เหตุเกิดคือ ช่วงม.2 เราไม่รับสายพ่อเเม่เลยค่ะ เพราะตั้งเเต่ที่คุยกันมา เขาจะชอบเสียงเเข็งใส่เเล้วเราร้องไห้ง่าย คือพอคุยกันไป เรื่องไหนที่เขาไม่ถูกใจก็จะถูกถามย้ำๆซ้ำๆ จนเราร้องไห้ เเต่พ่อเเม่ไม่รู้นะคะ เราฝืนควบคุมเสียงให้ปกติจนวางสาย นั่นละ โล่งเลย
ม.1-ม.3 เรายังเรียน มีเพื่อน คุยกับคนอื่นได้ พอจบม.3เราก็ออกมาสอบเทียบ ตอนนั้นอายุ14นะคะ ตอนนี้ก็ประมาณปีกว่าเเล้ว เราจะ16 เเล้วค่ะ เเต่ช่วงปีกว่านี้ เราไม่ค่อยออกไปไหน ไม่มีเพื่อน เพราะเปลี่ยนไลน์ใหม่ เเล้วก็ออกไปซื้อของบ้าง ไปตัวเมืองบ้างทำธุระ เเต่ก็ไม่ได้คุยกับใคร พบปะใคร หรือทำความรู้จักคนใหม่ๆ เพราะเราอ่านหนังสือสอบ เเล้วก็ไม่รู้ว่าจะรู้จักใครทำไม เพราะเดี๋ยวเราก็ต้องย้ายไปเรียนที่อื่นเเล้ว
พอช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ญาติที่กรุงเทพมาหา (สนิทกับพ่อ) เขาถามว่า ทำไมไม่เข้าสังคมเลย ไม่พบปะใครเลย ลองไปเรียนนุ่นนี้ไหม พี่คนนี้เขาเก่งอังกฤษนะ หนูจะสอบได้ไหมเนี่ย (สอบเทียบgedค่ะ ข้อสอบเป็นอังกฤษหมด เเต่บางคำเรายังไม่ได้ พอเขาถามเราบอกไม่รู้) สุดท้ายเขาก็เเนะนำให้เรียนกศน.ไหม เเล้วก็บอกขึ้นอยู่กับหนูตัดสินใจ เเต่เขาก็บอกเก็บไว้พิจารณา เเต่เรารู้สึกกดดันมากเลยค่ะ คือเขาเป็นห่วงก็จริง เเต่เรารู้สึกอัดอัดจัง คือเราก็บอกเขาว่าเป็นเเบบนี้ก็ดีอยู่เเล้ว สุดท้าย ไปเข้ามหาลัยเราก็ต้องเจอสังคมอยู่ดีใช่มั้ยละ จริงๆมันก็ต้องเข้าสังคมอยู่เเล้ว เเต่เขามาพูดเปรียบเทียบว่าคนนี้ก็เรียน เขาก็เก่งอังกฤษนะงี้
คือการที่เราไม่ค่อยเจอใคร อยู่เเต่บ้าน ไม่ค่อยออกไปไหน มันเดือดร้อนคนอื่นหรอคะ ถ้าจะเเย่ก็คงเเย่ที่ตัวเราเองนี่เเหละ เรามองว่าสุดท้ายเราก็ต้องย้ายไปเรียนกรุงเทพอยู่ดี สุดท้ายก็ต้องเข้าสังคมอยู่ดี เเต่อยู่ที่นี่จะให้เราเดินไปหา เดินไปคุย ทั้งที่ไม่สนิทก็ใช่เรื่อง ไม่รู้สิคะ
เราเเค่อยากใช้ชีวิตธรรมดา เนี่ยอ่านหนังสืออยู่ สอบปีนี้ ก็ไปสอบ พอผ่านก็เรียน เรียนจบ ทำงาน เก็บเงิน เเค่นี้ ก็มีความสุขเเล้ว
ไม่เเน่ใจว่าเเปลกรึปล่าว หรือป่วย หรือมีใครเป็นเเบบเราไหม เเต่ก็เหนื่อยค่ะ เป็นเราเนี่ยเหนื่อยมากค่ะ โดนด่า โดนว่า พ่อเเท้ๆยังบอก อยู่ในโลกเเคบไปเถอะ เฮ้อ ชอบอยู่บ้านผิดหรอ
อาการเเบบนี้ เรียกว่าไม่ชอบเข้าสังคมรึปล่าวคะ
ม.1-ม.3 เรายังเรียน มีเพื่อน คุยกับคนอื่นได้ พอจบม.3เราก็ออกมาสอบเทียบ ตอนนั้นอายุ14นะคะ ตอนนี้ก็ประมาณปีกว่าเเล้ว เราจะ16 เเล้วค่ะ เเต่ช่วงปีกว่านี้ เราไม่ค่อยออกไปไหน ไม่มีเพื่อน เพราะเปลี่ยนไลน์ใหม่ เเล้วก็ออกไปซื้อของบ้าง ไปตัวเมืองบ้างทำธุระ เเต่ก็ไม่ได้คุยกับใคร พบปะใคร หรือทำความรู้จักคนใหม่ๆ เพราะเราอ่านหนังสือสอบ เเล้วก็ไม่รู้ว่าจะรู้จักใครทำไม เพราะเดี๋ยวเราก็ต้องย้ายไปเรียนที่อื่นเเล้ว
พอช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ญาติที่กรุงเทพมาหา (สนิทกับพ่อ) เขาถามว่า ทำไมไม่เข้าสังคมเลย ไม่พบปะใครเลย ลองไปเรียนนุ่นนี้ไหม พี่คนนี้เขาเก่งอังกฤษนะ หนูจะสอบได้ไหมเนี่ย (สอบเทียบgedค่ะ ข้อสอบเป็นอังกฤษหมด เเต่บางคำเรายังไม่ได้ พอเขาถามเราบอกไม่รู้) สุดท้ายเขาก็เเนะนำให้เรียนกศน.ไหม เเล้วก็บอกขึ้นอยู่กับหนูตัดสินใจ เเต่เขาก็บอกเก็บไว้พิจารณา เเต่เรารู้สึกกดดันมากเลยค่ะ คือเขาเป็นห่วงก็จริง เเต่เรารู้สึกอัดอัดจัง คือเราก็บอกเขาว่าเป็นเเบบนี้ก็ดีอยู่เเล้ว สุดท้าย ไปเข้ามหาลัยเราก็ต้องเจอสังคมอยู่ดีใช่มั้ยละ จริงๆมันก็ต้องเข้าสังคมอยู่เเล้ว เเต่เขามาพูดเปรียบเทียบว่าคนนี้ก็เรียน เขาก็เก่งอังกฤษนะงี้
คือการที่เราไม่ค่อยเจอใคร อยู่เเต่บ้าน ไม่ค่อยออกไปไหน มันเดือดร้อนคนอื่นหรอคะ ถ้าจะเเย่ก็คงเเย่ที่ตัวเราเองนี่เเหละ เรามองว่าสุดท้ายเราก็ต้องย้ายไปเรียนกรุงเทพอยู่ดี สุดท้ายก็ต้องเข้าสังคมอยู่ดี เเต่อยู่ที่นี่จะให้เราเดินไปหา เดินไปคุย ทั้งที่ไม่สนิทก็ใช่เรื่อง ไม่รู้สิคะ
เราเเค่อยากใช้ชีวิตธรรมดา เนี่ยอ่านหนังสืออยู่ สอบปีนี้ ก็ไปสอบ พอผ่านก็เรียน เรียนจบ ทำงาน เก็บเงิน เเค่นี้ ก็มีความสุขเเล้ว
ไม่เเน่ใจว่าเเปลกรึปล่าว หรือป่วย หรือมีใครเป็นเเบบเราไหม เเต่ก็เหนื่อยค่ะ เป็นเราเนี่ยเหนื่อยมากค่ะ โดนด่า โดนว่า พ่อเเท้ๆยังบอก อยู่ในโลกเเคบไปเถอะ เฮ้อ ชอบอยู่บ้านผิดหรอ