ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราคบกับสามีมาแล้ว 10 ปี คบกันตั้งแต่เรายังเรียนมหาลัย แต่ตอนนั้นแฟนเราเรียนจบแล้ว (อายุห่างกัน 4 ปี)
เรื่องของเรื่องคือ ก่อนหน้าที่เราจะแต่งงาน เราไม่เคยไปก้าวก่ายการเงินของสามีเลยค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนที่เราคบกับสามีแรกๆ สามีเรายังไม่มีงานการทำเป็นหลักแหล่งเลย ต้องอาศัยรับจ้างเป็นเด็กเสริฟไปเรื่อย (ไม่ประจำ มีงานใหญ่ๆเขาถึงเรียกไปทำ) ไอเราก็เรียนปีสุดท้ายไปด้วย ทำงานร้านขายอาหารไปด้วย ไม่เคยไปเดือดร้อนเงินของสามี จนเราคบกันได้ประมาณ 2 ปี สามีเราได้งานเป็นหลักแหล่ง เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000+ เราก็ยังไม่ไปยุ่งเกี่ยวเงินเขานะคะ จนเราเรียนจบ เราก็ได้งานในสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง (พนง.ราชการ) เราก็มีเงินเดือน แฟน(สามี) ก็มีเงินเดือน แฟนก็เลยวางแผนจะแต่งงาน ซึ่งตอนที่ตกลงว่าจะแต่งงานเรากับแฟนคบกันได้ 4-5 ปีแล้วค่ะ พอตัดสินใจเรื่องการใช้ชีวิตคู่ เรากับแฟนเลยต้องเก็บเงินค่ะ เพราะฐานะทางบ้านแฟนไม่สามารถมาช่วยจุนเจือได้แน่ๆ ซึ่งเราก็ไม่เคยหวังอะไรจากบ้านเขานะคะ เราก็ตัดสินใจเก็บเงินเดือนละ 30,000 บาท เพื่อหวังว่างานแต่งของเรา ครั้งเดียวในชีวิต จะให้มันราบรื่นที่สุด เราเชื่อว่าถ้ามีเงิน ทุกอย่างมันจะง่ายค่ะ เราไม่ต้องเหนื่อยทำเองทั้งหมด เรากับแฟนก็ไปเปิดบัญชีแยกสำหรับเก็บเงินแต่งงาน และจะใช้บัญชีนี้เป็นบัญชีเงินเก็บในอนาคตด้วยค่ะ เราเก็บเงินได้ประมาณ3-4 เดือน ปัญหาแรกก็เข้ามาทัน แม่แฟนเราติดหนี้ ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าแกไปทำอะไร ทำไมถึงเป็นหนี้ เพราะแฟนเราก็ส่งให้ใช้จ่ายทุกเดือน พี่สาวแฟนก็ให้ (เราคิดว่าให้นะคะ ความจริงเราไม่ทราบ) แกเป็นหนี้ก้อนแรก 70,000 บาท แกก็โทรมาร้องไห้กับแฟนเรา แฟนเราเค้ารักแม่เค้ามากค่ะ ยอมเอาเงินเก็บที่เราจะใช้จัดงานแต่งงานไปให้แม่เค้าใช้หนี้ เราก็ไม่กล้าปฏิเสธ และคิดว่ายังมีเวลาเก็บเงิน
จนผ่านมาอีกประมาณ 3 เดือน ก้อนที่ 2 ก็เกิดขึ้นค่ะ แกก็โทรมาร้องไห้ บอกว่าเป็นหนี้ คราวที่แล้วมันไม่หมดแกไม่กล้าบอกความจริง กลัวลูกโกรธ รอบนี้อีก 50,000 บาท เราที่เพิ่งได้เริ่มเก็บเงินกันใหม่ แต่ก็ต้องเอาไปช่วยแกก่อน และแฟนเราก็รับปากว่าจะไม่ช่วยอีกแล้ว แต่มันไม่จริงค่ะ ผ่านมาอีกไม่กี่เดือน แกก็มาบอกว่าเจ้าหนี้มาทวงเงินอีก 50,000 ตอนนั้นเราปรี๊ดแตกมาก แต่แฟนเราขอร้อง เราทะเลาะกับแฟนหนักมาก จนเกือบไม่ได้แต่งงาน แต่สุดท้ายก็ต้องช่วย ..งานแต่งงานของเราผ่านไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แม่เรารับรู้ปัญหาทุกอย่าง แกเลยบอกกับเราและสามีว่ายกสินสอดทั้งหมดคืนให้ลูกๆ (ฝั่งเราไม่ได้ลำบากนะคะ พอมีพอกิน เพราะบ้านเราไม่ฟุ้งเฟ้อค่ะ) หลังจากแต่งงาน สามีให้เราจัดการเรื่องการเงินเองทั้งหมด เราต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ทางบ้านเค้าทุกเดือน ยิ่งเงินเดือนสามีขึ้นสูงเท่าไหร่ ทางบ้านเค้าก็เรียกร้องมากขึ้นเท่านั้น จนเราตั้งท้องลูกคนแรก เงินที่เราตั้งใจเก็บมันแทบจะไม่เหลือค่ะ วันที่เราผ่าคลอด ออกจากโรงพยาบาลก็ยังได้แม่เรานี่แหละ ที่จ่ายค่าคลอดไปให้ก่อน แต่ทางบ้านสามีไม่เคยถามถึงเลยนะคะ เราก็เลี้ยงลูก+ทำงานไปด้วย สามีเราทำงานต่างที่ค่ะ จะกลับมาบ้านเดือนละครั้ง เรายังโชคดีที่มีแม่คอยซัพพอร์ตทุกอย่าง ..แล้วเราก็ดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆค่ะ ระหว่างทางที่เราเล่ามานี้ แม่สามีก็ยังสร้างหนี้สินให้สามีตามแก้อีกประมาณ 2-3 ครั้งนะคะ ทั้งๆที่หลานก็ยังเล็ก แต่เค้าไม่เคยนึกถึงเลย ทางด้านพี่สาวสามีก็เช่นกันค่ะ เวลามีเรื่องเดือดร้อน ก็จะมาให้สามีเราแก้ตลอด สามีเราทำงานต่างถิ่น เขาก็มีความกังวลในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่พี่สาวเค้าไม่ว่าจะเกิดเรื่องเล็กน้อยอะไร เค้าจะโทรไปเล่าสามีเราตลอด จนสามีเราเครียด ทำงานไม่ได้ ซึ่งงานของสามีค่อนข้างอันตรายค่ะ แล้วก็เป็นเราทุกครั้งที่ต้องคอยพูดจนเค้าใจเย็นลง ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ แม่สามีก็โดนตามทวงหนี้อีก เราเหลืออดมาก เงินเก็บที่เราตั้งใจจะเก็บไว้จ่ายค่าเทอมลูก ค่าชุดนักเรียนลูก ต้องเอาไปช่วยแม่สามี เราหมดความอดทนกับครอบครัวนี้มากค่ะ จนบางทีเราก็เหลืออดกับสามีเราแล้วเหมือนกัน รู้นะคะว่าใครๆก็รักแม่ตัวเอง แต่การรักแบบนี้มันถูกแล้วหรอคะ เราไปสืบรู้มาทีหลังว่าแกเล่นหวยหนักค่ะ ทั้งหวยใต้ดิน หวยหุ้น และอาจจะมีอย่างอื่นอีก พอเงินไม่พอจ่ายก็เที่ยวยืมเค้าไปทั่วค่ะ
..ใครเคยเจอปัญหาแบบเรา มาแชร์กันได้นะคะ เราแค่อยากระบายให้ใครสักคนที่เข้าใจเรา
เกลียดครอบครัวผัว
เรื่องของเรื่องคือ ก่อนหน้าที่เราจะแต่งงาน เราไม่เคยไปก้าวก่ายการเงินของสามีเลยค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนที่เราคบกับสามีแรกๆ สามีเรายังไม่มีงานการทำเป็นหลักแหล่งเลย ต้องอาศัยรับจ้างเป็นเด็กเสริฟไปเรื่อย (ไม่ประจำ มีงานใหญ่ๆเขาถึงเรียกไปทำ) ไอเราก็เรียนปีสุดท้ายไปด้วย ทำงานร้านขายอาหารไปด้วย ไม่เคยไปเดือดร้อนเงินของสามี จนเราคบกันได้ประมาณ 2 ปี สามีเราได้งานเป็นหลักแหล่ง เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000+ เราก็ยังไม่ไปยุ่งเกี่ยวเงินเขานะคะ จนเราเรียนจบ เราก็ได้งานในสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง (พนง.ราชการ) เราก็มีเงินเดือน แฟน(สามี) ก็มีเงินเดือน แฟนก็เลยวางแผนจะแต่งงาน ซึ่งตอนที่ตกลงว่าจะแต่งงานเรากับแฟนคบกันได้ 4-5 ปีแล้วค่ะ พอตัดสินใจเรื่องการใช้ชีวิตคู่ เรากับแฟนเลยต้องเก็บเงินค่ะ เพราะฐานะทางบ้านแฟนไม่สามารถมาช่วยจุนเจือได้แน่ๆ ซึ่งเราก็ไม่เคยหวังอะไรจากบ้านเขานะคะ เราก็ตัดสินใจเก็บเงินเดือนละ 30,000 บาท เพื่อหวังว่างานแต่งของเรา ครั้งเดียวในชีวิต จะให้มันราบรื่นที่สุด เราเชื่อว่าถ้ามีเงิน ทุกอย่างมันจะง่ายค่ะ เราไม่ต้องเหนื่อยทำเองทั้งหมด เรากับแฟนก็ไปเปิดบัญชีแยกสำหรับเก็บเงินแต่งงาน และจะใช้บัญชีนี้เป็นบัญชีเงินเก็บในอนาคตด้วยค่ะ เราเก็บเงินได้ประมาณ3-4 เดือน ปัญหาแรกก็เข้ามาทัน แม่แฟนเราติดหนี้ ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าแกไปทำอะไร ทำไมถึงเป็นหนี้ เพราะแฟนเราก็ส่งให้ใช้จ่ายทุกเดือน พี่สาวแฟนก็ให้ (เราคิดว่าให้นะคะ ความจริงเราไม่ทราบ) แกเป็นหนี้ก้อนแรก 70,000 บาท แกก็โทรมาร้องไห้กับแฟนเรา แฟนเราเค้ารักแม่เค้ามากค่ะ ยอมเอาเงินเก็บที่เราจะใช้จัดงานแต่งงานไปให้แม่เค้าใช้หนี้ เราก็ไม่กล้าปฏิเสธ และคิดว่ายังมีเวลาเก็บเงิน
จนผ่านมาอีกประมาณ 3 เดือน ก้อนที่ 2 ก็เกิดขึ้นค่ะ แกก็โทรมาร้องไห้ บอกว่าเป็นหนี้ คราวที่แล้วมันไม่หมดแกไม่กล้าบอกความจริง กลัวลูกโกรธ รอบนี้อีก 50,000 บาท เราที่เพิ่งได้เริ่มเก็บเงินกันใหม่ แต่ก็ต้องเอาไปช่วยแกก่อน และแฟนเราก็รับปากว่าจะไม่ช่วยอีกแล้ว แต่มันไม่จริงค่ะ ผ่านมาอีกไม่กี่เดือน แกก็มาบอกว่าเจ้าหนี้มาทวงเงินอีก 50,000 ตอนนั้นเราปรี๊ดแตกมาก แต่แฟนเราขอร้อง เราทะเลาะกับแฟนหนักมาก จนเกือบไม่ได้แต่งงาน แต่สุดท้ายก็ต้องช่วย ..งานแต่งงานของเราผ่านไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แม่เรารับรู้ปัญหาทุกอย่าง แกเลยบอกกับเราและสามีว่ายกสินสอดทั้งหมดคืนให้ลูกๆ (ฝั่งเราไม่ได้ลำบากนะคะ พอมีพอกิน เพราะบ้านเราไม่ฟุ้งเฟ้อค่ะ) หลังจากแต่งงาน สามีให้เราจัดการเรื่องการเงินเองทั้งหมด เราต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ทางบ้านเค้าทุกเดือน ยิ่งเงินเดือนสามีขึ้นสูงเท่าไหร่ ทางบ้านเค้าก็เรียกร้องมากขึ้นเท่านั้น จนเราตั้งท้องลูกคนแรก เงินที่เราตั้งใจเก็บมันแทบจะไม่เหลือค่ะ วันที่เราผ่าคลอด ออกจากโรงพยาบาลก็ยังได้แม่เรานี่แหละ ที่จ่ายค่าคลอดไปให้ก่อน แต่ทางบ้านสามีไม่เคยถามถึงเลยนะคะ เราก็เลี้ยงลูก+ทำงานไปด้วย สามีเราทำงานต่างที่ค่ะ จะกลับมาบ้านเดือนละครั้ง เรายังโชคดีที่มีแม่คอยซัพพอร์ตทุกอย่าง ..แล้วเราก็ดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆค่ะ ระหว่างทางที่เราเล่ามานี้ แม่สามีก็ยังสร้างหนี้สินให้สามีตามแก้อีกประมาณ 2-3 ครั้งนะคะ ทั้งๆที่หลานก็ยังเล็ก แต่เค้าไม่เคยนึกถึงเลย ทางด้านพี่สาวสามีก็เช่นกันค่ะ เวลามีเรื่องเดือดร้อน ก็จะมาให้สามีเราแก้ตลอด สามีเราทำงานต่างถิ่น เขาก็มีความกังวลในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่พี่สาวเค้าไม่ว่าจะเกิดเรื่องเล็กน้อยอะไร เค้าจะโทรไปเล่าสามีเราตลอด จนสามีเราเครียด ทำงานไม่ได้ ซึ่งงานของสามีค่อนข้างอันตรายค่ะ แล้วก็เป็นเราทุกครั้งที่ต้องคอยพูดจนเค้าใจเย็นลง ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ แม่สามีก็โดนตามทวงหนี้อีก เราเหลืออดมาก เงินเก็บที่เราตั้งใจจะเก็บไว้จ่ายค่าเทอมลูก ค่าชุดนักเรียนลูก ต้องเอาไปช่วยแม่สามี เราหมดความอดทนกับครอบครัวนี้มากค่ะ จนบางทีเราก็เหลืออดกับสามีเราแล้วเหมือนกัน รู้นะคะว่าใครๆก็รักแม่ตัวเอง แต่การรักแบบนี้มันถูกแล้วหรอคะ เราไปสืบรู้มาทีหลังว่าแกเล่นหวยหนักค่ะ ทั้งหวยใต้ดิน หวยหุ้น และอาจจะมีอย่างอื่นอีก พอเงินไม่พอจ่ายก็เที่ยวยืมเค้าไปทั่วค่ะ
..ใครเคยเจอปัญหาแบบเรา มาแชร์กันได้นะคะ เราแค่อยากระบายให้ใครสักคนที่เข้าใจเรา