เริ่มต้นแนะนำตัวเองก่อนนะ
1.เราเป็นลูกสาวคนเล็ก มีพี่ชาย 1 คน ตอนนี้เราอายุ 32 ปี พี่ชายเรา 35ปี
2.พ่อเราอายุ 65 แม่ 55 ไม่มีอาชีพ ( ช่วยงานเราในบริษัท )
3.เราเริ่มทำธุรกิจ ปี 58 จนปัจจุบัน 6 ปี
4.พี่ชายเราไม่มีงานทำ ปัจจุบัน แบ่งส่วนลูกค้าส่วนหนึ่ง ไปจากเรา
5.เราทำธุรกิจ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หนึ่ง ขายเฉพาะกลุ่ม
6.เดิมที เรามีรายได้เดือนละ 5-7 แสนบาท
7.ปัจจุบัน 50,000-80,000
เริ่มเรื่องนะคะ... เมื่อก่อนพอเราทำงาน เมื่อก่อนพอเราทำงานบริษัทโชว์รูมรถค่ายหนึ่งทำแผนกเกี่ยวกับการแต่งรถเงินเดือนประมาณ 10,000 ถึง 12,000 บาทแต่ก็ไม่เคยเหลือมาจุนเจือครอบครัวหรอกแถมยังติดนี่ค่าหวยด้วย ก็จะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เราจำความได้ ส่วนแม่เราก็เย็บผ้าได้ไม่ค่อยเยอะหรอกถ้าใครเคยเย็บผ้าก็จะรู้ดี เราเรียนมหาลัยตอนนั้นเราช่วยอาขายรถเราได้ค่าคอมอยู่ 10,000 บาทรอนำเราเรียนมหาลัยตอนนั้นเราช่วยอาขายรถเราได้ค่าคอมอยู่ 10,000 บาทเราเลยนำเงิน 10,000 ไปซื้อของที่สำเพ็งเพื่อมาขายของที่ตลาดนัดเป็นพวกกิ๊ฟช็อปและเอามาขายที่มหาลัยหลังเลิกเรียน เราเลี้ยงหลานผู้หญิงหนึ่งคนหลานชายหนึ่งคนตั้งแต่เกิดแบเบาะจนถึงประมาณปอสี่น้าเราก็มารับหลานไปเลี้ยง ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนมหาลัยเราก็ไปทำงานพาททาม ร้านสเต็ก เสริฟ เลิกงานมาก็รีบเอาเงินมาให้แม่ ตอนนั้นเราลำบาก จนเรียนจบมหาลัยเรามีแฟนคนนึงรับราชการอายุเยอะแล้ว ตอนนั้นเราก็เริ่มทำงาน ที่เราทำนี่แหละ พี่ชายเราติดหนี้พนันบอล 8-90,0000 เราก็ใช้หนี้ให้ เพราะอยากให้โอกาสเขากลับตัว พี่ชายเรามีลูกชาย1คน เราเลี้ยงตั้งแต่อบเบาะเหมือนกัน เพราะเขาเลิกกันกับภรรยา เรารับเอาทุกอย่าง ทุกความรู้สึก เราพยายามทำตัวเข้มแข็งเพื่อไม่ให้แม่ห่วง วันนึงเราประสบความสำเร็จ มีรถ มีบ้าน มีที่ดิน พอช่วงโควิดเราล้ม งานเงียบ หนี้สินรุมเร้า จนต้องขายรถขายที่ดิน มีหนี้ที่ค้างชำระ ทุกคนในบ้านต่างโทษว่าเป็นเพราะเราที่สร้างแต่ปัญหาไม่จบสิ้น ตอนนี้เราเป็นซึมเศร้า พี่ชายเราพยายามจะครอบครองบริษัท ดีลงานแทนทุกอย่างโดยที่เราไม่รู้ และแม่รับรู้ตลอดแต่ไม่เคยพูดอะไร รายรับรับเข้าพี่ชาย แต่บางอย่างใช้ชื่อบริษัทสั่ง (บ. ชื่อแม่กับเราและสามี) แต่หนี้สิน ค่าบ้าน ที่ใช้เป็นออฟฟิต ค่างวดรถ2คัน ค่าน้ำค่าไฟ ที่พวกเขาอยู่ เราจ่าย พอเราบอกว่าไม่ไหว พวกเขาบอกว่าเราเป็นคนสร้างหนี้ จริงๆที่มันไม่ไหวคือความรู้สึกเราต่างหากที่ไม่ไหว ตอนนี้เราไม่ค่อยสบาย และท้อ เราไม่มีแรงจะสู้ต่อ เพราะเราผิดหวังกับครอบครัวที่เรารัก เพื่อนๆช่วยเราคิดหน่อย เราจะทำยังไงต่อไปดี
ใครสร้างตัวในยุคโควิดบ้าง ล้มเหลวแล้วถูกครอบครัวซ้ำเติม แต่ตอนสำเร็จ มีแต่คนรัก และลูกฉันเก่ง
1.เราเป็นลูกสาวคนเล็ก มีพี่ชาย 1 คน ตอนนี้เราอายุ 32 ปี พี่ชายเรา 35ปี
2.พ่อเราอายุ 65 แม่ 55 ไม่มีอาชีพ ( ช่วยงานเราในบริษัท )
3.เราเริ่มทำธุรกิจ ปี 58 จนปัจจุบัน 6 ปี
4.พี่ชายเราไม่มีงานทำ ปัจจุบัน แบ่งส่วนลูกค้าส่วนหนึ่ง ไปจากเรา
5.เราทำธุรกิจ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หนึ่ง ขายเฉพาะกลุ่ม
6.เดิมที เรามีรายได้เดือนละ 5-7 แสนบาท
7.ปัจจุบัน 50,000-80,000
เริ่มเรื่องนะคะ... เมื่อก่อนพอเราทำงาน เมื่อก่อนพอเราทำงานบริษัทโชว์รูมรถค่ายหนึ่งทำแผนกเกี่ยวกับการแต่งรถเงินเดือนประมาณ 10,000 ถึง 12,000 บาทแต่ก็ไม่เคยเหลือมาจุนเจือครอบครัวหรอกแถมยังติดนี่ค่าหวยด้วย ก็จะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เราจำความได้ ส่วนแม่เราก็เย็บผ้าได้ไม่ค่อยเยอะหรอกถ้าใครเคยเย็บผ้าก็จะรู้ดี เราเรียนมหาลัยตอนนั้นเราช่วยอาขายรถเราได้ค่าคอมอยู่ 10,000 บาทรอนำเราเรียนมหาลัยตอนนั้นเราช่วยอาขายรถเราได้ค่าคอมอยู่ 10,000 บาทเราเลยนำเงิน 10,000 ไปซื้อของที่สำเพ็งเพื่อมาขายของที่ตลาดนัดเป็นพวกกิ๊ฟช็อปและเอามาขายที่มหาลัยหลังเลิกเรียน เราเลี้ยงหลานผู้หญิงหนึ่งคนหลานชายหนึ่งคนตั้งแต่เกิดแบเบาะจนถึงประมาณปอสี่น้าเราก็มารับหลานไปเลี้ยง ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนมหาลัยเราก็ไปทำงานพาททาม ร้านสเต็ก เสริฟ เลิกงานมาก็รีบเอาเงินมาให้แม่ ตอนนั้นเราลำบาก จนเรียนจบมหาลัยเรามีแฟนคนนึงรับราชการอายุเยอะแล้ว ตอนนั้นเราก็เริ่มทำงาน ที่เราทำนี่แหละ พี่ชายเราติดหนี้พนันบอล 8-90,0000 เราก็ใช้หนี้ให้ เพราะอยากให้โอกาสเขากลับตัว พี่ชายเรามีลูกชาย1คน เราเลี้ยงตั้งแต่อบเบาะเหมือนกัน เพราะเขาเลิกกันกับภรรยา เรารับเอาทุกอย่าง ทุกความรู้สึก เราพยายามทำตัวเข้มแข็งเพื่อไม่ให้แม่ห่วง วันนึงเราประสบความสำเร็จ มีรถ มีบ้าน มีที่ดิน พอช่วงโควิดเราล้ม งานเงียบ หนี้สินรุมเร้า จนต้องขายรถขายที่ดิน มีหนี้ที่ค้างชำระ ทุกคนในบ้านต่างโทษว่าเป็นเพราะเราที่สร้างแต่ปัญหาไม่จบสิ้น ตอนนี้เราเป็นซึมเศร้า พี่ชายเราพยายามจะครอบครองบริษัท ดีลงานแทนทุกอย่างโดยที่เราไม่รู้ และแม่รับรู้ตลอดแต่ไม่เคยพูดอะไร รายรับรับเข้าพี่ชาย แต่บางอย่างใช้ชื่อบริษัทสั่ง (บ. ชื่อแม่กับเราและสามี) แต่หนี้สิน ค่าบ้าน ที่ใช้เป็นออฟฟิต ค่างวดรถ2คัน ค่าน้ำค่าไฟ ที่พวกเขาอยู่ เราจ่าย พอเราบอกว่าไม่ไหว พวกเขาบอกว่าเราเป็นคนสร้างหนี้ จริงๆที่มันไม่ไหวคือความรู้สึกเราต่างหากที่ไม่ไหว ตอนนี้เราไม่ค่อยสบาย และท้อ เราไม่มีแรงจะสู้ต่อ เพราะเราผิดหวังกับครอบครัวที่เรารัก เพื่อนๆช่วยเราคิดหน่อย เราจะทำยังไงต่อไปดี