลงละกัน
3. แต่ถ้าถามว่า เท่าตอนออกป้ายแดงไหม ? บอกเลยว่า ไม่เท่า
- คำว่า ไม่เท่า ของผมก็คือ รถคันนี้ ไม่เคยเปิดน้ำยาขึ้นมาจากต่ำสุดเลย มันก็เย็นจนหนาว แต่ปัจจุบัน ต้องเปิดน้ำยาขึ้นมาราวๆ 9 โมง เพื่อให้ฉ่ำเท่าเก่า และ เท่า City กับ Pulsar
- เย็นช้ากว่าป้ายแดง .. แม้น้ำยาใหม่จะเร็วขึ้นแล้ว แต่ยังช้ากว่าแหละ
4. รถผม คงต้องทำใจ เพราะ 1.8 แสนกม.ละ คอมก็เสื่อมลงไปตามกาลเวลา ครับ (ไม่รู้จะได้เปลี่ยนคอม หรือ เปลี่ยนรถก่อน 55+)
แล้วมันเหมาะกับใคร ?
1. รถเดิมๆ ป้ายแดงจากโรงงาน คงไม่ต้องไปควานหาน้ำยาแอร์อะไร ของติดรถดีสุดละ
2. รถที่ระบบสมบูรณ์ ไม่รั่ว ไม่ตัน เพราะถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุ ไปแก้ที่ปลายเหตุ มันก็ไม่ช่วยอะไร ดีขึ้น แต่คงไม่คุ้มเงิน
3. รถที่ไปซ่อมแอร์มาจนสมบูรณ์แล้ว แต่เจอร้านที่อาจจะใช้น้ำยาเกรดต่ำ คุณภาพไม่ดี vac ไม่นาน .. เจ้านี่ช่วยได้
............
แชร์ไว้เป็นไอเดีย ตามประสา คนอยากลอง ครับ
ปล. จ่ายเงินตามปกติ ทั้ง 2 ร้านนะครับ ไม่ได้ทำฟรี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้