อยากถามความเห็นของสมาชิกเกี่ยวกับ กฏ-กติกา-มารยาทและมาตรฐานที่เป็นสากลของการจัดตั้งรัฐบาล ในกรณีทราบผลการลงคะแนนเลือกตั้งสำหรับปี 66 นี้ ตามข้อเลือกดังนี้ครับ
1. พรรคที่ได้รับเสียง ส.ส.(เขต+party list)อันดับ 1ควรเป็นผู้เริ่มรวบรวมเสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล,เลือกสรร นายกฯ หากทำไม่สำเร็จ พรรคที่ได้อันดับ 2 ก็รับหน้าที่ต่อไปและอันดับ 3 ต่อๆไป....
2. ไม่ต้องคำนึงถึงหลักการตามข้อ 1. ไม่ต้องมีกฏเกณฑ์ ไม่มีเรื่องของมารยาท และธรรมเนียมประเพณีปฏิบัตใดๆ เรียกได้เลยว่า แย่งกัน ใครดีใครได้ ใครรวบรวมเสียง(ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอย่างใดๆ.....ซื้อ,ต่อรองผลประโยชน์ และฯลฯ)ได้มากกว่าและมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้(เลือกนายกโดยอาศัยหรือไม่อาศับเสียง สว.ก็แล้วแต่) ก็ชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้
จากคำให้สัมภาษณ์ของ หน.พรรคสีฟ้า ดูเหมือนจะยืนยันตามข้อ 2 อย่างแข็งขันว่านี่คือหลักการของประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา โดยกล่าวอ้างว่าหากรวมรวมเสียงได้มากพอดังกล่าวแล้ว หมายถึงประชาชนได้ให้ฉันทานุมัติแล้วว่า....จะไปทำอย่างไรกับเสียงที่ได้รับก็ได้ จขกท. จึงเกิดความสับสนว่า....ข้อไหนกันแน่ ?
รบกวนสอบถามความเห็นท่านสมาชิก หวังว่าจะได้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ,สร้างสรรค์ และเป็นไปด้วยความสุภาพนะครับ
กฏ-กติกา-มารยาท ในการจัดตั้งรัฐบาล
1. พรรคที่ได้รับเสียง ส.ส.(เขต+party list)อันดับ 1ควรเป็นผู้เริ่มรวบรวมเสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล,เลือกสรร นายกฯ หากทำไม่สำเร็จ พรรคที่ได้อันดับ 2 ก็รับหน้าที่ต่อไปและอันดับ 3 ต่อๆไป....
2. ไม่ต้องคำนึงถึงหลักการตามข้อ 1. ไม่ต้องมีกฏเกณฑ์ ไม่มีเรื่องของมารยาท และธรรมเนียมประเพณีปฏิบัตใดๆ เรียกได้เลยว่า แย่งกัน ใครดีใครได้ ใครรวบรวมเสียง(ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอย่างใดๆ.....ซื้อ,ต่อรองผลประโยชน์ และฯลฯ)ได้มากกว่าและมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้(เลือกนายกโดยอาศัยหรือไม่อาศับเสียง สว.ก็แล้วแต่) ก็ชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้
จากคำให้สัมภาษณ์ของ หน.พรรคสีฟ้า ดูเหมือนจะยืนยันตามข้อ 2 อย่างแข็งขันว่านี่คือหลักการของประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา โดยกล่าวอ้างว่าหากรวมรวมเสียงได้มากพอดังกล่าวแล้ว หมายถึงประชาชนได้ให้ฉันทานุมัติแล้วว่า....จะไปทำอย่างไรกับเสียงที่ได้รับก็ได้ จขกท. จึงเกิดความสับสนว่า....ข้อไหนกันแน่ ?
รบกวนสอบถามความเห็นท่านสมาชิก หวังว่าจะได้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ,สร้างสรรค์ และเป็นไปด้วยความสุภาพนะครับ