ในช่วงปี 2556 ประเทศไทยเคยประสบกับปัญหา “กำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง” ต่ำเกินไปจนทำให้เกิดปัญหา เมื่อเกิดสถานการณ์ ที่ทำให้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เช่น กรณีเหตุการณ์แหล่งก๊าซยาดานา สหภาพเมียนมาหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมแซม แท่นขุดเจาะระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 2556 มีผลให้กำลังผลิตจากโรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกของประเทศหายไปจำนวน 4,100 เมกะวัตต์ ขณะที่คาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดในวันที่ 5 เมษายน 2556 จะมีจำนวน 26,300 เมกะวัตต์ กำลังผลิตไฟฟ้าสำรองจะเหลือราว 767 เมกะวัตต์ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานปกติที่ควรมี 800-1,600 เมกะวัตต์
https://www.egat.co.th/egattoday/index.php?option=com_k2&view=item&id=14543:20213004-egatsound

หลังจากนั้น ยิ่งลักษณ์ได้เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า อีก 5000 เมกะวัตต์ ตามที่พรรคร่วมไทยสร้างสร้างพูดถึง

กล่าวโดยสรุป
ปี 2556 มีการใช้ไฟสูงสุด 26,300 เมกะวัตต์  กำลังผลิตไฟฟ้าสำรองจะเหลือราว 767 เมกะวัตต์ 
ยิ่งลักษณ์ได้เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า อีก 5000 เมกะวัตต์ รวมแล้ว กำลังผลิตไฟฟ้าสำรองจะเหลือราว 4,100 + 5,000+ 767 = 9,867 เมกะวัตต์ 

หลังจากการยึดอำนาจ รัฐประหาร ล่าสุดปี 2565
กำลังผลิตไฟฟ้าของไทย 46,136 เมกะวัตต์  ความต้องการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 27,672 เมกะวัตต์ เท่ากับว่ามีปริมาณไฟฟ้าสำรอง 18,464 เมกะวัตต์ สูงถึงประมาณร้อยละ 48

ได้ข้อสรุปแล้วว่า 8 ปีประเทศบ้านเมืองไม่พัฒนา การใช้ไฟไม่เพิ่มขึ้นตามแผน (เศษฐกิจไม่โต ใช้ไฟเท่าเดิม)

เราจะโทษใคร  โทษยิ่งลักษณ์ หรือ นายกปัจจุบัน