1. แก้วมังกร เป็นกระบองเพชร
แก้วมังกร เป็นทั้ง เบอร์รี่ กระบองเพชร ไม้เลื้อย และ ไม้ล้มลุก
สูงได้มากถึง 4.5-6 เมตร และมีอายุได้มากถึง 20 ปี
ในทางอนุกรมวิธาน ได้จัดให้แก้วมังกรเป็น กระบองเพชรเลื้อย (Climbing cactus) ซึ่งเป็นกลุ่มของกระบองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2. ดอกแก้วมังกร สวยมากจนได้ฉายา ราชินี
แก้วมังกรยังมีสมญานามด้วยว่า Queen of the night (ราชินีราตรี) และ Moonflower (ดอกไม้พระจันทร์)
3. แก้วมังกร ออกดอกในตอนกลางคืน
ดอกแก้วมังกร บานตั้งแต่ช่วงพลบค่ำถึงเที่ยงคืน แต่ก็อาจจะมีการบานไปจนรุ่งเช้าได้
เราอาจจะพบเห็นผึ้งผสมเกสรให้แก้วมังกรบ้างในช่วงเช้า แต่ผู้ผสมเกสรหลักจริงๆแล้วคือ ค้างคาว กับ ผีเสื้อกลางคืน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอดีหารูปค้างคาวกับดอกแก้วมังกรไม่เจอจริงๆ ขออนุญาตใช้รูปดอกพืชตระกูลกระบองเพชรอื่นๆครับ
4. ดอกแก้วมังกร ค่อนข้างจะพบเห็นได้ยาก
โดยปกติแล้ว ดอกแก้วมังกรจะบานแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น ในคืนที่อะไรต่างๆเหมาะสมที่สุด
5. แก้วมังกร ออกผลในช่วงฤดูร้อน
ฤดูที่เหมาะสมสำหรับการออกผลแก้วมังกร คือ ฤดูร้อน
ใช้เวลาอย่างน้อย 13 วันในการเตรียมดอกที่พร้อมผสมพันธ์ และเมื่อได้รับการผสม ก็จะใช้เวลา 30-50 วันในการได้ผลที่พร้อมทาน
6. แก้วมังกร ทนภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำได้เก่งมากๆ
เนื้อแก้วมังกรยังมีน้ำมากถึง 90% เลยทีเดียว
7. แก้วมังกรมาจากละตินอเมริกา
ถิ่นกำเนิดของแก้วมังกร อยู่ที่ทางตอนใต้ของเม็กซิโก อเมริกากลาง และ อเมริกาใต้
8. แก้วมังกร มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษถึง 3 ชื่อ
ชื่อทางการในภาษาอังกฤษของแก้วมังกร คือ Dragon fruit, Pitaya และ Strawberry pear
โดย Pitaya ร่วมกับ Pitahaya และ Pitaya roja คือชื่อพื้นเมืองจากแหล่งกำเนิด
9. คำว่า “แก้วมังกร” พึ่งจะเกิดขึ้นที่บริเวณประเทศไทยนี้เอง
ผู้เผยแพร่ศาสนา (Missionary) ชาวฝรั่งเศส คือกลุ่มคนแรกที่นำแก้วมังกรจาก ทวีปอเมริกากลาง มาเป็นที่รู้จักในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ซึ่งผู้คนเรียกมันว่า Dragon fruit ซึ่งเชื่อว่ามาจากตำนานว่าด้วย การที่มันเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของมังกร
และกลายเป็นคำว่า Dragon fruit ถูกนำไปใช้ทั่วโลก
10. เมล็ดแก้วมังกร สามารถกินได้อย่างปลอดภัย
เมล็ดแก้วมังกร ไม่มีพิษภัยใดๆเลยต่อร่างกาย
11. แก้วมังกร ถูกเอาไปทำอาหารได้หลายประเภทมาก
แก้วมังกร สามารถเอาไปคั้นน้ำ ทำเยลลี่ ทำไอติม หรือแม้กระทั่ง ทำแยม ได้
12. ทวีปเอเชียเป็นตลาดแก้วมังกรที่ใหญ่ที่สุดในระดับสากล
ปัจจุบันมีการนำเข้ามาปลูกในทวีปเอเชีย โดยมี เวียดนาม เป็นประเทศอันดับ 1 ในการปลูกแก้วมังกรเพื่อส่งออก
ประเทศอื่นในเอเชียที่ผลิตแก้วมังกรได้มากคือ จีน และ อิสราเอล
13. แก้วมังกร แบ่งชนิดได้จากสี
ในท้องตลาด เราสามารถพบแก้วมังกรได้ทั้งหมด 3 ชนิด คือ เปลือกแดงเนื้อขาว เปลือกแดงเนื้อแดงม่วง และ เปลือกเหลืองเนื้อขาว
14. แก้วมังกรมีสีที่เอาไปใช้ตกแต่งได้
สีของแก้วมังกรนั้น เกิดจากรงควัตถุที่เข้มและหนักมากพอ ที่จะเอาไป ทำเป็นสีย้อม รวมถึง ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์
15. แก้วมังกร ควรถูกวางแบบหันหัวลง
แก้วมังกร คงความสดได้นาน อาจจะถึง 12 วันเลยแม้ไม่ได้อยู่ในตู้เย็น
ทั้งนี้ แก้วมังกรเซนซีทีฟต่อความดันค่อนข้างมาก เราควรจะเก็บมันแบบเดียวกับที่มันอยู่ในธรรมชาติ นั่นคือ วางแนวตั้ง และเอาหัวหันลง
16. แก้วมังกร ถูกจัดให้เป็น Superfood
Superfood คือ อาหารที่มีแร่ธาตุสูงระดับดีเลิศต่อสุขภาพ และ แก้วมังกรเป็นหนึ่งในนั้น
แก้วมังกร อุดมแน่นจัดไปด้วย วิตามิน C กับ B ที่ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยเรื่องสุขภาพผิว และ มีพลังงาน สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และ สารต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะในเนื้อแดงม่วง) ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์
แถมยังมี โปรตีน ไฟเบอร์ และ ธาตุเหล็ก ซึ่งดีต่อการตั้งครรภ์ ในปริมาณที่สูงมาก
มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส
โพแทสเซียม ช่วยคุมความดันเลือด
ไลโคปีน (ในเนื้อแดงม่วง) ช่วยสู้มะเร็ง
เมล็ดของมัน เต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6
มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ
ไม่มีคลอเรสเตอรอล
ช่วยคุมน้ำตาลในเลือด ลดสิว
17. กินแก้วมังกรมากเกินไป อาจจะทำให้ฉี่เป็นสีแดง
ฉี่สีแดงจากการกินแก้วมังกรมากเกินไป ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย และเราเรียกว่า ภาวะฉี่เป็นเลือดปลอม (Pseudohematuria)
CREDIT
https://mindfulnessmemories.com/fun-facts-about-dragon-fruit/
https://tonsoffacts.com/24-interesting-and-fascinating-facts-about-dragon-fruit/
https://blog.aghires.com/15-dragon-fruit-facts
https://gardenerspath.com/plants/succulents/grow-dragon-fruit/
https://www.dole.com/en-gb/blog/nutrition/5-fakten-ueber-die-drachenfrucht
https://krishijagran.com/health-lifestyle/10-fascinating-facts-about-dragon-fruit/
พืชมหัศจรรย์ EP. 3 - 17 เรื่องที่น่าสนใจของ แก้วมังกร (Dragon Fruit)
1. แก้วมังกร เป็นกระบองเพชร
แก้วมังกร เป็นทั้ง เบอร์รี่ กระบองเพชร ไม้เลื้อย และ ไม้ล้มลุก
สูงได้มากถึง 4.5-6 เมตร และมีอายุได้มากถึง 20 ปี
ในทางอนุกรมวิธาน ได้จัดให้แก้วมังกรเป็น กระบองเพชรเลื้อย (Climbing cactus) ซึ่งเป็นกลุ่มของกระบองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2. ดอกแก้วมังกร สวยมากจนได้ฉายา ราชินี
แก้วมังกรยังมีสมญานามด้วยว่า Queen of the night (ราชินีราตรี) และ Moonflower (ดอกไม้พระจันทร์)
3. แก้วมังกร ออกดอกในตอนกลางคืน
ดอกแก้วมังกร บานตั้งแต่ช่วงพลบค่ำถึงเที่ยงคืน แต่ก็อาจจะมีการบานไปจนรุ่งเช้าได้
เราอาจจะพบเห็นผึ้งผสมเกสรให้แก้วมังกรบ้างในช่วงเช้า แต่ผู้ผสมเกสรหลักจริงๆแล้วคือ ค้างคาว กับ ผีเสื้อกลางคืน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ดอกแก้วมังกร ค่อนข้างจะพบเห็นได้ยาก
โดยปกติแล้ว ดอกแก้วมังกรจะบานแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น ในคืนที่อะไรต่างๆเหมาะสมที่สุด
5. แก้วมังกร ออกผลในช่วงฤดูร้อน
ฤดูที่เหมาะสมสำหรับการออกผลแก้วมังกร คือ ฤดูร้อน
ใช้เวลาอย่างน้อย 13 วันในการเตรียมดอกที่พร้อมผสมพันธ์ และเมื่อได้รับการผสม ก็จะใช้เวลา 30-50 วันในการได้ผลที่พร้อมทาน
6. แก้วมังกร ทนภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำได้เก่งมากๆ
เนื้อแก้วมังกรยังมีน้ำมากถึง 90% เลยทีเดียว
7. แก้วมังกรมาจากละตินอเมริกา
ถิ่นกำเนิดของแก้วมังกร อยู่ที่ทางตอนใต้ของเม็กซิโก อเมริกากลาง และ อเมริกาใต้
8. แก้วมังกร มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษถึง 3 ชื่อ
ชื่อทางการในภาษาอังกฤษของแก้วมังกร คือ Dragon fruit, Pitaya และ Strawberry pear
โดย Pitaya ร่วมกับ Pitahaya และ Pitaya roja คือชื่อพื้นเมืองจากแหล่งกำเนิด
9. คำว่า “แก้วมังกร” พึ่งจะเกิดขึ้นที่บริเวณประเทศไทยนี้เอง
ผู้เผยแพร่ศาสนา (Missionary) ชาวฝรั่งเศส คือกลุ่มคนแรกที่นำแก้วมังกรจาก ทวีปอเมริกากลาง มาเป็นที่รู้จักในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ซึ่งผู้คนเรียกมันว่า Dragon fruit ซึ่งเชื่อว่ามาจากตำนานว่าด้วย การที่มันเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของมังกร
และกลายเป็นคำว่า Dragon fruit ถูกนำไปใช้ทั่วโลก
10. เมล็ดแก้วมังกร สามารถกินได้อย่างปลอดภัย
เมล็ดแก้วมังกร ไม่มีพิษภัยใดๆเลยต่อร่างกาย
11. แก้วมังกร ถูกเอาไปทำอาหารได้หลายประเภทมาก
แก้วมังกร สามารถเอาไปคั้นน้ำ ทำเยลลี่ ทำไอติม หรือแม้กระทั่ง ทำแยม ได้
12. ทวีปเอเชียเป็นตลาดแก้วมังกรที่ใหญ่ที่สุดในระดับสากล
ปัจจุบันมีการนำเข้ามาปลูกในทวีปเอเชีย โดยมี เวียดนาม เป็นประเทศอันดับ 1 ในการปลูกแก้วมังกรเพื่อส่งออก
ประเทศอื่นในเอเชียที่ผลิตแก้วมังกรได้มากคือ จีน และ อิสราเอล
13. แก้วมังกร แบ่งชนิดได้จากสี
ในท้องตลาด เราสามารถพบแก้วมังกรได้ทั้งหมด 3 ชนิด คือ เปลือกแดงเนื้อขาว เปลือกแดงเนื้อแดงม่วง และ เปลือกเหลืองเนื้อขาว
14. แก้วมังกรมีสีที่เอาไปใช้ตกแต่งได้
สีของแก้วมังกรนั้น เกิดจากรงควัตถุที่เข้มและหนักมากพอ ที่จะเอาไป ทำเป็นสีย้อม รวมถึง ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์
15. แก้วมังกร ควรถูกวางแบบหันหัวลง
แก้วมังกร คงความสดได้นาน อาจจะถึง 12 วันเลยแม้ไม่ได้อยู่ในตู้เย็น
ทั้งนี้ แก้วมังกรเซนซีทีฟต่อความดันค่อนข้างมาก เราควรจะเก็บมันแบบเดียวกับที่มันอยู่ในธรรมชาติ นั่นคือ วางแนวตั้ง และเอาหัวหันลง
16. แก้วมังกร ถูกจัดให้เป็น Superfood
Superfood คือ อาหารที่มีแร่ธาตุสูงระดับดีเลิศต่อสุขภาพ และ แก้วมังกรเป็นหนึ่งในนั้น
แก้วมังกร อุดมแน่นจัดไปด้วย วิตามิน C กับ B ที่ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยเรื่องสุขภาพผิว และ มีพลังงาน สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และ สารต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะในเนื้อแดงม่วง) ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์
แถมยังมี โปรตีน ไฟเบอร์ และ ธาตุเหล็ก ซึ่งดีต่อการตั้งครรภ์ ในปริมาณที่สูงมาก
มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส
โพแทสเซียม ช่วยคุมความดันเลือด
ไลโคปีน (ในเนื้อแดงม่วง) ช่วยสู้มะเร็ง
เมล็ดของมัน เต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6
มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ
ไม่มีคลอเรสเตอรอล
ช่วยคุมน้ำตาลในเลือด ลดสิว
17. กินแก้วมังกรมากเกินไป อาจจะทำให้ฉี่เป็นสีแดง
ฉี่สีแดงจากการกินแก้วมังกรมากเกินไป ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย และเราเรียกว่า ภาวะฉี่เป็นเลือดปลอม (Pseudohematuria)
CREDIT
https://mindfulnessmemories.com/fun-facts-about-dragon-fruit/
https://tonsoffacts.com/24-interesting-and-fascinating-facts-about-dragon-fruit/
https://blog.aghires.com/15-dragon-fruit-facts
https://gardenerspath.com/plants/succulents/grow-dragon-fruit/
https://www.dole.com/en-gb/blog/nutrition/5-fakten-ueber-die-drachenfrucht
https://krishijagran.com/health-lifestyle/10-fascinating-facts-about-dragon-fruit/