สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่ต้องสนใจครับ ตอนผมออกรถ คนขายที่ติดต่อด้วย ก็เอารถ ไปแต่งให้ครับ เป็น ของแถม แต่เงิน โอนเข้า บัญชี บริษัท ทั้งหมด ครับ มีใบเสร็จ เรียบร้อย
แบบนี้ มันแค่ขู่ ปล่อยไปครับ ถึงมันจะฟ้องจริง ไม่ได้หมายความว่า มันจะชนะ
เงินยังไม่ออกจากกระเป๋าเรา อย่าไปสนใจ
คุณไม่ได้เซ็นตกลง อะไร กับมัน สบายใจได้
แบบนี้ มันแค่ขู่ ปล่อยไปครับ ถึงมันจะฟ้องจริง ไม่ได้หมายความว่า มันจะชนะ
เงินยังไม่ออกจากกระเป๋าเรา อย่าไปสนใจ
คุณไม่ได้เซ็นตกลง อะไร กับมัน สบายใจได้
สมาชิกหมายเลข 4094576 ถูกใจ, Tony Bana ถูกใจ, นูเบ ถูกใจ, KuP ถูกใจ, as580 ถูกใจ, Disaster Magnet ถูกใจ, พ่อแมวอ้วน ถูกใจ, Would you be able to ? ถูกใจ, phoom4514 ถูกใจ, Silence Speaks ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถยนต์
เซลล์จะฟ้องร้อง ที่ไม่ยอมรับรถ
เราเลยนัดดูรถก่อน1วัน แต่วันนัด เรารอเซลล์นานมาก ตั้งแต่5โมงกว่าจนเกือบ2ทุ่ม (วันรับรถคือวันพรุ่งนี้) โทรหาก็ติดต่อยากมาก สุดท้ายเซลล์บอกว่า กำลังเดินทาง เนื่องจากต้องไปขับรถออกจากศูนย์ใหญ่ และเดินทางไปติดฟิล์มเเละขัดเคลือบสีอีกที่หนึ่ง และต้องขับกลับมา ณ โชว์รูมสาขาที่เรารออยู่
เรารู้สึกโกรธมากตอนนั้น ระยะทางที่คำนวนเกือบร้อยกิโล เราต้องการซื้อรถป้ายแดง เป็นรถที่เราได้ขับเป็นคนแรก แต่มารู้แบบนี้มันเสียความรู้สึกมาก รถพึ่งติดฟิล์มและขัดเคลือบ แต่ขับออกมาด้วยนะยะทางเท่านั้น มันได้หรอคะ รถรอส่งมอบมันควรที่จะจอดรอมอบแบบสวยๆเลยรึเปล่า
แล้วเรื่องของการโอนเงินดาวน์ที่นัดกันโอนก่อนส่งมอบ ก็ให้จ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น เขาแจ้งว่ากลัวเรื่องสลิปปลอม เราก็กลัวค่ะ ให้ไปแล้วไม่ได้ใบเสร็จเงินมันก็ไม่น้อยสำหรับเราเหมือนกัน เราเลยบอกงั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูรถก่อนรับรถค่อยไปโอนหน้างานให้เห็นๆกันเลย เขาก็ให้ข้อเสนอมาอีกว่า งั้นให้โอนในนามบริษัทส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งให้โอนในนามบุคคล เพราะเขาต้องไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น กับการแต่งรถให้เราในครั้งนี้ เราก็งงว่า ทำไมต้องมายุ่งกับเงินดาวน์ส่วนนี้ของเราด้วย แล้วถ้าโอนแค่บางส่วนเขาบริษัทก็เท่ากับว่าเงินดาวน์้เราก็ไม่เต็มจำนวนอยู่ดี แล้วก็ไม่ได้ให้ความโปร่งใสในเรื่องของหลักฐานการรับเงินใดใด โดยให้เหตุแค่ว่าเงินยังไม่ทำงาน
เราเลยขอผ่านก่อน ทั้งเรื่องการขนย้ายและเรื่องของการเงิน
เราแจ้งกับทางไฟแนนซ์ไปว่า ขอยกเลิก แต่ใดใดก็มีในส่วนของทางผู้บริหารโทรมายื่นข้อเสนอต่างๆให้ เช่นจะเปลี่ยนเซลล์คนใหม่ให้ หรือถ้าไม่โอเคกับรถคันนี้จะเปลียนคันใหม่ให้เพื่อความสบายใจของลูกค้า คุยกันในเย็นวันรับรถ(ที่ยังไม่ได้รับ)เราก็เห็นถึงความใส่ใจของเขาแล้วแหละ เลยบอกไปว่างั้นขอตกลงกันก่อนว่าจะยังไง คือเราก็เริ่มอ่อนลงแล้ว
แต่ตอนสายของอีกวัน เซลล์โทรกลับมาหาเรา และแจ้งกับเราว่ากำลังจะยื่นฟ้องเรา เพราะการเอารถไปทำมันมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น จะแจ้งฟ้องในคดีทั้งแพ่งและอาญา (อาญายังไงเราก็ยังงงๆอยู่) และจะฟ้องข้อหาฉ้อโกง เราทำให้บริษัทเสียหาย ทำให้เซลล์โดนโฮลรายได้ รถก็ถูกตัดยอดออกไปแล้ว
เเต่เรายังไม่ได้เซ็นเอกสารอะไรจากทางบริษัทเลย นอกจากเอกสารขออนุญาติเทสขับในวันแรกๆที่ไปลองเทส ซึ่งเราก็งงเยอะไปอีกที่ว่าเราฉ้อโกงอะไรมา
ตอนนี้เหมือนกับกำลังโดนกดดันให้รับรถให้ได้
เซลล์จะฟ้องร้องเราได้จริงๆหรอคะ เราแอบไม่สบายใจอยู่เพราะเราก็ยังดูๆรถรุ่นอื่นๆอยู่ถ้ามามีปีญหาฟ้องร้องกันตรงนี้จะมีผลกับเครดิตเราไม๊ (เราไม่เคยเสียเครดิตค่ะ)