สวัสดีค่ะ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ครอบครัวเรา 6 คนไปเที่ยวที่ดินแดนซีกโลกใต้ ณ ประเทศนิวซีแลนด์ค่ะ ซึ่งทุกจังหวะ คือ ว้าว ว้าว ว้าว เกือบตลอดเส้นทาง ไม่ผิดหวังที่เฝ้ารอมา กว่า 3 ปี หลังจากที่โดนยกเลิกทริปเพราะโควิดตอนปี 2020 เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
วีซ่า เราขอวีซ่าแบบกลุ่ม โดยยื่นออนไลน์ค่ะ ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 20 วัน สำหรับวีซ่ากลุ่มจะได้ระยะเวลาเที่ยวแบบพอดี๊พอดีเลยค่ะ มี+ ให้ 5 วัน เมื่อปี 2020 ที่ทริปล่มเรายื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ออนไลน์ ตอนนั้นยังต้องเอา passport ไปที่อาคาร ITF แต่ปีนี้ ไม่ต้องแล้วนะคะ ยื่นออนไลน์ ส่งเอกสารออนไลน์อย่างเดียวเลยค่ะ สะดวกมากๆ
แผนท่องเที่ยวคร่าวๆ
Day 0-1: BKK-SYD-CHC ขับรถจาก Christchurch > Hokitika
Day 2: Hokitika > Fox Glacier
Day 3: Fox Glacier > Wanaka
Day 4: Wanaka > Te Anau
Day 5: Te Anau > Milford Sound >Queenstown
Day 6: Queenstown > Lake Tekapo
Day 7: Lake Tekapo > Christchurch
Day 8-9: Christchurch > BKK
ใช่ค่ะ แผนแน่นมากจริงๆ อาจจะโหดไปหน่อยด้วยซ้ำ แต่ก็ผ่านมาได้แบบงงๆ ค่ะ การเดินทางครั้งนี้จะเรียกว่าทริป 9 วัน ก็เรียกไม่เต็มปาก เพราะเที่ยวจริงๆ ก็แค่ 8 วัน เองค่ะ เราหาข้อมูลเอง ต้องกราบขอบพระคุณนักเดินทางทุกท่านที่ลงรีวิวและให้ข้อมูลใน Pantip มา ณ ที่นี้ค่ะ *ไหว้ย่อ* ซึ่งจากที่อ่านมา การเที่ยวรอบเกาะใต้จะมี 2 แบบ คือขับรถทวนเข็มนาฬิกา และตามเข็มนาฬิกา เราเลือกเป็นแบบทวนเข็มนาฬิกาค่ะ เริ่มต้นที่ Christchurch วนไปทางเมือง Hokitika ค่ะ สำหรับค่าใช้จ่ายเราสรุปให้ท้ายรีวิวนะคะ
เริ่มเดินทาง Day 0 : BKK > SYD > CHC
เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไฟล์ท 6 โมงเย็น ด้วยสายการบิน Qantas บิน 9 ชม. นอนบนเครื่องบิน ไปเปลี่ยนเครื่องที่ซิดนีย์ (1.30 ชม.) และบินต่อ 3 ชม. โดยนั่ง Emirates ค่ะ ซึ่งประทับใจมากกกค่ะ ส่วนตัวเพิ่งเคยนั่งของ Emirates ครั้งแรก ที่นั่งใหญ่มาก ห้องน้ำเริ่ด แอร์โฮสเตสเป็นกันเองมากค่ะ อาจเพราะคนน้อยมาก เค้าเลยใส่ใจได้หน่อย 555 มีถ่ายภาพ poraroid ให้ผู้โดยสารแต่ละกลุ่มด้วยค่ะ
เสวยสุขอยู่ได้ 3 ชม. (หลักๆ ก็นอนค่ะ 555) พวกเราก็มาถึงสนามบิน Christchurch ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เข้าช่อง Declare เจ้าหน้าที่ไม่เปิดกระเป๋า เพียงแต่ถามว่าเราเอาอะไรมาบ้าง ซึ่งเราก็บอกไปตามความจริงว่าเอา ข้าวสาร แกงกล่องสำเร็จรูป ปลากระป๋อง มาม่า ประมาณนี้ค่ะ เค้าก็เจาะจงคุณแม่เป็นพิเศษ เพราะเค้าบอกว่า “Moms always store food”
กว่าพวกเราจะออกจาก ตม. ก็บ่ายสองค่ะ
ผ่าน ตม. ออกประตูมา ก็มองหาบริษัทรถเช่าที่เราจองไว้ ซึ่งมีเคาน์เตอร์อยู่ในสนามบินเลย ชื่อ Ezi Car Rental กลุ่มเราผู้ใหญ่ 6 คน จองรถกลุ่มใหญ่สุดที่มีคือ Kia Carnival ค่ะ ตอนจองหนักใจเรื่องกระเป๋าว่าจะวางพอไหมหนอ เพราะเอากระเป๋า 24 นิ้ว กันไปทุกคน สุดท้ายวางได้นะคะ แต่แถวสุดท้ายต้องนั่งคนเดียวและพับเบาะเพื่อวางกระเป๋าแทนค่ะ ข้างหลังก็ไม่ถือว่าอึดอัดมากนัก โดย EziCar จะรับเฉพาะบัตรเครดิต และมีชาร์จ 2.2% พวกเราลองใช้ Travel Card ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ ต้องใส่ PIN ด้วย และเอกสารที่ใช้คือ บัตรขับขี่ของไทยค่ะ พนักงานคนแรกตอนแรกถามหาใบขับขี่สากล (สีขาว) พี่สาวเราทำไว้แล้ว แต่เรา (ซึ่งเป็นคนจอง) ไม่ได้ทำไปค่ะ จนเค้าไปถามพนักงานคนที่สอง และพนักงานอีกคนบอกใช้ได้ค่ะ รอดไป
ใช้เวลาจัดการรับรถตรงนี้ประมาณ 15 นาที เค้าก็ให้กุญแจรถ และ แจ้งจุดจอดรถหน้าสนามบิน ให้พวกเราเดินไปรับรถเอง ไม่ไกลค่ะ พวกเรามาถึงรถก็จัดแจงยัดกระเป๋า ถ่ายรูปรถเพื่อจำเลขทะเบียน พร้อมออกเดินทางก็ บ่ายสองครึ่งแล้วค่ะ ไม่รอช้า พวกเราก็ขับออกจากสนามบินเลย ถือว่าเริ่มแผนเที่ยวกันเลย
Day 1 : Christchurch > Hokitika
Driving route 3 hr 8 min (241 km)
ขับออกจากสนามบินไม่นานก็ว้าวกับวิวต้นสนมากมาย ตลอดทาง สลับกับภูเขาใหญ่ๆ และอากาศเย็นๆ ทริปนี้เราพาคุณพ่อ คุณแม่ วัยเกษียณมาด้วย ดีใจมากๆ ที่เห็นพ่อแม่ ว้าว ถ่ายรูปตลอดทางเลยค่ะ
ขับมาเกือบ 50 นาที พวกเราก็มาถึง ร้านที่ทุกคนต้องแวะ นั่นคือ World Famous Sheffield Pies ค่ะ ไปถึง เค้าจะเก็บร้านแล้วค่ะ เหลือเป็น พายเนื้อ และพายไก่เล็กน้อย จัดไปค่ะ ถือว่าอร่อยใช้ได้เลย
World Famous Sheffield Pies
จากนั้นก็ขับไป Castle Hill ถึงประมาณบ่ายสี่โมงกว่า เดินไปก็ไม่ถึงหินก้อนใหญ่ๆ เยอะๆ 555 เพราะแสงเหลือน้อยเต็มทีแล้วค่ะ ด้วยความที่อากาศหนาว บวกกับเราต้องขับรถไปพักที่ Hokitika เราใช้เวลากับ Castle Hill ไม่ถึง 20 นาที เราก็เดินกลับค่ะ เพราะรู้สึกฟ้าเริ่มมืดแล้ว เลือกมาเที่ยวใกล้หน้าหนาว ต้องทำใจค่ะ ฟ้ามืดเร็ว
Castle Hill
พอออกมาถึง Arthur’s Pass แวะเข้าห้องน้ำ ช่วง 17:45 น. ฟ้าก็มืดสนิทค่ะ เป็นอันพับจุดชมวิว Otira Viaduct Lookout ไปโดยปริยาย ภารกิจที่เหลือคือขับรถให้รอดถึงโรงแรม ตามเส้นทางแบบนี้ไปตลอดทาง T_T ขอคาราวะพี่สาวที่ขับรถพาพวกเรามาจนถึงโรงแรมอย่างปลอดภัยประมาณทุ่มกว่าค่ะ ถึงที่พัก ต้มมาม่าคัพที่พกกันมากิน แล้วก็สลบยาวถึงเช้าค่ะ
—ข้อคิดวันนี้— 
การเดินทางไกลมาเหนื่อยๆ ควรนอนให้เต็มแรงก่อนจะเลือกขับรถไกล 3 ชม. เป็นจุดที่เราวางแผนพลาดไปจริงๆ ค่ะ เพราะลืมคิดเรื่องเส้นทางผ่านเขา ประจวบกับตอนเรามาเป็นช่วงกำลังเข้าฤดูหนาว ฟ้ามืดเร็ว ฝนตก หมอกลง มืดๆ เราไม่ชินเส้นทาง อันตรายเหมือนกันค่ะ และที่สำคัญ ร่างกายเราล้าเพราะเราพักผ่อนมาน้อยบนเครื่องบินค่ะ ขนาดเราไม่ใช่คนขับ แต่อยู่คุยเป็นเพื่อนคนขับยังจะสับปงกไปหลายรอบ ถ้าเลือกใหม่คงขอหาที่นอนแถว Sheffield หรือ Springfield ให้เต็มอิ่มแทนน่าจะดีกว่าค่ะ
Day 2 : Hokitika > Fox Glacier
Driving route 3 hr 25 min (239 km)
เช้าวันนี้พวกเราเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 8:30 น. เพื่อไปเที่ยวที่ Hokitika Gorge ซึ่งเป็นแม่น้ำสีฟ้าที่สวยมากค่ะ จุดนี้ต้องขับออกนอกเส้นทางหน่อย แต่ว่าคุ้มค่าก็การมาเยือนเลยค่ะ
Hokitika Gorge
พวกเรามาเป็นกลุ่มแรกๆ เลยยังไม่ค่อยมีคนเท่าไร น้ำสีฟ้าสวยมากๆ ค่ะ อากาศพอเดินเข้าป่าจะเริ่มเย็น สำหรับใครที่มาหน้าหนาวต้องเตรียมผ้าพันคอ ถุงมืออุ่นๆ ไว้นะคะ
พอเดินข้ามสะพานนี้มาอีกนิดก็จะเจออีกวิวนึงค่ะ
เดินมาจุดนี้มีทางให้ลงไปถึงน้ำ แต่วันที่เรามาฝนตกค่ะ ลื่นๆ ดูอันตราย เลยไม่ได้ลงไปค่ะ ก็เดินกลับ และขับเข้าเมือง Hokitika เพื่อกินอาหารเช้า + กลางวันในเมืองค่ะ ร้านส่วนใหญ่ เปิด 11:30-12:00 น. ไม่ก็เย็นๆ เรามาถึงเมืองตอน 11:00 น. ทำให้หลายร้านยังไม่เปิดค่ะ เราเข้าร้าน Clocktower Cafe Hokitika กินพายกับ Fish and Chips ค่ะ
กินเสร็จก็เดินเล่น แวะถ่ายรูป Hokitika Beach Sign ริมทะเลสักหน่อย จากนั้นก็แวะซื้อของใน New World ตรงข้ามโรงแรมและขับไปที่ Fox Glacier ในคืนนี้กันค่ะ
Hokitika Beach Sign
ขับรถมาเกือบชั่วโมง ระหว่างทางก็แวะเข้าห้องน้ำกันที่ Lake Ianthe Matahi ค่ะ พร้อมอากาศที่ครึ้มๆ
Lake Ianthe Matahi
เราตัด Franz Josef Glacier Walk เพราะไม่ขึ้นฮ. โดยจุดหมายหลักที่อยากไปมากกว่าคือ Lake Matheson ค่ะ อยากไปให้ทันก่อนค่ำ
… อยากออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ …
พวกเรามาถึงโรงแรม Mt.Cook View Motel ตอนบ่ายสามโมงครึ่ง พร้อมกับสภาพอากาศฝนเทกระหน่ำ ระหว่างเช็คอิน แอบถามพนักงานว่า ยูคิดว่าฝนจะหยุดไหม พนักงานหัวเราะบอก “ยากแล้ว คงต้องพรุ่งนี้เช้าๆ เลยล่ะ ถึงจะหยุด” เราคอตก เดินกลับห้อง และตัดสินใจทำอาหารกิน ชมวิววัวในห้องแทนค่ะ และก็อย่างงั้นจริงๆ ตกยันมืดค่ะ
อ้อ! ขออนุญาตพูดถึง เตียงของโรงแรมมี heater ที่เตียงให้ด้วยค่ะ ตอนแรกก็งงว่าอะไรเป็นสายไฟยื่นออกมาจากเตียง อากาศหนาวๆ อยู่บนเตียงเปิด heater อุ่นขึ้นเยอะค่ะ ด้วยความเห่อสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่มีในไทย ก็เปิดไปซิค่ะ ตื่นมาอีกที ตี 1 เหมือนนอนในกระทะทองแดง 5555 เหงื่อท่วมค่ะ ไม่ไหว ปิด ยอมนอนหนาวก็ได้จ้าา 555
[CR] ทริปนิวซีแลนด์ 2023 เที่ยวเกาะใต้ ฤดู(เกือบ)หนาว 9 วัน 8 คืน งบ 6 หมื่นมีทอน!
วีซ่า เราขอวีซ่าแบบกลุ่ม โดยยื่นออนไลน์ค่ะ ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 20 วัน สำหรับวีซ่ากลุ่มจะได้ระยะเวลาเที่ยวแบบพอดี๊พอดีเลยค่ะ มี+ ให้ 5 วัน เมื่อปี 2020 ที่ทริปล่มเรายื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ออนไลน์ ตอนนั้นยังต้องเอา passport ไปที่อาคาร ITF แต่ปีนี้ ไม่ต้องแล้วนะคะ ยื่นออนไลน์ ส่งเอกสารออนไลน์อย่างเดียวเลยค่ะ สะดวกมากๆ
Day 0-1: BKK-SYD-CHC ขับรถจาก Christchurch > Hokitika
Day 2: Hokitika > Fox Glacier
Day 3: Fox Glacier > Wanaka
Day 4: Wanaka > Te Anau
Day 5: Te Anau > Milford Sound >Queenstown
Day 6: Queenstown > Lake Tekapo
Day 7: Lake Tekapo > Christchurch
Day 8-9: Christchurch > BKK
ใช่ค่ะ แผนแน่นมากจริงๆ อาจจะโหดไปหน่อยด้วยซ้ำ แต่ก็ผ่านมาได้แบบงงๆ ค่ะ การเดินทางครั้งนี้จะเรียกว่าทริป 9 วัน ก็เรียกไม่เต็มปาก เพราะเที่ยวจริงๆ ก็แค่ 8 วัน เองค่ะ เราหาข้อมูลเอง ต้องกราบขอบพระคุณนักเดินทางทุกท่านที่ลงรีวิวและให้ข้อมูลใน Pantip มา ณ ที่นี้ค่ะ *ไหว้ย่อ* ซึ่งจากที่อ่านมา การเที่ยวรอบเกาะใต้จะมี 2 แบบ คือขับรถทวนเข็มนาฬิกา และตามเข็มนาฬิกา เราเลือกเป็นแบบทวนเข็มนาฬิกาค่ะ เริ่มต้นที่ Christchurch วนไปทางเมือง Hokitika ค่ะ สำหรับค่าใช้จ่ายเราสรุปให้ท้ายรีวิวนะคะ
เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไฟล์ท 6 โมงเย็น ด้วยสายการบิน Qantas บิน 9 ชม. นอนบนเครื่องบิน ไปเปลี่ยนเครื่องที่ซิดนีย์ (1.30 ชม.) และบินต่อ 3 ชม. โดยนั่ง Emirates ค่ะ ซึ่งประทับใจมากกกค่ะ ส่วนตัวเพิ่งเคยนั่งของ Emirates ครั้งแรก ที่นั่งใหญ่มาก ห้องน้ำเริ่ด แอร์โฮสเตสเป็นกันเองมากค่ะ อาจเพราะคนน้อยมาก เค้าเลยใส่ใจได้หน่อย 555 มีถ่ายภาพ poraroid ให้ผู้โดยสารแต่ละกลุ่มด้วยค่ะ
เสวยสุขอยู่ได้ 3 ชม. (หลักๆ ก็นอนค่ะ 555) พวกเราก็มาถึงสนามบิน Christchurch ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เข้าช่อง Declare เจ้าหน้าที่ไม่เปิดกระเป๋า เพียงแต่ถามว่าเราเอาอะไรมาบ้าง ซึ่งเราก็บอกไปตามความจริงว่าเอา ข้าวสาร แกงกล่องสำเร็จรูป ปลากระป๋อง มาม่า ประมาณนี้ค่ะ เค้าก็เจาะจงคุณแม่เป็นพิเศษ เพราะเค้าบอกว่า “Moms always store food”
ผ่าน ตม. ออกประตูมา ก็มองหาบริษัทรถเช่าที่เราจองไว้ ซึ่งมีเคาน์เตอร์อยู่ในสนามบินเลย ชื่อ Ezi Car Rental กลุ่มเราผู้ใหญ่ 6 คน จองรถกลุ่มใหญ่สุดที่มีคือ Kia Carnival ค่ะ ตอนจองหนักใจเรื่องกระเป๋าว่าจะวางพอไหมหนอ เพราะเอากระเป๋า 24 นิ้ว กันไปทุกคน สุดท้ายวางได้นะคะ แต่แถวสุดท้ายต้องนั่งคนเดียวและพับเบาะเพื่อวางกระเป๋าแทนค่ะ ข้างหลังก็ไม่ถือว่าอึดอัดมากนัก โดย EziCar จะรับเฉพาะบัตรเครดิต และมีชาร์จ 2.2% พวกเราลองใช้ Travel Card ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ ต้องใส่ PIN ด้วย และเอกสารที่ใช้คือ บัตรขับขี่ของไทยค่ะ พนักงานคนแรกตอนแรกถามหาใบขับขี่สากล (สีขาว) พี่สาวเราทำไว้แล้ว แต่เรา (ซึ่งเป็นคนจอง) ไม่ได้ทำไปค่ะ จนเค้าไปถามพนักงานคนที่สอง และพนักงานอีกคนบอกใช้ได้ค่ะ รอดไป
ใช้เวลาจัดการรับรถตรงนี้ประมาณ 15 นาที เค้าก็ให้กุญแจรถ และ แจ้งจุดจอดรถหน้าสนามบิน ให้พวกเราเดินไปรับรถเอง ไม่ไกลค่ะ พวกเรามาถึงรถก็จัดแจงยัดกระเป๋า ถ่ายรูปรถเพื่อจำเลขทะเบียน พร้อมออกเดินทางก็ บ่ายสองครึ่งแล้วค่ะ ไม่รอช้า พวกเราก็ขับออกจากสนามบินเลย ถือว่าเริ่มแผนเที่ยวกันเลย
Driving route 3 hr 8 min (241 km)
ขับออกจากสนามบินไม่นานก็ว้าวกับวิวต้นสนมากมาย ตลอดทาง สลับกับภูเขาใหญ่ๆ และอากาศเย็นๆ ทริปนี้เราพาคุณพ่อ คุณแม่ วัยเกษียณมาด้วย ดีใจมากๆ ที่เห็นพ่อแม่ ว้าว ถ่ายรูปตลอดทางเลยค่ะ
การเดินทางไกลมาเหนื่อยๆ ควรนอนให้เต็มแรงก่อนจะเลือกขับรถไกล 3 ชม. เป็นจุดที่เราวางแผนพลาดไปจริงๆ ค่ะ เพราะลืมคิดเรื่องเส้นทางผ่านเขา ประจวบกับตอนเรามาเป็นช่วงกำลังเข้าฤดูหนาว ฟ้ามืดเร็ว ฝนตก หมอกลง มืดๆ เราไม่ชินเส้นทาง อันตรายเหมือนกันค่ะ และที่สำคัญ ร่างกายเราล้าเพราะเราพักผ่อนมาน้อยบนเครื่องบินค่ะ ขนาดเราไม่ใช่คนขับ แต่อยู่คุยเป็นเพื่อนคนขับยังจะสับปงกไปหลายรอบ ถ้าเลือกใหม่คงขอหาที่นอนแถว Sheffield หรือ Springfield ให้เต็มอิ่มแทนน่าจะดีกว่าค่ะ
Day 2 : Hokitika > Fox Glacier
Driving route 3 hr 25 min (239 km)
เช้าวันนี้พวกเราเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 8:30 น. เพื่อไปเที่ยวที่ Hokitika Gorge ซึ่งเป็นแม่น้ำสีฟ้าที่สวยมากค่ะ จุดนี้ต้องขับออกนอกเส้นทางหน่อย แต่ว่าคุ้มค่าก็การมาเยือนเลยค่ะ
Hokitika Gorge
กินเสร็จก็เดินเล่น แวะถ่ายรูป Hokitika Beach Sign ริมทะเลสักหน่อย จากนั้นก็แวะซื้อของใน New World ตรงข้ามโรงแรมและขับไปที่ Fox Glacier ในคืนนี้กันค่ะ
Hokitika Beach Sign
Lake Ianthe Matahi
… อยากออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ …
พวกเรามาถึงโรงแรม Mt.Cook View Motel ตอนบ่ายสามโมงครึ่ง พร้อมกับสภาพอากาศฝนเทกระหน่ำ ระหว่างเช็คอิน แอบถามพนักงานว่า ยูคิดว่าฝนจะหยุดไหม พนักงานหัวเราะบอก “ยากแล้ว คงต้องพรุ่งนี้เช้าๆ เลยล่ะ ถึงจะหยุด” เราคอตก เดินกลับห้อง และตัดสินใจทำอาหารกิน ชมวิววัวในห้องแทนค่ะ และก็อย่างงั้นจริงๆ ตกยันมืดค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้