อะไร...คือต้นต่อสร้างฝุ่น PM2.5 หมอกควันของไทย

สรุปคนไทยที่ชอบกินอาหารแพงๆจากการเผาป่า ใช่มั๊ยครับ แกงเห็ดถอบ
และพวกไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด นาข้าว ที่ต้องเผา เพราะ สะดวก ไม่แพงด้วย

ก เกษตร ก พาณิชย์ น่าจะมี เครื่องหมายสินค้าเกษตรปลอดการเผา ทั้งนำเข้า และส่งออกเพี้ยนร้อนเพี้ยนแข็งแรง

ข่าวสด .. แม่ทัพภาค 3 วอนหยุดเผาป่า หาเห็ดถอบ หมอกควันหนักมาก เห็นไฟให้ช่วยดับ

27 มี.ค. 2566  -  23:48 น.
 
    แม่ทัพภาคที่ 3 วอนอย่าเผาป่า หวังหาเห็ดถอบ-ผักหวาน ปีนี้หมอกควันหนักมาก เห็นไฟไหม้ให้ช่วยกันดับ 
หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ 

วันที่ 27 มี.ค. 2566 พล.ท.สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 เผยสถานการณ์หมอกควันไฟป่าว่า ปีนี้หนักจริงๆ 
เราพยายามรณรงค์ช่วยกันไม่เผา พี่น้องประชาชนบางคนไม่เชื่อ ยังมีแนวความคิดว่า การเผาไม้เผาป่าจะได้
เห็ดถอบและผักหวาน ตนพยายามคุยกับทางผู้ว่าฯ ถ้าพี่น้องประชาชนเข้าใจจะไม่เกิดผลกระทบกับเขาเอง 
เพราะมันหนักหนาสาหัส ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว ความเป็นอยู่ ลูกหลานเด็ก สภาพอากาศ
 
“ขอวิงวอนว่าหยุดเผากันเถอะครับ รอให้ลมมาฝนมาค่อยไปเผาตอนนั้น การเผาไม่มีผลกระทบผมไม่เคยห้าม 
เพราะเป็นวิถีของการเผา ถ้าเผาหวังจะได้เห็ดถอบและผักหวาน แต่ไม่รับผิดชอบในการดับ พอลามไปบนภูเขา
ทำให้ดับยาก จึงเป็นปัญหาหมอกควันไฟป่าในบ้านเรา”

แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า แม้ว่าประเทศเพื่อนบ้านเราเผา ถึงจะมีผลกระทบบ้าง แต่ถ้าเราไม่เผาก็จะไม่หนัก
ขนาดนี้ขอวิงวอนพี่น้องประชาชนหยุดเผาได้แล้ว ถ้าเห็นไฟลุกที่ไหนก็ขอให้ช่วยกันดับ ดับไม่ได้ให้ช่วยแจ้ง 
อบต. หรือหน่วยงานที่มีรถน้ำ
 
 
พล.ท.สุริยะ กล่าวต่อว่า ขอฝากไปถึงหน่วยงานในท้องถิ่นให้ช่วยกันดับให้ไว หรือมีไฟเกิดขึ้นข้างทางให้รีบดับ 
รวมถึงการเผาขยะ เศษใบไม้ที่บ้าน หรือเผาที่วัด ต้องหยุดให้หมด ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจ เราสามารถ
หยุดได้ เพราะพี่น้องคนไทยมีเหตุผลรับฟังกัน นอกจากเราไม่เผาแล้ว และช่วยกันดับด้วย ประเทศจะดีขึ้น
                                ---------------------------------------------------------
ข่าวสด .. 'พิธา' เฉลยสาเหตุ ต้นตอ หมอกควันภาคเหนือ ยันต้องกล้าจัดการ ถ้าได้เป็นรัฐบาล ประกาศทันที

28 มี.ค. 2566  -  00:35 น.

‘พิธา’ เฉลยสาเหตุ ต้นตอ หมอกควันภาคเหนือ ยันต้องกล้าจัดการ ผู้มีส่วนร่วมทำให้เกิดปัญหาต้องรับผิดชอบ
ทั้งทางอาญาแพ่ง ลั่นถ้าได้เป็นรัฐบาล ประกาศทันที 

วันที่ 28 มี.ค.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเพจ Pita Limjaroenrat – 
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหา PM2.5 ความว่า 
[ ทุกตันข้าวโพดจากการเผาป่า แลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และอายุขัยคนไทย ]
 
สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ PM2.5 ในภาคเหนือรุนแรงมาก บางจังหวัดเช่น เชียงใหม่ กลายเป็นเมืองที่มี
มลพิษมากที่สุดในโลก บางวันสถานการณ์รุนแรงเกินกว่าที่เครื่องวัดฝุ่นละอองจะวัดได้

ข้อเสนอในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ โดยเฉพาะด้านการป้องกัน บรรเทา และเตือนภัยคงมีคนพูดถึงไปเยอะแล้ว 
ผมจึงขอพูดอีกประเด็นสำคัญที่ยังไม่พูดถึงมากนัก นั่นคือต้นตอของสาเหตุที่ทำให้ PM2.5 รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
 
หลายคนรู้ปัญหาดีว่าต้นเหตุของฝุ่น PM2.5 ที่มากขนาดนี้มาจากการเผา โดยเฉพาะการเผาเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรม 
แต่เบื้องหลังของการเผาเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรม คือธุรกิจการเกษตรที่ทำธุรกิจอย่างไม่รับผิดชอบ

ข้อมูลจาก GISTDA เปิดเผยว่าวันที่ 26 มีนาคม 2566 เพียงวันเดียว ประเทศเมียนมา พบจุดความร้อน 10,563 จุด 
สปป.ลาว 9,652 จุด และไทยพบจุดความร้อนถึง 5,572 จุด สูงที่สุดในรอบ 5 ปี

จำนวนจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้น สัมพันธ์กับจำนวนพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 10.6 ล้านไร่ ในรอบ 7 ปี
ที่ผ่านมาของประเทศลาว เมียนมา และไทย
 
สาเหตุของการเผาไม่ต้องไปหาอื่นไกล เกิดจากประเทศไทยของเราเอง ดังจะเห็นได้จากข้อมูลการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
จากประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา ลาว กัมพูชา) ที่เพิ่มขึ้นจากประมาณ 770 ล้านบาท ในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 14,325 ล้านบาท
ในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 18 เท่า

การขยายตัวของกลุ่มทุนไทยที่เข้าไปรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน คือต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเผาป่า
เพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรมในลาวและเมียนมา และเป็นที่มาของฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในภาคเหนือของประเทศไทย

ทุกต้นข้าวโพด-ปาล์มน้ำมันที่มาจากการเผาป่า แลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และอายุขัยคนไทย

จะแก้ปัญหา PM2.5 นอกจากต้องมีมาตรการผ่านกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศแล้ว สิ่งสำคัญที่จะแก้ได้จากใจกลางของปัญหา 
คือต้องกล้าจัดการกับต้นตอที่ทำให้เกิดการก่อมลพิษในประเทศของเราเองด้วยการประกาศนโยบาย “ไม่ยอมรับการเผาทุกกรณี”
ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะประกาศทันทีว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสินค้าเกษตรที่นำเข้ามาในประเทศไทย 

โดยเฉพาะที่ผ่านด่านการค้าในภาคเหนือ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) เป็นอย่างน้อย 
เพื่อไม่ให้นำเข้าสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผาเหล่านี้เข้าสู่ประเทศไทย ตัดวงจรการเผา ลบจุดแดงบนแผนที่ทางอากาศ

นอกจากนี้ ประเทศไทยต้องมีกฎหมายให้ผู้มีส่วนในการสร้างหมอกควันพิษต้องรับผิดชอบทั้งในทางอาญาและทางแพ่ง 
และประชาชนสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หากพิสูจน์ได้ว่าบริษัทใดรับซื้อหรือมีส่วนทั้งทางตรง
และทางอ้อมกับการเผาที่ทำให้เกิดมลพิษลอยเข้ามาในประเทศไทย หลักการเดียวกันกับ ‘กฎหมายหมอกควันข้ามพรมแดน’ หรือ Transboundary Haze Pollution Act ของประเทศสิงคโปร์

ในโลกยุคปัจจุบัน ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และสุขภาพแทบจะเป็นเรื่องเดียวกัน รัฐบาลที่จะแก้ปัญหา 
PM2.5 ได้ คือรัฐบาลที่พร้อมชนกับกลุ่มทุน กล้าจัดการกับบริษัทที่ไม่มีธรรมาภิบาลในการทำธุรกิจ และสามารถใช้
เวทีระหว่างประเทศในการเจรจาสร้างความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาระดับภูมิภาค

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็จะร่วมมือและสนับสนุนกับประเทศเพื่อนบ้านในการดับไฟป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของ
จุดความร้อน และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ประชาชนทุกประเทศในอนุภูมิภาคต้องเผชิญเช่นกัน
 
การเมืองดี ระบบเศรษฐกิจที่ดี และการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี คือเรื่องเดียวกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่