ท่านพระอานนท์กล่าวว่า..
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย เปรียบเสมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ แสวงหาแก่นไม้
เที่ยวแสวงหาแก่นไม้อยู่ เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ ก็ล่วงเลยรากไปเสีย
ล่วงเลยลำต้นไปเสีย พึงสำคัญกิ่งและใบว่า เป็นแก่นไม้ที่ตนพึงแสวงหา แม้ฉันใด
ข้ออุปไมยนี้ก็ฉันนั้น เมื่อพระศาสดาประทับอยู่เฉพาะหน้าท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ท่านทั้งหลายผ่านพ้นพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเสียแล้ว ย่อมสำคัญอรรถอันนั้นว่าควรถามข้าพเจ้า
ดูกรอาวุโสทั้งหลายพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้มีพระจักษุ มีพระญาณ
มีธรรม ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ตรัสบอก ทรงให้เป็นไป ทรงแสดงประโยชน์ ประทานอมตธรรม
เป็นเจ้าของธรรม เป็นพระตถาคต ทรงรู้ธรรมที่ควรรู้ ทรงเห็นธรรมที่ควรเห็น
ก็แหละกาลนั้น เป็นกาลสมควรที่ท่านทั้งหลายเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคนั่นเทียว
แล้วพึงทูลถามอรรถอันนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์แก่ท่านทั้งหลายด้วยประการใด
ท่านทั้งหลายพึงทรงจำอรรถนั้นไว้ด้วยประการนั้นเถิด ฯ.....
ไม่เอานิพพานของพระพุทธเจ้า แต่เลือกจะเอานิพพานที่เป็นอนัตตา
ของสาวกที่เป็นแค่กิ่งเป็นใบ..
มันเป๋นจะอิ้ๆเน้อ
จะอู้หื้อ.....
หมอยาบางคนไม่เอาแก่นไม้ แต่เลือกไปเอากิ่งและใบมาทำยา แล้วมันจะหายป่วยได้ไง?
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย เปรียบเสมือนบุรุษต้องการแก่นไม้ แสวงหาแก่นไม้
เที่ยวแสวงหาแก่นไม้อยู่ เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ ก็ล่วงเลยรากไปเสีย
ล่วงเลยลำต้นไปเสีย พึงสำคัญกิ่งและใบว่า เป็นแก่นไม้ที่ตนพึงแสวงหา แม้ฉันใด
ข้ออุปไมยนี้ก็ฉันนั้น เมื่อพระศาสดาประทับอยู่เฉพาะหน้าท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ท่านทั้งหลายผ่านพ้นพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเสียแล้ว ย่อมสำคัญอรรถอันนั้นว่าควรถามข้าพเจ้า
ดูกรอาวุโสทั้งหลายพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้มีพระจักษุ มีพระญาณ
มีธรรม ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ตรัสบอก ทรงให้เป็นไป ทรงแสดงประโยชน์ ประทานอมตธรรม
เป็นเจ้าของธรรม เป็นพระตถาคต ทรงรู้ธรรมที่ควรรู้ ทรงเห็นธรรมที่ควรเห็น
ก็แหละกาลนั้น เป็นกาลสมควรที่ท่านทั้งหลายเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคนั่นเทียว
แล้วพึงทูลถามอรรถอันนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์แก่ท่านทั้งหลายด้วยประการใด
ท่านทั้งหลายพึงทรงจำอรรถนั้นไว้ด้วยประการนั้นเถิด ฯ.....
ไม่เอานิพพานของพระพุทธเจ้า แต่เลือกจะเอานิพพานที่เป็นอนัตตา
ของสาวกที่เป็นแค่กิ่งเป็นใบ..
มันเป๋นจะอิ้ๆเน้อ
จะอู้หื้อ.....