ความที่ Plot โฟกัสแค่เพียงตัวคู่พ่อกับลูกสาวเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันช่วงฤดูร้อนในประเทศตุรกีกัน 2 คน ทำให้การดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นยันจบรู้สึกว่าตลอดระยะทางให้ Feel กึ่ง Road Trip ผสมกับความเป็นสารคดีตามติดชีวิตคนเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่หนังก็สามารถขยายเส้นเรื่องต่อไปได้ถึง 1 ชั่วโมง 42 นาทีจนผมไม่รู้สึกว่าหนังจะเดินเรื่องยืดยาวชวนง่วงหลับแต่อย่างใด กลับรู้สึกว่าทุก Scene ที่ปรากฎสามารถสะกดสายตาให้เราจูนติดไปกับมันได้ง่ายแถมผ่านไปเร็วอย่างเหลือเชื่อ ไม่เพียงแค่การเล่าเรื่องที่เรียบง่ายจนทำให้ผมน้ำตาคลอเบ้าได้เท่านั้น แต่ทุก Scene ที่ถ่ายทอดออกไปมันจี้ถูกจุดหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะบทสนทนากันระหว่าง คัลเลม กับ โซฟี แม้ก็เหมือนกับคนทั่วไปเขาพูดกันแต่ทำไมฟังแล้วช่างคมบาดใจผมเหลือเกิน
เข้าใจอีกเช่นกันว่าทำไมฉากหลังถึงเลือกใช้ช่วงยุค 90s เพราะว่าเป็นช่วงยุคของความสุขสำหรับวัยเด็กที่คิดถึงแค่ความสนุกโดยไม่ได้เข้าใจได้ถึงช่วงที่ผู้ใหญ่กำลังเผชิญวิกฤติในชีวิตอย่างลึกซึ้งนัก ไหนจะช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากศตวรรษเก่าสู่สหัสวรรษใหม่อย่าง Y2K อีก ดังนั้นภาพที่ปรากฎ ไม่ว่าจะเป็น การทำกิจกรรมร่วมกัน , การรู้จักแก๊งค์หนุ่มสาววัยฮอร์โมน หรือ การพบกับเพื่อนชายร่างอ้วนวัยเดียวกัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้จะไหลผ่านสู่สายตาและมุมมองน้อย ๆ ของ โซฟี ให้ค่อย ๆ เรียนรู้ ปรับตัว ยอมรับไปกับมัน ขณะเดียวกันก็การส่งมอบความเจ็บปวดจากผู้เป็นพ่อไปสู่ลูกสาวในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งรับบทโดย Celia Rowlson-Hall จาก Vox Lux (2018) เข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่เราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งหนังจะเดินเป็นเส้นตรง มีตัดสลับช่วง Timeline ระหว่างอดีตกับปัจจุบันเป็นระยะ แต่ไม่สับสนเลย เพราะหนังใช้ความสวยงามจากสถานที่ต่าง ๆ เล่าเรื่องเอง แถมช่วยกลบส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปหมด
คุณงามความดีต้องขอมอบให้กับผู้กำกับสาว Charlotte Wells เคยฝากผลงานหนังสั้นอินดี้และคว้ารางวัลจากหลายสถาบันแล้ว อาทิ Tuesday (2015) , Laps (2017) และ Black Christmas (2017) ควบทั้งตำแหน่งเขียนบทและอำนวยการสร้างเองอีกด้วย สามารถนำเสนอสิ่งของธรรมดาใกล้ตัวให้กลายเป็นของที่มีคุณค่าที่คนทั่วไปจับต้องได้ ใช้วัตถุดิบง่าย ๆ ก็คือการหยิบเรื่องของตนเองมาเป็น Plot หลักก็พอที่เหลือก็ปล่อยให้ภาพสวย ๆ ทำงานของมันไป แถมยังได้ 2 นักแสดงนำของเรื่องอย่าง Paul Mescal จาก The Lost Daughter (2021) กับการ Debut ครั้งแรกของน้อง Frankie Corio มาถ่ายทอดร่วมในบทพ่อลูกกันได้ยอดเยี่ยมจนเชื่อว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกันจริงจนกระทั่งส่งผลให้ Paul ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานำชายยอดเยี่ยมปีนี้ครั้งแรกอีกด้วย
สรุป ไม่เพียงแค่ประทับใจกับสาระสำคัญของเรื่องที่ได้รับจนเอ่อล้นใจเท่านั้น พูดได้เต็มปากว่าติด 1 ใน list หนังที่ผมชอบที่สุดของปีนี้ไปอย่างรวดเร็วเรียบร้อย นอกจากการันตีจากค่ายเล็ก ๆ A24 ที่ไว้ใจได้แล้ว แก่นแท้ที่ได้รับเหมือนกับเราเจอหนังสือเล่มเก่าเล่มหนึ่งที่เก็บซ่อนอยู่ในห้องเก็บของแล้วหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าข้างในเต็มไปด้วยภาพถ่ายมากมาย แล้วเราก็หยิบขึ้นมาดูจากนั้นภาพเหล่านั้นก็ค่อย ๆ ปรากฎฉายขึ้นมาในหัวเราทีละเฟรม แล้วจู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ขอนั่งเงียบ ๆ จมดิ่งกับความคิดคนเดียวไม่อยากให้ใครเห็น พอดูจบนอกจากความคิดถึงในความถวิลหาอดีตที่สวยงามเริ่มทำงานขึ้นอีกครั้ง เริ่มเข้าใจสัจธรรมบนโลกมากขึ้นแล้ว เราจะรู้สึกคิดถึงคนหนึ่งที่พิเศษคนหนึ่งขึ้นมาทันที ซึ่งคนนั้นก็คือ พ่อ ของเราเองครับ
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
[CR] No.20 Aftersun : ตะวันอาจลับขอบฟ้า หากฤดูร้อนนี้ไม่มีเธอ
ความที่ Plot โฟกัสแค่เพียงตัวคู่พ่อกับลูกสาวเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันช่วงฤดูร้อนในประเทศตุรกีกัน 2 คน ทำให้การดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นยันจบรู้สึกว่าตลอดระยะทางให้ Feel กึ่ง Road Trip ผสมกับความเป็นสารคดีตามติดชีวิตคนเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่หนังก็สามารถขยายเส้นเรื่องต่อไปได้ถึง 1 ชั่วโมง 42 นาทีจนผมไม่รู้สึกว่าหนังจะเดินเรื่องยืดยาวชวนง่วงหลับแต่อย่างใด กลับรู้สึกว่าทุก Scene ที่ปรากฎสามารถสะกดสายตาให้เราจูนติดไปกับมันได้ง่ายแถมผ่านไปเร็วอย่างเหลือเชื่อ ไม่เพียงแค่การเล่าเรื่องที่เรียบง่ายจนทำให้ผมน้ำตาคลอเบ้าได้เท่านั้น แต่ทุก Scene ที่ถ่ายทอดออกไปมันจี้ถูกจุดหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะบทสนทนากันระหว่าง คัลเลม กับ โซฟี แม้ก็เหมือนกับคนทั่วไปเขาพูดกันแต่ทำไมฟังแล้วช่างคมบาดใจผมเหลือเกิน
เข้าใจอีกเช่นกันว่าทำไมฉากหลังถึงเลือกใช้ช่วงยุค 90s เพราะว่าเป็นช่วงยุคของความสุขสำหรับวัยเด็กที่คิดถึงแค่ความสนุกโดยไม่ได้เข้าใจได้ถึงช่วงที่ผู้ใหญ่กำลังเผชิญวิกฤติในชีวิตอย่างลึกซึ้งนัก ไหนจะช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากศตวรรษเก่าสู่สหัสวรรษใหม่อย่าง Y2K อีก ดังนั้นภาพที่ปรากฎ ไม่ว่าจะเป็น การทำกิจกรรมร่วมกัน , การรู้จักแก๊งค์หนุ่มสาววัยฮอร์โมน หรือ การพบกับเพื่อนชายร่างอ้วนวัยเดียวกัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้จะไหลผ่านสู่สายตาและมุมมองน้อย ๆ ของ โซฟี ให้ค่อย ๆ เรียนรู้ ปรับตัว ยอมรับไปกับมัน ขณะเดียวกันก็การส่งมอบความเจ็บปวดจากผู้เป็นพ่อไปสู่ลูกสาวในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งรับบทโดย Celia Rowlson-Hall จาก Vox Lux (2018) เข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่เราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งหนังจะเดินเป็นเส้นตรง มีตัดสลับช่วง Timeline ระหว่างอดีตกับปัจจุบันเป็นระยะ แต่ไม่สับสนเลย เพราะหนังใช้ความสวยงามจากสถานที่ต่าง ๆ เล่าเรื่องเอง แถมช่วยกลบส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปหมด
คุณงามความดีต้องขอมอบให้กับผู้กำกับสาว Charlotte Wells เคยฝากผลงานหนังสั้นอินดี้และคว้ารางวัลจากหลายสถาบันแล้ว อาทิ Tuesday (2015) , Laps (2017) และ Black Christmas (2017) ควบทั้งตำแหน่งเขียนบทและอำนวยการสร้างเองอีกด้วย สามารถนำเสนอสิ่งของธรรมดาใกล้ตัวให้กลายเป็นของที่มีคุณค่าที่คนทั่วไปจับต้องได้ ใช้วัตถุดิบง่าย ๆ ก็คือการหยิบเรื่องของตนเองมาเป็น Plot หลักก็พอที่เหลือก็ปล่อยให้ภาพสวย ๆ ทำงานของมันไป แถมยังได้ 2 นักแสดงนำของเรื่องอย่าง Paul Mescal จาก The Lost Daughter (2021) กับการ Debut ครั้งแรกของน้อง Frankie Corio มาถ่ายทอดร่วมในบทพ่อลูกกันได้ยอดเยี่ยมจนเชื่อว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกันจริงจนกระทั่งส่งผลให้ Paul ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานำชายยอดเยี่ยมปีนี้ครั้งแรกอีกด้วย
สรุป ไม่เพียงแค่ประทับใจกับสาระสำคัญของเรื่องที่ได้รับจนเอ่อล้นใจเท่านั้น พูดได้เต็มปากว่าติด 1 ใน list หนังที่ผมชอบที่สุดของปีนี้ไปอย่างรวดเร็วเรียบร้อย นอกจากการันตีจากค่ายเล็ก ๆ A24 ที่ไว้ใจได้แล้ว แก่นแท้ที่ได้รับเหมือนกับเราเจอหนังสือเล่มเก่าเล่มหนึ่งที่เก็บซ่อนอยู่ในห้องเก็บของแล้วหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าข้างในเต็มไปด้วยภาพถ่ายมากมาย แล้วเราก็หยิบขึ้นมาดูจากนั้นภาพเหล่านั้นก็ค่อย ๆ ปรากฎฉายขึ้นมาในหัวเราทีละเฟรม แล้วจู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ขอนั่งเงียบ ๆ จมดิ่งกับความคิดคนเดียวไม่อยากให้ใครเห็น พอดูจบนอกจากความคิดถึงในความถวิลหาอดีตที่สวยงามเริ่มทำงานขึ้นอีกครั้ง เริ่มเข้าใจสัจธรรมบนโลกมากขึ้นแล้ว เราจะรู้สึกคิดถึงคนหนึ่งที่พิเศษคนหนึ่งขึ้นมาทันที ซึ่งคนนั้นก็คือ พ่อ ของเราเองครับ
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้