ผลประกอบการปีนี้ไม่ดีแล้ว ราคาหุ้นก็คงจะ....... ขายออกมาเถอะ เดียวจะขอรับเป็นภาระรับช่วงต่อ (เม่า VI)
IEC คาดรายได้ปีนี้หด รอโตก้าวกระโดดปีหน้า
วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2557 เวลา 12:14:41 น.
นายภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการบริษัท บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปี 57 จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 774.36 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจมุ่งไปที่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน จากเดิมที่มีธุรกิจโทราคมนาคมเป็นหลัก
ทั้งนี้ บริษัทลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าทั้งหมด 6 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 32 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 โรง กำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่จ.สระแก้ว 2 โรง กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะของบริษัทย่อยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ทำให้ปีนี้จะมีโรงไฟฟ้าที่สามารถจำหน่ายไฟฟ้าและรับรู้รายได้ 5 โรง ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานขยะของบริษัทย่อยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ จะสร้างแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ในเดือน มี.ค.58
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่อีก 10 โรง ขนาด 40 เมกะวัตต์ในปี 58 โดยจะใช้เงินลงทุนราว 3-4 พันล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เงินในการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงงานขยะ ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้ารวมในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็นราว 70 เมกะวัตต์ และยังมีโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาเสริมอีกในปีหน้าด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
สำหรับปีหน้าคาดว่ากำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม ( EBITDA) ของบริษัทจะเป็นบวกราว 700-800 ล้านบาท เป็นผลจากการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเต็มปี 5 โรงแรก และส่งผลต่อสัดส่วนรายได้ของบริษัทเปลี่ยนแปลง โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปัจจุบัน 80% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโทรคมนาคมจะลดลงเป็น 10% จาก 20%
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนในการย้ายกลุ่มธุรกิจจากหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไปเป็นหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยจะมีความชัดเจนหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
IEC รายได้ปี 57 ไม่ดีจะขายก็รีบขายด่วน
IEC คาดรายได้ปีนี้หด รอโตก้าวกระโดดปีหน้า
วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2557 เวลา 12:14:41 น.
นายภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการบริษัท บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปี 57 จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 774.36 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจมุ่งไปที่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน จากเดิมที่มีธุรกิจโทราคมนาคมเป็นหลัก
ทั้งนี้ บริษัทลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าทั้งหมด 6 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 32 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 โรง กำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่จ.สระแก้ว 2 โรง กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะของบริษัทย่อยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ทำให้ปีนี้จะมีโรงไฟฟ้าที่สามารถจำหน่ายไฟฟ้าและรับรู้รายได้ 5 โรง ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานขยะของบริษัทย่อยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ จะสร้างแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ในเดือน มี.ค.58
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่อีก 10 โรง ขนาด 40 เมกะวัตต์ในปี 58 โดยจะใช้เงินลงทุนราว 3-4 พันล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เงินในการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงงานขยะ ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้ารวมในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็นราว 70 เมกะวัตต์ และยังมีโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาเสริมอีกในปีหน้าด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
สำหรับปีหน้าคาดว่ากำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม ( EBITDA) ของบริษัทจะเป็นบวกราว 700-800 ล้านบาท เป็นผลจากการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเต็มปี 5 โรงแรก และส่งผลต่อสัดส่วนรายได้ของบริษัทเปลี่ยนแปลง โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปัจจุบัน 80% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโทรคมนาคมจะลดลงเป็น 10% จาก 20%
ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนในการย้ายกลุ่มธุรกิจจากหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไปเป็นหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยจะมีความชัดเจนหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น