ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.share2trade.com/index.php?mod=news&file=view&id=561
บิ๊กบอส SUPER “จอมทรัพย์ โลจายะ” ส่งซิกไตรมาส 1/62 สดใส เพราะโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์สหกรณ์การเกษตรเฟส 2 กำลังการผลิต 28 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ เปิดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทำให้รับรู้รายได้เข้ากระเป๋าเต็มๆ ส่งผลมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 777.6 เมกะวัตต์ ส่วนครึ่งปีหลังจ่อ COD โรงไฟฟ้าในต่างประเทศอีกเพียบ...
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในไตรมาสแรกปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) สหกรณ์การเกษตร เฟส 2 กำลังการผลิต 28 เมกะวัตต์ ได้ทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD ) ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มที่ในไตรมาส 1/62 รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ที่ COD ได้แล้ว เป็นปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม ส่งผลปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 777.6 เมกะวัตต์
"ไตรมาสแรกจะเป็นช่วงที่ผลประกอบการดี เนื่องจากถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ขณะเดียวกันปรากฎว่าไตรมาสแรกนี้มีโครงการที่ COD เข้ามาเยอะ ทั้งโครงการสกรณ์การเกษตร เฟส 2 และโรงไฟฟ้าขยะที่ จ.สระแก้ว ส่วนไตรมาสที่เหลือยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้"
นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า SUPER ยังคงมองหาโอกาสในการขยายโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. พิจิตร กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1,200 -1,300 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างภายใต้ บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 6 คาดว่าจะทยอย COD ในช่วงไตรมาส 3/2562 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนอีก 3 โครงการที่จะทยอยดำเนินการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. หนองคาย กำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3 เช่นกัน
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. นนทบุรีกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ เริ่มก่อสร้างในปลายปี 2563 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. เพชรบุรี กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ในปี2563 เช่นเดียวกัน
การขยายการลงทุนไปสู่โรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการผลิตและมสร้างรายได้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเข้ามาเสริมกับรายได้ของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นการกระจายสัดส่วนรายได้ จากรายได้หลักที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ 80 – 90 % ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้อยู่ที่ 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ SUPER ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จะช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ และสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
SUPER โตไม่ยั้ง! Q1/62 บุ๊ครายได้วินด์ฟาร์ม-ขยะ
บิ๊กบอส SUPER “จอมทรัพย์ โลจายะ” ส่งซิกไตรมาส 1/62 สดใส เพราะโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์สหกรณ์การเกษตรเฟส 2 กำลังการผลิต 28 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ เปิดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทำให้รับรู้รายได้เข้ากระเป๋าเต็มๆ ส่งผลมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 777.6 เมกะวัตต์ ส่วนครึ่งปีหลังจ่อ COD โรงไฟฟ้าในต่างประเทศอีกเพียบ...
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในไตรมาสแรกปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) สหกรณ์การเกษตร เฟส 2 กำลังการผลิต 28 เมกะวัตต์ ได้ทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD ) ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มที่ในไตรมาส 1/62 รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ที่ COD ได้แล้ว เป็นปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม ส่งผลปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 777.6 เมกะวัตต์
"ไตรมาสแรกจะเป็นช่วงที่ผลประกอบการดี เนื่องจากถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ขณะเดียวกันปรากฎว่าไตรมาสแรกนี้มีโครงการที่ COD เข้ามาเยอะ ทั้งโครงการสกรณ์การเกษตร เฟส 2 และโรงไฟฟ้าขยะที่ จ.สระแก้ว ส่วนไตรมาสที่เหลือยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้"
นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า SUPER ยังคงมองหาโอกาสในการขยายโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. พิจิตร กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1,200 -1,300 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างภายใต้ บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 6 คาดว่าจะทยอย COD ในช่วงไตรมาส 3/2562 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนอีก 3 โครงการที่จะทยอยดำเนินการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. หนองคาย กำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3 เช่นกัน
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. นนทบุรีกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ เริ่มก่อสร้างในปลายปี 2563 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จ. เพชรบุรี กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ในปี2563 เช่นเดียวกัน
การขยายการลงทุนไปสู่โรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการผลิตและมสร้างรายได้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเข้ามาเสริมกับรายได้ของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นการกระจายสัดส่วนรายได้ จากรายได้หลักที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ 80 – 90 % ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้อยู่ที่ 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ SUPER ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จะช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ และสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น