ผมกำลังพูดถึง digital platforms สำหรับการบริโภค/เข้าถึงสื่อต่างๆอย่างเกม เพลง โปรแกรม หนัง ซีรี่ย์ ไม่ว่าจะ Steam, Origin, EpicGame, Netflix, Disney+ กับบริการอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน
เพราทางฝั่งนายทุนก็ได้ลดต้นทุนในส่วนค่าขนส่ง ค่าบรรจุภัณฑ์ รวมถึงค่าจ้างแรงงานที่เกี่ยวข้องในจุดนั้น แถมช่วยเพิ่มมูลค่าให้สื่อที่เป็น physical copies ให้เป็นของแบบ limited edition หรือพวกเน้นเฉพาะเพื่อแฟนพันธุ์แท้ที่อยากสะสม
ผู้บริโภคก็เข้าถึงสื่อพวกนี้แบบถูกลิขสิทธิ์ได้สะดวกขึ้น แถมเข้าถึงได้แทบจะเท่าเทียมทุกมุมโลก และประหยัดขึ้นเพราะสื่อพวกนั้นไม่ต้องมีต้นทุนค่าขนส่งค่าหัวคิวรายทางแบบสื่อphysical copies+ไม่ต้องเสียค่าเดินทางออกไปนอกที่อยู่อาศัยเพื่อเข้าถึงสื่อเหล่านั้น+โปรโมชั่นส่งเสริมการขายก็มีบ่อยในการซื้อขายผ่าน platforms พวกนี้ (แบบ Steam sales ที่ชวนหลังหักกันประจำ)
ช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพราะเมื่อมันเป็น digital copies ก็ไม่มีการสิ้นเปลืองวัตถุดิบและพลังงานแบบการผลิตสื่อแบบ physical copies ไม่มีการขนส่งจึงลดการใช้เชื้อเพลิง ลดปริมาณขยะที่จะตามมาด้วยอีกเยอะ (เช่นห่อพลาสติกใสของกล่องหนังกล่องเกม รวมถึง การใช้ถุงพลาสติกถุงกระดาษที่มักจะได้มาตอนไปซื้อสื่อแบบ physical copies) และการที่ผู้บริโภคไม่ต้องออกนอกที่อยู่อาศัยเพื่อจะซ์้อของพวกนี้ก็หมายถึงลดการใช้เชื้อเพลิงจากการเดินทาง(แม้กระทั่งกับขนส่งสาธารณะก็ยังต้องใช้เชื้อเพลิง) แถมส่งผลต่อเนื่องจากจุดนั้นตรงที่ ลดการแออัดบนท้องถนน(ทั้งจากรถส่งสินค้าและจากการเดินทางส่วนตัวเพื่อการเข้าถึงสื่อพวกนั้น) และ ลดการแพร่ระบาดเชื้อโรคหรือไวรัสในที่สาธารณะด้วย
ช่วยเหลือสังคมในด้านการลดการเอาเปรียบทางแรงงานในกระบวนการขนส่งและการผลิต (กดค่าแรง ย้ายไปตั้งฐานการผลิตในประเทศที่มาตรฐานและการคุ้มครองแรงงานต่ำเพื่อทำต้นทุนให้ถูก อะไรพวกนี้) และ เมื่อผู้บริโภคเข้าถึงสื่อแบบ digital copies ที่ถูกลิขสิทธิ์ได้สะดวกขึ้นในราคาที่ถูกลง พวกธุรกิจมืดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะค่อยๆลดบทบาทลง (ธุรกิจพวกนี้เองมันก็ท่อน้ำเลี้ยงอีกอันของพวกผู้มีอิทธิพล พวกแก๊งค์ แล้วก็ข้าราชการรับสินบน)
ใครว่า ทุนนิยม+ตลาดเสรี ทำลายโลก อันนี้คือตัวอย่างชัดเจนว่า มันช่วยได้ขนาดไหน
และ ผู้พัฒนาเกมที่เป็นทีมอิสระก็สามารถมีช่องทางการจัดจำหน่ายเกมแก่ชาวโลกได้สะดวกขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง
หรือ ร้านขายสื่อแบบดิจิทัล คือผลผลิตของโลกทุนนิมและตลาดเสรีที่สร้างความ win-win ให้ทุกฝ่าย แถมช่วยโลกได้??
เพราทางฝั่งนายทุนก็ได้ลดต้นทุนในส่วนค่าขนส่ง ค่าบรรจุภัณฑ์ รวมถึงค่าจ้างแรงงานที่เกี่ยวข้องในจุดนั้น แถมช่วยเพิ่มมูลค่าให้สื่อที่เป็น physical copies ให้เป็นของแบบ limited edition หรือพวกเน้นเฉพาะเพื่อแฟนพันธุ์แท้ที่อยากสะสม
ผู้บริโภคก็เข้าถึงสื่อพวกนี้แบบถูกลิขสิทธิ์ได้สะดวกขึ้น แถมเข้าถึงได้แทบจะเท่าเทียมทุกมุมโลก และประหยัดขึ้นเพราะสื่อพวกนั้นไม่ต้องมีต้นทุนค่าขนส่งค่าหัวคิวรายทางแบบสื่อphysical copies+ไม่ต้องเสียค่าเดินทางออกไปนอกที่อยู่อาศัยเพื่อเข้าถึงสื่อเหล่านั้น+โปรโมชั่นส่งเสริมการขายก็มีบ่อยในการซื้อขายผ่าน platforms พวกนี้ (แบบ Steam sales ที่ชวนหลังหักกันประจำ)
ช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพราะเมื่อมันเป็น digital copies ก็ไม่มีการสิ้นเปลืองวัตถุดิบและพลังงานแบบการผลิตสื่อแบบ physical copies ไม่มีการขนส่งจึงลดการใช้เชื้อเพลิง ลดปริมาณขยะที่จะตามมาด้วยอีกเยอะ (เช่นห่อพลาสติกใสของกล่องหนังกล่องเกม รวมถึง การใช้ถุงพลาสติกถุงกระดาษที่มักจะได้มาตอนไปซื้อสื่อแบบ physical copies) และการที่ผู้บริโภคไม่ต้องออกนอกที่อยู่อาศัยเพื่อจะซ์้อของพวกนี้ก็หมายถึงลดการใช้เชื้อเพลิงจากการเดินทาง(แม้กระทั่งกับขนส่งสาธารณะก็ยังต้องใช้เชื้อเพลิง) แถมส่งผลต่อเนื่องจากจุดนั้นตรงที่ ลดการแออัดบนท้องถนน(ทั้งจากรถส่งสินค้าและจากการเดินทางส่วนตัวเพื่อการเข้าถึงสื่อพวกนั้น) และ ลดการแพร่ระบาดเชื้อโรคหรือไวรัสในที่สาธารณะด้วย
ช่วยเหลือสังคมในด้านการลดการเอาเปรียบทางแรงงานในกระบวนการขนส่งและการผลิต (กดค่าแรง ย้ายไปตั้งฐานการผลิตในประเทศที่มาตรฐานและการคุ้มครองแรงงานต่ำเพื่อทำต้นทุนให้ถูก อะไรพวกนี้) และ เมื่อผู้บริโภคเข้าถึงสื่อแบบ digital copies ที่ถูกลิขสิทธิ์ได้สะดวกขึ้นในราคาที่ถูกลง พวกธุรกิจมืดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะค่อยๆลดบทบาทลง (ธุรกิจพวกนี้เองมันก็ท่อน้ำเลี้ยงอีกอันของพวกผู้มีอิทธิพล พวกแก๊งค์ แล้วก็ข้าราชการรับสินบน)
ใครว่า ทุนนิยม+ตลาดเสรี ทำลายโลก อันนี้คือตัวอย่างชัดเจนว่า มันช่วยได้ขนาดไหน
และ ผู้พัฒนาเกมที่เป็นทีมอิสระก็สามารถมีช่องทางการจัดจำหน่ายเกมแก่ชาวโลกได้สะดวกขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง