จรดไว้ในทรวงว่า... (๕)

ตอน ๑
https://ppantip.com/topic/41966906
ตอน ๒
https://ppantip.com/topic/41968303
ตอน ๓
https://ppantip.com/topic/41969887
ตอน ๔
https://ppantip.com/topic/41971652

(๕)
นักบินขับไล่ไอพ่น เอฟ-5 เอ
 
หญิงสาวหน้าเปียโนไม่ได้กำหนดไว้ในใจก่อนว่าจะเล่นเพลงใด  ครั้นพอจรดนิ้วบนแป้นเปียโนก็เป็นเพลงเดียวกับที่บรรเลงคลอในค่ำคืนนั้น...งานฉลองยศเรืออากาศตรี  รุ่นนั้นมีหม่อมราชวงศ์ธเจต อักขระกานต์เป็นหนึ่งในนายทหารที่ออกมารับใช้ชาติ  ส่วนเธอเพิ่งออกจากรั้วโรงเรียน  

        เด็กสาวออกงานสังคมครั้งแรก...นึกฝันให้คู่เต้นรำคนแรกเป็นพี่ชายหมอก  เธอเพิ่งรู้จักความปรารถนาจะประทินแต่งเพื่อชายที่เก็บอยู่ในใจ  แต่งหน้าทำผมอย่างไม่เคยมาก่อน  พยายามจะเป็นสาวสวยให้สมกับเป็นคู่ควง  แต่เพราะไม่คุ้นชินจึงประดักประเดิดตัวเองไม่รู้จะวางท่าวางทางอย่างไร  

        แม้นสุดประหม่าเด็กสาวก็แสดงออกด้วยความจริงใจทั้งหมดที่มี  กระนั้น...  ทั้ง ๆ เขายืนเคียงอยู่ในรายล้อมของผู้คนรอบงานเธอเสมือนถูกปล่อยเกาะคนเดียว  โดดเดี่ยวแท้จริงรู้สึกเช่นไร...ได้รู้จักก็คืนนั้น  

        ในภวังค์เหม่อลอยตามเสียงดนตรี  จู่ ๆ ร่างในเครื่องแบบสีฟ้าทหารอากาศปรากฏตรงหน้า  ภาพนั้นพร่าเลือนละม้ายแลผ่านม่านน้ำ  แต่ชุดที่เห็นไม่เคยทำให้นึกถึงใครอื่น  หัวใจหญิงสาวเต้นตึ้กตั้กตัวร้อนวูบวาบเช่นครั้งยืนก้มหน้ารอเขายื่นแขนคล้องควงไปเต้นรำ

        พอเงยหน้าเท่านั้น...เหมือนตื่นจากฝันมาพบความจริง  

        นายคนนี้เป็นใคร  มายืนจ้องหน้าฉันทำไม !  

        เรืออากาศโท ทัศน์ มนัสเนตรกำลังมองสวนสายตาหญิงแปลกหน้าเช่นกัน   

        คลับคล้ายคลับคลาแฮะ  แต่เป็นคนละคน

        ดวงตาเธอจ้องเขม็งที่เครื่องแบบซึ่งติดตาตรึงใจเสมอ  เสียงร้องเตือนตัวเองผุดขึ้น  ตื่น ! กล้วย ตื่น !  นึกว่าตัวเองอยู่ในฝันหรือ  มองขึ้นสบตาอีกที  พบความจริง  ชายตรงหน้ามิใช่คนที่คะนึงหา  งงงันกับความบังเอิญชั่วอึดใจก่อนโพล่ง

        “อย่าบอกนะว่า  ฝูงบิน 13 กองบิน 1 นักบินขับไล่ไอพ่น เอฟ-5 เอ !”  

        นายทหารนักบินอึ้งสนิท  นี่เป็นคำถามหรือเจ้าหล่อนรำพึงกับตัวเอง  เขาก็ไม่แน่ใจ

        “เอ้า ลูก กลับมาแล้วเหรอ  นั่นไปทะลึ่งยืนอะไรตรงนั้น !”  

        ได้ยินมารดาเอ็ดเสียงเขียวจากข้างหลัง  ทัศน์รู้สึกตัวละสายตาจากวงหน้านวลเอี้ยวไปอ้อมแอ้มถามกลับแก้เก้อ  “ไปต่างเมืองไม่กี่วัน  เอ้อ...  ครูคนใหม่อีกแล้วเหรอครับ”  คุณหญิงสดศรีบอกหญิงสาวและตอบบุตรชายไปในตัว  “วันเสาร์มาสอนได้เลยนะ  ครูพิศ”  

        ‘พิศ’  กร่อนมาจาก  ‘เพียงพิศ’  ตามชื่อที่แจ้ง  เจ้าตัวยิ้มบาง ๆ ลุกขึ้นไหว้ลาหญิงเจ้าบ้านก่อนเบี่ยงมาไหว้ลูกชายด้วย  ทิ้งสายตาจับเปียโนประหนึ่งจะร่ำลาจึงค่อยสาวเท้ายังประตู  ทัศน์ปรายตาตามหลังหญิงในชุดกระโปรงผ้าพื้นสีตองอ่อนสะพายถุงผ้าปักใบโต  รูปทรงคล้ายคลึงกันเสียจริง  แทบจะพิมพ์เดียวกับแม่สาวชุดพิมพ์ลายสีสดตัดเด่นฉูดฉาด  ผ้ามันลื่นเนื้อดีแลปราดเดียวรู้ว่าแพงลิ่ว  หิ้วกระเป๋าหนังใบเก๋  โบผูกข้างลำคอระหงปลิวตามจังหวะก้าวฉับ ๆ  

        ยังไงก็เถอะ  เขาไม่เห็นเหตุผลหรือความเป็นไปได้...อยู่ ๆ สาวมาดเฉี่ยวคนนั้นจะมาโผล่บ้านเขาในอีกสภาพหนึ่ง    

        เมื่อครูดนตรีคล้อยหลังจากบ้านมนัสเนตร  ในครัวที่ชุมนุมบรรดาบริวารพูดอื้ออึงเป็นเสียงเดียวกัน  

        “ครูคนใหม่ยังดูเด็กหน้าตาเป๋อเหลอ  เจอคุณหนูเฟื่องเข้าไป  สามวันจะรอดรึเปล่า !”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่