[CR] ประทับใจมากขับรถเที่ยวเกาะใต้นิวซีแลนด์ Roadtrip 2023 10 day 8 night: Autumn in south Island NewZealand

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน 
ขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ เราชื่อ "เจ" ค่ะ ครั้งแรกของการรีวิวเลยค่ะ เจ อ่านรีวิว ของเพื่อนๆ มาเยอะมากเลย ได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการเดินทางอย่างมาก ต้องขอขอบคุณทุกรีวิว เลยนะคะ ครั้งนี้จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ในการเดินทางไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อช่วงสงกรานต์ของบ้านเรา (6-16 เม.ย.2566)  แต่เป็นฤดูใบไม้ร่วงที่นิวซีแลนด์ เผื่อว่าจะได้เป็นข้อมูลและเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่อยากไปผจญภัย ขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์เกาะใต้ สำหรับฉบับเที่ยวด้วยตัวเองกันค่ะ....
การเดินทางไป Road Trip นิวซีแลนด์ ครั้งนี้ นับเป็นการวางแผนการเดินทางที่นานที่สุดในชีวิตของเจเลยล่ะค่ะ  และถือเป็นความท้าทายกับสิ่งที่คาดไม่ถึงนานับประการ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเป็นประเทศดินแดนในซีกโลกใต้แห่งนี้ "นิวซีแลนด์"  หรือเพราะดวงชะตาของเราเอง...ลองมาร่วมติดตามการเดินทางครั้งนี้กันดูนะคะ 

ปฐมบทเริ่มต้นของทริปนี้ อมยิ้ม31

            เริ่มต้นจากการวางแผนเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี เราเลือกที่จะไปดินแดนแห่งนี้เพราะธรรมชาติที่สวยงาม และเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับประเทศนี้ รู้เพียงว่าเป็นประเทศที่ดังเรื่องการเลี้ยงแกะ มีกีวี จนกระทั่ง ตั้งใจค้นหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวเดินทาง ในเดือน ตุลาคม ปี 2019 เราได้ตั๋วเดินทางจากสายการบิน Air New Zealand ในราคาที่พอรับได้ (ราคาตั๋วค่อนข้างสูงตลอดทั้งปี) ในช่วงสงกรานต์ของบ้านเรา คือ เมษายน 2020 ซึ่งตรงกับช่วง Autumn หรือฤดูใบไม้ร่วงของประเทศนิวซีแลนด์พอดี ข้อมูลเบื้องต้นที่พอจะมีคือ ซึ่งก็ได้จากการรีวิวของเพื่อนๆในพันทิปนี่ล่ะค่ะ  รู้ว่าเป็นประเทศที่ขับรถเหมือนบ้านเราคือพวงมาลัยขวา และขับรถง่าย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่ผู้หญิงสามารถเดินทางไปได้ด้วยตัวเอง เราไม่เคยไปขับรถที่ต่างประเทศมาก่อน และนี่คือครั้งแรกของเรา.......
             การวางแผนต่างๆจึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่การขอวีซ่า จองโรงแรม และจองรถเช่า  ทุกอย่างพร้อม ระหว่างรอวีซ่านั้น....ช่วงปลายปี ก็เริ่มมีข่าวโควิด-19 จากอู่ฮั่น เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร  จนสถานการณ์ ลุกลาม บานปลาย จนปิดประเทศกันไปหมด ตั๋วเครื่องบินก็ค่อยๆทยอยยกเลิกโดยสายการบิน ตั๋วของเราโดน Hold ไว้นับตั้งแต่นั้นมา.... Immigration นิวซีแลนด์โอนเงินค่าวีซ่ามาคืน ซึ่งทำให้เราต้องยกเลิกการจอง โรงแรม รถ ทั้งหมด รวมถึงประกันการเดินทาง...... เป็นอันพับโครงการทั้งหมด.....เป็นระยะเวลา 3 ปีกว่า 
              หลังสถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลาย...... หลายๆประเทศเริ่มมีการเปิดประเทศ รวมถึงนิวซีแลนด์ เราติดตามอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และเดือน พค. 2022 ได้รับติดต่อจาก เอเจนซี่ที่เราจองตั๋วเครื่องบินจากซึ่งก็คือ  trip.com ว่า จะต้องออกตั๋วใหม่ให้ทันภายใน 2 สัปดาห์ ภายในเดือน มิถุนายน 2022 และต้องเดินทางภายใน 2023 เราจึงตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะไป ....เพื่อใช้ตั๋วที่ Hold ไว้ ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย
แต่แล้วการหาตั๋วโดยสารใหม่ในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์และช่วงการเดินทาง ในเดือนเมษายน ของปี 2023  ก็ยากมาก ทำให้เรากับเอเจนซี่มีปัญหากันค่อนข้างมาก และเมื่อตัวแทนหาตั๋วได้ แต่กลับมีค่าส่วนต่างที่ต้องจ่ายมากเกินความจำเป็น...เกินกว่าที่เราจะรับไหว 5555 

เราจึงตัดสินใจ ค้นหาอีเมล์ของ CEO ของสายการบินเพื่อขอความช่วยเหลือ ในครั้งนั้นเราติดต่อ ไปยัง CEO ของ บริษัท trip.com เช่นกัน บอกเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งติดต่อไปยัง CEO ของ Air New Zealand เราทำไปแบบมีความหวังครึ่งๆกลางๆ เพราะไม่รู้จะหาทางออกทางไหน....

แต่ในที่สุด... CEO ของ Air New Zealand ได้ให้ผู้ประสานงานด้านการดูแลลูกค้า ตอบอีเมล์ กลับมา.....
เราดีใจมากและซาบซึ้งถึงความเอาใจใส่ในการบริการลูกค้าเป็นอย่างมาก  เจ้าหน้าที่ชื่อ Sam Krinkel   เธอเป็นเจ้าหน้าที่ Customer Interactions Manager พยายามสื่อสารและช่วยเหลือจนกระทั่ง เราได้ตั๋วในราคาที่เสียค่าส่วนต่างเพียงเล็กน้อย และสามารถออกตั๋วได้ในทันที โคตรดีใจและซาบซึ้งใจในบริการครั้งนี้มาก เรียกว่าประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ ค่ะ 

ทริป ได้เริ่มต้นจริงสักที  อมยิ้ม21

              หลังจากได้ตั๋วแล้ว เราจัดการวางแผนในการจองโรงแรม ที่พัก แต่พบว่า ค่าที่พัก ในช่วงเดือนเมษายน 2023 หลังโควิดนั้นแพงขึ้นเป็น 2 เท่า แถมบางที่ยังปิดตัวไปอย่างถาวรด้วย จึงเป็นอีกโจทย์ที่ยากในการหาที่พักที่ดีและราคาเหมาะสม ระหว่างนั้นก็เตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่า..... การขอวีซ่านิวซีแลนด์เป็นสิ่งที่ระทึกใจเช่นกัน และนับเป็นสิ่งที่ยากเย็นอีกเรื่อง  โดยเรายื่นขอปลายเดือน พย. ซึ่งล่วงหน้าเป็นเวลา เกือบ 4 เดือน เราติดตามข่าวสารผ่าน เพจ ชื่อว่า วีซ่านิวซีแลนด์ สาระล้วนๆ (All About New Zealand visa) เพจให้ความรู้ดีมาก และมีผู้ร่วมชะตากรรมที่คอยช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี และเข้าไปตรวจสอบในระบบการยื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ทุกวันเลยค่ะ เป็นการรอคอย อย่างไม่รู้ชะตากรรม ไม่ว่าจะติดต่อเมล์ไปสอบถาม หรือโทรไปสอบถาม Im NZ ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ที่พอจะทราบความหวัง นอกจากให้รอๆๆๆๆๆ.... เพราะบางคนยื่นหลังเรา วีซ่าก็ผ่านไปแล้วก็มี
             
              ในที่สุดหลังจาก 42 วัน แห่งการรอคอย เราก็ได้วีซ่า ระยะเวลาวีซ่า พอดิบพอดีกับจำนวนวันที่เดินทาง แทบไม่เหลือวันให้มีความผิดพลาดใดๆ เราเดินทางเป็นเวลา 11 วัน ซึ่งเราก็ได้ระยะเวลาเผื่อมา ราวๆ 5 วัน  ช่างเป็นวีซ่าที่โหดเอาเรื่องเลยทีเดียว...

               หลังจากวีซ่าผ่าน พร้อมๆกับที่เราได้ที่พักสมใจแล้ว แม้จะในราคาที่สูงกว่าที่เคยวางแผนไว้ เมื่อ 3 ปีก่อน เราก็จองรถ ซึ่งเช่นเดียวกันราคารถก็พุ่งสูงขึ้น 2 เท่าเช่นกัน  เรียกว่าการไปเที่ยวหลังโควิด เป็นอะไรที่จ่ายแพงกว่าเดิมขึ้นมาก ....แต่เราก็ไม่ย่อท้อค่ะ กลับตัวไม่ได้แล้ว5555...
           
               จากนั้นเราก็วางแผนการเดินทาง ซึ่งจริงๆเราวางแผนไม่แตกต่างจาก 3 ปีก่อนที่เคยวางแผนไว้ซักเท่าไหร่ สถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่แตกต่างจากนักเดินทางคนอื่นๆ ครั้งนี้เราเน้น เกาะใต้ เพียงเกาะเดียว โดยเริ่มต้นบินจากสุวรรณภูมิ ไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์ เพื่อไปลง Christchurch ขับรถ จาก Christchurch แบบตามเข็มนาฬิกา รอบเกาะ แล้ววนกลับมาที่  Christchurch เพื่อเดินทางกลับ ขากลับบินในประเทศมาต่อเครื่อง ที่ Auckland และ สิงคโปร์ ถึงบ้าน รวมทั้งหมด 10 วันในนิวซีแลนด์ 

               แต่เรื่องท้าทายที่ทำให้กังวลยังไม่หมด...หลังจากที่เราพิจารณาตั๋ว ของเราอีกครั้ง เราพบว่า ตั๋วที่ได้ ขาไปมีระยะเวลาในการ Transit ที่สิงคโปร์เพียงแค่ 55 นาที นั่นหมายถึง ลงปุ๊บ เราจะต้องรีบบึ่งไปต่อเครื่องทันที เราไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอกับอะไร หรือสะดุดอะไร แต่เราล้มไม่ได้เด็ดขาด !ไม่งั้นเราตกเครื่องแน่ๆ เราบินด้วย Air New Zealand แต่ก็มีบางไฟลท์ ที่บริหารจัดการด้วย Singapore Airline แม้ด้วยชื่อเสียงที่ได้ยินมา ว่าเป็นสายการบินที่ได้รับรางวัลชั้นนำมากมายหลายรางวัลและมีการบริหารจัดการที่ดีเลิศระดับต้นๆของโลก แต่เราก็อดกังวลใจไม่ได้จริงๆ  แต่โชคดีที่เราก็ check true กระเป๋าถึงปลายทางเลย ไม่ต้องหอบหิ้วให้พะรุงพะรัง  เท่านั้นยังไม่พอ นะคะ 

              2 สัปดาห์ ก่อนวันเดินทางมาถึงไม่นาน มีข่าว น้ำท่วมใหญ่ เพราะพายุไซโคลน "เกเบรียล" พัดถล่ม เกาะเหนือ ของประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้มีการยกเลิกสายการบินหลายสายทั้งใน และนอกประเทศเพราะได้รับความเสียหายหนัก....

พระเจ้า !!!!  มันอะไรกันอีก เราจึงคิดว่า การที่เราเลือกไปยังดินแดนแห่งนี้ คงเป็นประเทศที่ยาก จริงๆ ทั้งภูมิประเทศและภูมิอากาศ ที่ต้องเจอมรสุมอยู่ตลอดเวลา ก็ได้แต่ลุ้นว่า จะได้มีโอกาสในการไปจริงๆได้มั้ย...อมยิ้ม37

ทริป เริ่มต้นในที่สุด 5555

              จนวันเดินทางจริงๆ ได้มาถึง.... ทุกอย่างราบรื่นดี อ้อ !  ลืมบอกไปค่ะ  ความเข้มงวดของ ตม. ที่นี่ ขึ้นชื่ออย่างมากสิ่งของต้องห้ามทั้งหลายถ้าไม่ Declare จะโดนค่าปรับมหาศาลนะคะ  เราจึงตัดปัญหาสิ่งของต้องห้ามทั้งหมด ยกเว้นแต่ ยาที่จำเป็น โดยติดฉลากยาเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และ Declare บางอย่างที่จำเป็น จนกระทั่งเดินทางถึง สนามบิน Christchurch อย่างปลอดภัย โดยการ Transit ที่สิงคโปร์ ในเวลา 55 นาที ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรอย่างที่เรากังวล เนื่องจากมีการ ปรับเวลาการบินออก เพิ่มขึ้นอีก 1 ชั่วโมง และการเดินทางระหว่าง terminal ก็สะดวกมากๆโดย sky train 
               
            เมื่อถึงนิวซีแลนด์ เราจัดการรับรถที่จองไว้ ซึ่งมีรถรับ - ส่งจากสนามบินเลย เราจองรถของ บริษัท Snap โดยจองมาเป็นรถ yaris แต่ทางบริษัท upgrade ให้เป็น toyota corolla  ซึ่งขับดีมากๆ

สำหรับ   เรื่องโทรศัพท์  เราเปิดใช้ sim2fly ของ AIS ซึ่ง จะแนะนำว่า ดีนะ มีสัญญาณแทบตลอดทุกพื้นที่ ระยะเวลา 10 วัน ได้ 7 GB ในราคา 998 บาท ซึ่งเหลือเฟือมากๆ สำหรบการเดินทางตลอดทั้งทริป เพราะใช้แค่เปิดดูแผนที่แค่นั้นเอง แถมเน็ตยังเหลืออีกเยอะมากด้วย จริงๆ เอาจำนวน GB น้องกว่านี้ก็ได้นะ

              เราพบว่า นิวซีแลนด์ เป็นความท้าทายอย่างมากในการเดินทาง แม้เรารู้ว่า ข้อดีทั้งหมดของการเดินทางด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การค้นคว้าหาข้อมูล การจัดการงบและบริหารจัดการทุกสิ่งอย่าง ให้คุ้มค่าที่สุด ต้องไปตามสถานที่ที่ปักหมุดไว้  ทุกไฮไลต์ ต้องได้ทำกิจกรรมที่ห้ามพลาด ได้ทานอาหารที่รีวิวมาอย่างดี หลายครั้งที่ผ่านมาในการเดินทางท่องเที่ยวเรามักจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่เราวางไว้ เกือบ 100% เรียกว่าพลาดไม่เกิน 10% นั่นคือ ความสำเร็จของแผนที่วางไว้ละเป็นความภูมิใจ ...แต่ สำหรับดินแดน กีวี แห่งนี้ …ฉีกทุกกฎ แหกทุกเป้าหมาย คือ พังยับ! ยับเยิน แบบที่สุด !!!  ทิ้งแผนการเดินทางที่ละเอียดยิบไปได้เลย เพราะเราพลาดหลายหมุดที่เราปัก พลาดหลายกิจกรรมที่ต้องทำ พลาดหลายร้านอาหารที่เราต้องกิน แม้เราเตรียมข้อมูลมาอย่างดี 😅  ก็ไม่มีทางได้ครบตามเป้า เพราะที่นี่ !! ดินแดนเกาะใต้แห่งนี้  เป็นเมืองที่ ร้านรวงปิดไว ไม่มีบริการใดๆ ไม่เน้นการขาย ไม่มีการรอคอย ช่วงที่เรามาคือ ฤดูใบไม้ร่วง พระอาทิตย์ขึ้นช้าตกไว ทำให้เวลากลางวันเราน้อยลง เราต้องช่วยเหลือตัวเองเกือบทุกสิ่ง  เช็คอินเข้า ร.ร. เอง เติมน้ำมันเอง ขับรถเอง ทำอาหารกินเอง  ห้องน้ำสาธารณะตามป่าเขาที่เราต้องสู้ชีวิต สุดๆ ฝนฟ้าและอากาศที่ไม่เป็นใจ เราต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเอง.... แต่ทั้งหมดคือความประทับใจ และความภาคภูมิใจที่เกิดจากความพลาดเป้าหมาย ค่ะ เราไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายเลย
และนั่นเพราะ ที่นี่ มีทิวทัศน์ที่งดงามตลอดเส้นทาง ทำให้เรามีเป้าหมายใหม่ ทุกที่ที่ขับรถผ่าน ทุกเส้นทางที่เราเดิน ความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวตลอดทางทำให้เราไม่จำเป็นต้องมุ่งหน้าไปยังสถานที่ปักหมุดเลย เราหยุดถ่ายรูปได้ทุกที่ เราเลือกที่จะปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางตามสถานการณ์เฉพาะหน้า 
และนี่คือ สิ่งที่เราได้เรียนรู้ สุดๆ! จากการเดินทาง ครั้งนี้  ก็คือ “ไม่ต้องคาดหวังอะไรกับชีวิตทั้งสิ้น แค่อยู่กับปัจจุบัน เอาชีวิตให้รอด แล้วดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัว”
นี่คือ  แผนการเดินทางโดยสรุปค่ะ จริงๆมีแผนที่ละเอียดยิบกว่านี้ นะคะ ใครสนใจขอข้อมูลมาได้เลยนะคะเรายินดี อมยิ้ม01  
ตามไปพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/kamolapas  หรือ https://instagram.com/mikinoy7 
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ ไม่ทราบแพงไปหรือป่าว? ตอนไป (1NZD=21Bth)  แต่ส่วนตัวคิดว่า กลางๆนะคะ คือ ใช้จ่ายแบบไม่ได้ประหยัดเกินไป มีทานร้านอาหารบ้างทำเองบ้าง ขับรถกินตลอดทาง กินอยู่แบบเต็มที่เลยค่ะ

ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยว บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ ประเทศนิวซีแลนด์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่