จรดไว้ในทรวงว่า... (๔)

ตอน ๑
https://ppantip.com/topic/41966906
ตอน ๒
https://ppantip.com/topic/41968303
ตอน ๓
https://ppantip.com/topic/41969887

(๔)
สาวราชดำริ / นางฟ้าปีกหัก
 
เรืออากาศโท ทัศน์ มนัสเนตรกำลังหงุดหงิดกับการจราจรบนถนนราชดำริที่ไม่เป็นใจให้เขาขับรถตรงกลับบ้านรวดเร็วดังใจ  เนื่องจากร่างกายอ่อนล้าหลังไปปฏิบัติราชการสนามที่อู่ตะเภาตลอดสัปดาห์  ใจจึงแล่นถึงอ่างอาบน้ำเย็นฉ่ำกับเตียงนอนแสนสบายที่บ้านตั้งนานแล้ว

        ทว่าแวบเดียว...เสี้ยววงหน้าหญิงสาวคนหนึ่งตัดผ่านกระจกข้างรถ  มือพลันหมุนพวงมาลัยออกจากเส้นทางที่ควรมุ่งไปข้างหน้า  ขับจี้ตามร่างที่ก้าวฉับ ๆ บนรองเท้าส้นสูงท่ามกลางกระแสรถติดยาวเหยียดของย่านธุรกิจ  พยายามจับจ้องด้านหลังหญิงสาวในชุดสวยเฉี่ยวที่ซอกซอนไปตามผู้คนไม่ให้คลาดสายตา  หล่อนเลี้ยวหายไปตรงมุมตึก  เขาหักล้อตาม  กระทั่งร่างนั้นลับหลังประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าไทยไดมารู  โดยไม่ลังเลเขาเร่งโฉบรถจอดข้างทาง  ทิ้งเชลบี ค็อบบราคันโก้ตรงนั้นทั้งรู้ว่าไม่พ้นโดนใบสั่งแน่ ๆ  ไล่ตามหญิงสาวเข้าชั้นแรกของห้างที่ลูกค้าขวักไขว่  เดินกึ่งวิ่งตามหาเจ้าของเสี้ยวหน้าซึ่งดึงดูดเขาจนมาถึงที่นี่  ยังไงต้องขอเห็นหน้าแม่สาวคนนั้นชัด ๆ สักทีสิน่า !

        เดินหาตลอดชั้นหนึ่งไม่เจอชายหนุ่มขึ้นบันไดเลื่อนสู่ชั้นสอง  ขณะที่เธอผู้นั้นตรงแน่วยังห้องน้ำแต่แรกมาถึง  ปลอดพ้นจากสายตาผู้ตามตั้งแต่ต้น  เธอหยิบถุงผ้าปักกับชุดกระโปรงผ้าฝ้ายและรองเท้าส้นแบนจากกระเป๋าหนังทรงกล่องใบเก๋ที่ถือมา  ภายหลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นแบบพื้นที่สุด  รวบผมจับลอนสวยขึ้นผูก  และใบหน้าที่บรรจงแต่งหยาดเยิ้มถูกลบทิ้งเหลือเพียงผิวเนื้อแท้  เธอมองดูตัวเองในกระจก  

        รัมภาเพียงพิศ... 
        รัมภา แปลว่านางฟ้า  แต่หากนางฟ้าปีกหักร่อนไปตกดินตรงไหนดี...   

        เธอยิ้มให้เงาสะท้อนครึ่งร่างเหนืออ่างล้างมือ  จากนั้นมุ่งหน้าออกจากห้างยังจุดหมายต่อไป  ไม่รู้เลยว่าได้ทิ้งชายคนหนึ่งให้เที่ยววนตามหาไว้เบื้องหลัง  
        ขณะนี้หม่อมราชวงศ์รัมภาเพียงพิศ วิมุขมาศมายืนตรงหน้าบ้าน ‘มนัสเนตร’ อันเป็นที่หมายแล้ว
 

“นั่งรอตรงนี้  คุณหญิงยังไม่กลับ”  

        แม่บ้านใหญ่มาดเคร่งครึสั่งเสียงห้วนเฉียบ  หลังนำคนซึ่งภรรยาท่านรัฐมนตรีนัดไว้มาหยุดตรงมุมรับรองของโถงหน้า  เมื่อย่างสู่ห้องโอ่อ่าตกแต่งสไตล์ยุโรปลูกผสม  หญิงสาวในชุดกระโปรงพื้น ๆ หิ้วถุงผ้าปักดูมอซอไปถนัดใจ  ทว่านอกจากเจ้าตัวจะไร้ทีท่าตื่นรัศมีหรูหราอลังการที่แผดใส่  กลับสอดส่ายสายตาคล้ายมองหาสิ่งหนึ่งทั้งที่เพิ่งมาเยือนคฤหาสน์แห่งนี้ครั้งแรก  แล้วแววตาวาวโรจน์เมื่อเห็นเปียโนโบราณที่ตั้งเยื้องผนังกระจกติดม่านขาวโปร่งบาง  
        แม่เคยสอนลูกสาวตัวน้อยเล่นเปียโนหลังนั้น  

        “สะสมสิ่งดี ๆ ไว้เป็นประโยชน์วันหน้า”   

        แม่บอกขณะอุ้มลูกหญิงมานั่งบนตักและเล่าว่าชื่อเล่นสามพี่น้อง  น้ำตาล-น้ำหอม-น้ำว้า  แม่ตั้งมาจาก  ต้นตาล-ต้นมะพร้าว-ต้นกล้วย  เพราะต้นไม้เหล่านี้ขึ้นชื่อว่าสารพัดประโยชน์  ปรับเปลี่ยนประยุกต์ใช้ได้หลายแบบ  และ ‘รัมภา’ ไม่ได้หมายถึงนางฟ้าเท่านั้น  

        “รัมภาแปลว่ากล้วยได้ด้วย”  

        แม่กอดกระชับร่างน้อยแนบอกอุ่น  “รัมภาเพียงพิศของแม่จะได้สารพัดประโยชน์สมชื่อกล้วยไงลูก”  แล้วยิ้มเย้าเรียกลูกสาวคนเล็ก  “หนูกล้วย”  

        “จะอะไรกันนักกันหนา  ฉันเป็นคุณหญิงแล้วไปรวมกลุ่มกับแม่พวกผู้ดีเก่าทีไร  ยังต้องแยกคุณหญิงตราตั้งแบ่งคุณหญิงโดยกำเนิด”  

        หญิงสาวถูกกระชากหลุดจากภวังค์  คุณหญิงสดศรีเดินบ่นปอดแปดดังคับบ้านมาทิ้งตัวนั่งอย่างเมื่อยล้า  ไม่พูดพร่ำทำเพลงถามคนมารอที่ตรงหน้า  

        “เอ้า ว่ามา  ชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร”  

        “กล้วยค่ะ”  คนตอบเร็วพอกัน  

        “หล่อนชื่อกล้วยลุ่น ๆ ด้วน ๆ รึ  ไม่มีสร้อยต่อ...หอมทอง  หักมุก  มะลิอ่อง  นางกลาย”
       
        รอยยิ้มนิด ๆ ผุดริมฝีปากหญิงสาว  นางฟ้าตกสวรรค์เป็นกล้วยนางกลาย  นางกลายเป็นกล้วย  ดีเลย...สารพัดประโยชน์

        “เอ้า มายิ้ม  เพื่อนเล่นหล่อนเรอะ !  ฉันได้ยินผ่านหูคุณนายสอางค์บอกหล่อนชื่ออะไร...พิด ๆ พัด ๆ”

        “เพียงพิศค่ะ”

        “ที่บ้านทำอะไร”

        เจ้าตัวเหลือบเห็นขบวนคนรับใช้หอบหิ้วถุงเรียงแถวเข้ามา  หนึ่งในนั้นคือถุงขนมตำรับวังวิมุขมาศ  

        “ทำของขายค่ะ”  คำตอบเลี่ยงโกหก  

        “อ้อ ลูกพ่อค้า  เรียนจบถึงไหน”

        “ม.ศ.ห้าค่ะ”

        “แล้วฉันจะเชื่อหล่อนได้ยังไง  หลักถงหลักฐานอะไรก็ไม่มี”

        “พอดีเอกสารอยู่ต่างจังหวัดค่ะ”

        “นี่ถ้าคุณนายสอางค์ไม่รับรองหล่อน  ฉันไม่เรียกมาคุยหรอกนะ  ทำไงถึงเล่นเปียโนเป็นล่ะเรา”

        เจ้าตัวหันมองเปียโนโบราณหลังงามแทนคำตอบ  “ดิฉันลองเล่นให้ฟังเลยละกัน”  แล้วพุ่งใส่เครื่องดนตรีโดยไม่รอคำอนุญาต  เล่นเอาเจ้าบ้านสะดุ้ง 

        “เอ้า !  แม่คุณ  นึกจะลุกก็ผลุบผลับ”
 
       
        หยุดล้อดับเครื่องยนต์ตรงลานจอดหน้าตึกแล้วนายทหารหนุ่มก้าวลงจากรถด้วยอารมณ์หงุดหงิดหนักขึ้นไปอีก  นึกบ่นกับตัวเองว่าวิ่งวนหาจนเหนื่อยยังพอทำเนา  แต่ผิดหวังนี่สิ  ไอ้ทัศน์เอ๊ย...ไล่ตามผู้หญิงชวดไม่ได้เห็นหน้าเขา  แถมเจ็บกระดองใจปะหน้าคุณจ่าเต็มเปาแทน  พ่อแยกเขี้ยวเขียนใบสั่ง  แม่สาวคนนั้นก็ช่างไวเสียจริง  รอดหลุดสายตายังกับหายตัวได้  อย่าให้รู้เชียวว่าเป็นใคร...พ่อจะจับตีก้นสักสามที  

        คิดพลางย่างเท้าขึ้นบันไดสี่ห้าขั้นเหยียบพื้นมุขหินอ่อนโอ่อ่าหน้าตึก  กำลังจะก้าวเข้าประตูพลันชะงัก  เพิ่งแว่วยินเสียงเปียโนพริ้วไหวลอยจากข้างใน  เขาหยุดถอยหลังไปมองประตูอีกที...ลายขอบสีทอง  ก็ถูกบ้านนี่หว่า  พลันนึกขึ้นได้ว่าไม่นานมานี้มารดาได้เปียโนโบราณจากวังเก่ามา ‘ประดับบ้าน’ อีกชิ้น
            
        แล้วใครเล่นกันล่ะนี่...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่