EA โชว์แผนธุรกิจก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai เตรียมทุ่มงบก้อนโตรุกธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 4 โครงการรวด รวม 278 เมกะวัตต์ ล่าสุดโครงการแรกกดปุ่มจ่ายไฟให้ กฟภ.แล้ว 8 เมกะวัตต์ รอรับทรัพย์ ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป ส่วนที่เหลือพร้อมเริ่มดำเนินการปีหน้า ด้านที่ปรึกษาฯ เผย อยู่ระหว่าง รอไฟเขียวจาก ก.ล.ต.อนุมัติขายไอพีโอ 560 ล้านหุ้น หลังยื่นไฟลิ่งเรียบร้อย ชูจุดเด่น EA มีเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำของธุรกิจพลังงานทดแทนในอนาคต มั่นใจ EA เป็นหนึ่งในทางเลือกที่สร้างผล ตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกของบริษัท ขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี สามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ด้วยการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้แล้วตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำให้บริษัทจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 150 ล้านต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดหาเงินทุนสำหรับใช้ในการก่อสร้างโครงการ รวมถึงในจังหวัดลำปาง และจังหวัดพิษณุโลก อีกโครงการละ 90 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการลงทุนในปี 2556 ปี 2557 และปี 2558 ตามลำดับ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการละประมาณ 6,680 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนรวมทั้งสิ้น 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ ซึ่งทุกโครงการได้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งดีต่อความมั่นคงต่อการดำเนินงานของบริษัทในระยะยาว
EA รอฤกษ์เตรียมขาย IPO พร้อมรุกธุรกิจพลังงานทดแทน
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกของบริษัท ขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี สามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ด้วยการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้แล้วตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำให้บริษัทจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 150 ล้านต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดหาเงินทุนสำหรับใช้ในการก่อสร้างโครงการ รวมถึงในจังหวัดลำปาง และจังหวัดพิษณุโลก อีกโครงการละ 90 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการลงทุนในปี 2556 ปี 2557 และปี 2558 ตามลำดับ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการละประมาณ 6,680 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนรวมทั้งสิ้น 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ ซึ่งทุกโครงการได้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งดีต่อความมั่นคงต่อการดำเนินงานของบริษัทในระยะยาว