เราในวัย 40+ จบ ม 3 ผ่านการทำงานมาทุกรูปแบบ ท้ายสุดยี่สิบปีหลัง ได้ทำงานในบริษัทใหญ่แห่งนึงเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์และผู้ช่วยส่วนตัว โดยการชักชวนของคนรู้จัก เข้าไปรับตำแหน่งที่เปิดรับสมัครด้วยวุฒิหริญญาตรี เราสามารถทำงานในตำแหน่งนั้นได้ด้วยดี เรามองเห็นตัวเอง มองเห็นความสามารถ มองเห็นศักยภาพของตัวเอง ดึงในส่วนที่อยู่ลึกออกมาใช้เกิดประโยชน์กับองค์กร เราได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่ๆ เอเจนซี่ใหญ่ๆ ที่มาเป็นลูกค้าของเรา แรกๆก็มีข้อผิดพลาดบ้าง แต่เราค่อยๆเรียนรู้กับความผิดพลาดนั้นๆ จนเราเติบโตและพัฒนาตัวเอง จนผ่านไปได้ด้วยดี เราร่วมงานกับคนหลากหลายได้ มีเพื่อนร่วมงานในสถานะลูกน้องที่เราต้องประสานงานดูแล เป็นทีมเวิคที่ดี และผ่านมาได้หนึ่งปี บริษัทได้มีการปรับโครงสร้าง ทำให้เรามีความจำเป็นที่ต้องลาออก เนื่องจากฝ่ายบุคลคลได้ถามหาวุฒิการศึกษา เพราะตอนที่ไปสมัครโดยการดึงเข้าไปทำก็ถือสิทธิ์ใช้เส้นสายจากคนที่รู้จัก ไม่ได้ยื่นวุฒิการศึกษาใดๆ นอกเหนือจากเอกสารราชการที่จำเป็น 
จากนั้น ได้เริ่มทำงานที่ใหม่ในตำแหน่ง ประสานงานทั่วไป บริษัทก็เกี่ยวข้องกับงานโปรดักชั่น และอีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งก็ไปทำเพราะผู้ที่เคยมาร่วมงานด้วยกันในที่เก่า ได้ชักชวนไปทำ เพราะเค้าเคยร่วมงานในฐานะฟรีแลนซ์ที่เราจ้างมาร่วมงานอีกที และเห็นศักยภาพว่าเราทำได้ ทำได้ไม่เท่าไหร่ บริษัทเริ่มมีปัญหาด้วยตัวของเจ้าของบริษัทเอง ทำให้เราต้องตกงานอีกครั้งหนึ่ง 
จากนั้นไม่นานคนที่เคยชักชวนเราไปทำงานก่อนหน้านั้น อยากให้เราไปร่วมงานแต่กลายๆก็คือหุ้นส่วนกัน ถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม
และในตำแหน่งเดิม  คือผู้ช่วยและดูแลลูกค้า เราตกลงทันที เริ่มงานเรียนรู้และเติบโตอย่างเคย มาู้ตัสเองอีกที เจ้านายเรามีหน้าที่แค่หางานเข้ามา ที่เหลือในการทำโครงการที่ได้รับมอบหมายต่างๆ ประหนึ่งหน้าที่ pm ตั้งแต่กระบวนการแรก ตลอดจนจบงาน คือสิ่งที่เราทำ เราได้เรียนรู้งานเพิ่มขึ้น คืองานด้านโครงสร้างของบริษัท สายงานโปรดักชั่น สายงานอีเว้นท์ สายงานสื่อต่างๆ  เราได้ดูแลและร่วมงานกับลูกค้าหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนมากมาย โครวการที่เราดูแล มีมูลค่ารวมตลอด 6-7 ปีมีมูลค่ารวมกันเกินร้อยล้าน เราสร้างกำไร และรักษาผลประโยชน์ แก้ปัญหาให้บริษัทมากมายเหลือเกินเราไม่เคยท้อ ตลอดเวลาเรารู้สึกสนุกกับงาน เราชอบความท้าทาย ชอบแก้ไขปัญหา ชอบเอาชนะ  ชอบลดแรงประทะ ทำงานเกือบ 24 ชั่วโมง มีผู้ร่วมงานที่เราดึงมาร่วมงานหลายระดับ ซึ่งเราก็เป็นทีมเวิคที่ดี มีปัญหา เราแก้ไข ไม่เคยต้องให้เรื่องไปถึงนายเรา จนเวลาผ่านไป ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่นายเราจะคอยให้คำปรึกษา ถ้าเราต้องการเสมอ จนกระทั่งบริษัทต้องปิดทำการชั่วคราวด้วยเหตุผลบางอบ่าง รวมถึงช่วงโควิด ณ ตอนนี้ เราอยากทำงาน แต่ติดด้วยวุฒฺการศึกษา และอายุ ซึ่งเป็นข้อจำกัดเหลือเกิน รายได้ที่เราได้รับในการทำงาน หลักหมื่นจนแตะแสนแต่เราไม่ได้คิดว่าเราจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ แบบนั้นเราเป็นคนที่รับความจริงได้ ทุกอย่างปรับเปลียนไปตามเศรษฐกิจและโอกาส  

หลายที่ๆเราไปสัมภาษณ์ ติดเรื่องวุฒิ ไม่ได้มองที่ประสบการณ์ ซึ่งเราเข้าใจได้ แต่ก็แอบคิดนิดนึง ว่ามันไม่ยุติธรรม
หลายที่ที่เราไปสมัครงาน ติดเรื่องอายุ บอกว่า คนอายุมากจะมีปัญหาร่วมงานกับคนอื่นลำบาก สั่งยาก ไหนจะเรื่องสุขภาพอีก นิดๆหน่อยก็เจ็บป่วย

เราเมล์ไปสมัครงาน หรือกรอกใบสมัครงานออนไลน์ จะแจ้งว่าความประสงค์ที่จะสมัครงานในตำแหน่งไหน หรือต้องการสมัครงานในตำแหน่งที่เหมาะสมที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ 
เรายังมีไฟในการทำงาน ยังคงมีทัศนคติที่ร่วมสมัยปรับเปลี่ยนตามโลก มีความคล่องตัว
มีความถนัดเรื่องการติดต่อประสานงาน และการสื่อสาร มีใจรักในการบริการมีทัศนคติดี ขยันอดทน มีความรับผิดชอบ ไม่มีอีโก้ มีความเป็นผู้ตามและพร้อมเป็นผู้นำสามารถยืดหยุ่นแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
จุดอ่อนคือไม่ถนัดในงานขายจริงๆค่ะ ประสบการณ์และความสามารถของเราถูกจำกัดด้วยวุฒิการศึกษา
ขอให้เปิดโอกาสแและรบกวนพิจารณาเอกสารสมัครงาน
เราพร้อมและแสวงหาโอกาส สามารถทำงานเป็นกะ เดินทาง ตจว ได้ และพร้อมเริ่มงานได้ทันที
แต่จนบัดนี้ ก็ยังไม่ได้รับโอกาสเหล่านั้น

หลายคนถามว่าทำไมไม่ขายของทำไมไม่ทำนั่นทำนี่ แต่คนหลายคนเกิดมา ล้วนมีความสามารถและศักยภาพที่ต่างกัน เราจะรู้ตัวเอง ว่าเราสามารถทำสิ่งไหนได้ดีแค่ไหน โดยที่เราไม่ได้หลอกตัวเอง 
เราทำงานแบบนี้เรารู้สึกมีความสุข รู้สึกสำเร็จ เรื่องสุขภาพร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่องการทำงานของเรา โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้คนวัยห้าหกสิบยังออกกำลังเล่นกีฬา ยังทำงานด้วยความแข็งแรงทั้งสมองและร่างกายอยู่เลย มีโอกาสไม๊คะ ที่ฝ่ายบุคคลหรือองค์กรต่างๆ จะเลิกมองแต่ภายนอก และให้โอกาสคนวัยเรา ซึ่งเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เป็นแบบเราเช่นกัน