ความคิดพ่อแม่ที่ไม่เข้าใจลูก หัวแข็ง ต้องจัดการความรู้สึกตัวเองอย่างไร

เราเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นล่างหาเช้ากินค่ำ
แม่จบป.4 ขายของจากหาบแร่ จนมีร้านซื้อตึกได้
พ่อจบปวส ทำงานระดับปฏิบัติการบริษัทเอกชนและขอเกษียณก่อนอายุ

เราและพี่สาวช่วยที่บ้านทำงานหนักมาตลอด ไม่ได้เที่ยวเล่นอะไร
เราชอบอ่านหนังสือและเรียนเพราะอยากหลุดจากชีวิตหาเช้ากินค่ำแบบพ่อแม่
พ่อแม่เราเป็นคนขยัน ไม่เที่ยว ไม่ดื่มทำให้เก็บเงิน ทอง และซื้อที่ทางไว้จำนวนหนึ่ง ไม่มีหนี้
ปัจจุบันก็ทำร้านชำและขายอาหารถุงตามนิสัยคนขยัน

พี่สาวคนโตเราเรียนเก่งได้เกียรตินิยม บัญชี ม รัฐที่มีชื่อเสียงกลางๆ
เรียนจบทำงานใกล้บ้าน ทำงานได้ไม่เกิน 3 ปีก็ลาออกมาช่วยงานที่บ้านขายของจนถึงตอนนี้
ไม่ได้พัฒนาร้านอะไรจากที่แม่ทำ ทำเดิมๆ รายได้ลดลงเรื่อยๆ

เราเรียนเก่งได้ที่ 1 ของโรงเรียนขนาดเล็กในอำเภอ จบวิศวม รัฐใน 8 เกียร์
หลังเรียนจบเราออกจากบ้านไปทำงานโรงงานจนเป็นผจก บริษัทมีชื่อของญี่ปุ่น
หลังจากผ่อนรถและบ้านหมด

เราเก็บเงินได้ก้อนนึงและสอบทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
เรียนและทำงานที่ต่างประเทศ 4 ปี
ใจจริงเราอยากอยู่ต่างประเทศเพราะตอบโจทย์นิสัยส่วนตัว
แต่เราเลือกกลับไทยเพราะพี่สาวบอกว่าพ่อแม่ป่วย และเราเป็นห่วงท่านมาก

หลังกลับมา เราได้ทำงานในบริษัทพลังงานชั้นนำของไทย ในตำแหน่งผจก 
เรามีสามีต่างชาติที่พบกันตอนเรียนและมีลูก จึง Renovate บ้านเดี่ยว
เพื่อให้แม่มาอยู่ด้วยกันและให้เงินรายเดือน
แต่แม่มาอยู่ได้แค่เดือนเดียวก็จะกลับไปทำงานเพราะห่วงพี่สาว

เราจึง Renovate ตึกที่ขายของของแม่ แล้วย้ายมาอยู่ด้วยกัน
ซื้อรถให้พ่อ 1 คันไว้รับส่งลูกเราไปโรงเรียน  รวมทั้งให้เงินรายเดือนครอบครัวพ่อแม่

ปัญหาคือเรารับสภาพแนวคิดของพ่อแม่พี่สาวที่บ้านไม่ได้ เช่น
1) เก็บของที่ไม่ใช้ไว้เต็มบ้าน ไม่ทิ้ง เป็นแหล่งเชื้อโรค 
เราจะให้คนมาเก็บและให้เงินค่าของทั้งหมด
รวมทั้งซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ใหม่ทั้งหมดก็ไม่เอา
หาว่าเราเอาเงินฟาดหัว

2) เราจะ Renovate ส่วนที่ค้าขายโดยจัด Layout ใหม่ให้สวยงามก็ไม่เอา
หาว่าเราดูถูกว่าร้านค้าไม่ดี เราแค่ต้องการพัฒนาให้ร้านมีมาตรฐาน
และดึงลูกค้ามากกว่าแบบเดิมๆที่สกปรก ไม่เป็นระเบียบ

3) เราให้ลูกเรียนอินเตอร์ เพราะอนาคตของตัวลูกและเราจ่ายไหว
แต่ที่บ้านก็ต่อต้านว่าไม่ดี ทำไมไม่ให้เรียนโรงเรียนไทย
ดูเราสิเรียนธรรมดายังไปต่อนอกได้เลย
หาว่าเราทำตัว หัวสูงไฮโซ 
ซึ่งเราไปได้จริงแต่เราพยายามมากกว่าจะได้ไป
ทะเลาะกันหลายรอบมาก ที่บ้านรุมกันว่าเราแรงๆ

4) เราจะย้ายออกไปอยู่ในที่อื่น
พ่อแม่เรา บอกไม่ต้องมาเผาผี เราบอกได้ค่ะ
เพราะเราเบื่อจะทะเลาะ เราไม่หวังสมบัติพ่อแม่ เพราะเราหาเองได้
และเราเกิดมาคนเดียว ก็คงตายคนเดียว 

5) พี่สาวเราพ่อแม่ให้ท้ายแตะไม่ได้
ทุกวันนี้พ่อต้องขับรถไปซื้อของให้พี่สาวขายเพราะพี่สาวไม่ยอมหัดขับรถ
และพ่อแม่เป็นห่วงมาก พี่สาวเราไม่พยายามพัฒนาอะไร ทำไปวันๆ
พอเราฝากงานให้ก็ไม่ทำ พ่อแม่ก็ว่าเราว่าเราไปดูถูก ด้อยค่าพี่สาว
พี่สาวเราบอกว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า แม่เลยตามใจ ไม่กล้าว่ากลัวฆ่าตัวตาย

6) เราเป็นคนเพื่อนน้อย เพราะเราทุ่มเวลาให้กับลูก งาน การพัฒนาตัวเอง
พ่อแม่ก็มาว่าเราว่านิสัยคุณนาย เรื่องมาก เลยไม่มีเพื่อน ไม่มีคนมาเผาผี
จริงๆเราเข้าได้กับทุกคนเพราะเราทำงานได้ดีไม่มีปัญหา
เราไม่อยากเสียเวลา เราอยากใช้เวลากับลูกและคนที่เรารักจริงให้มาก
เราตายไปก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว คงไม่รู้หรอกว่าใครมาเผาเราบ้าง 

7) ไม่ใช่คาร์ซีท ชอบอุ้มลูกเรานั่งตัก พอเราบอกก็หาว่าเราเรื่องมาก
ลูกคนอื่นเค้านั่งรถสองแถว ไม่เห็นตายเลย

เขียนมายาวเพราะอยากระบายมาก คุยกับที่บ้านเหมือนคุยกับคนที่อยู่คนละโลก
หัวเก่า เชื่อคนง่าย ไม่คิดตามหลักเหตุผล
ส่วนดีพ่อแม่พี่สาวเราก็มีเยอะ เราเลยพยายามไม่มีประเด็นอะไร
พ่อแม่เรารักหลานมาก เราทนอยู่บ้านนี้เพราะเห็นท่านมีความสุข
แต่ถ้าท่านเสียไปเราคงจะย้ายไปตามทาง

ใครเคยเจอปัญหาแบบนี้มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ
เสนอแนะอะไรยินดีรับฟัง ขอบคุณที่อ่านมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่