ทำไมคนเป็นพยาบาล+หมอ ไม่ค่อยฟังคนไข้เลย

กระทู้คำถาม
เนื่องจาก จขกท. ไปตรวจ  "ปวดท้อง"  
พยาบาลจะถามไปกินอะไรมา ถึงได้ปวด , ปวดตั้งเเต่เมื่อไหร่ , ปวดตรงไหน? 
((เหมือนเขาดูจากประวัติการมารักษาอย่างเดียว : ไม่ฟังเรา เท่าไหร่เลย))  + ตะคอก
จริงๆไม่ต้องถามก็ได้ !! ..... ถ้าจะสรุปเองเออเอง  

เรา : ก็บอกว่า อาการเป็นมาประมาณ 3-4 เดือน ท้องเสียวันเสาร์ เกิน 10 รอบ(เข้าห้องน้ำ) 
พยาบาล : ก็ถามแกมตะคอก  = วันนี้ถ่ายกี่รอบ ไม่ใช่วันอื่น 
เรา : วันนี้วันอาทิตย์ ถ่ายไป 3-4 รอบ
พยาบาล : ก็เท่านี้  เเล้วปวดทั่วท้องไหม? (เหมือนรอบก่อน) 
เรา : ก็เอารูปให้ดู เขาไม่ดู ...ตพคอดอีก ปวดตรงไหน? เราก็ชี้ไป 
พยาบาล : ก็เท่านี้ ปวดตรงนี้  
ปล.จริงๆก็มีมากกว่านี้ เเต่ขี้เกียจพิมพ์
......เขาจะไม่ถามเลยหรอว่าเป็นมานานเเค่ไหน?  ปวดท้องเรื้อรังไหม?  ถ่ายเรื้อรังไหม? .... 
หมอมา  : กดๆๆ ไม่เจออะไร : ก็บอกว่าอาจจะผนังลำไส้อักเสบ  "ฉีดยานะ" 
เราก็ : เอารูปให้ดูต่อ 
หมอบอก : เป็นไส้เลื่อน 
เราก็อืม :  เเล้วกลับมาอ่าน  มันยุบเป็นปกติได้ด้วยหรอ?  พอปวดก็บวม ไม่ปวดก็ยุบตามเดิม  ....  เหมือนมันอักเสบมากกว่า 
####อย่าหาว่าเก่งกว่าหมอนะ#### 

เพราะจากครั้งก่อนกินยาแก้ปวดเกร็งในช่องท้อง = ไม่หายปวด ..... กินยาฆ่าเชื้อ หายปวด ท้องยุบ (ชะงั้นจริงๆ ทั้งๆที่ชื้อจากร้านขายยา + บางแผงชื้อจากร้านขายของชำ) 

หมอจ่ายยา loperamide Cap 2 mg  (อ่านดู แก้ท้องเสียเฉียบพลัน) = กินไป 2 เม็ด เเล้วก็หยุดไป  

อาการตอนนี้ มันจะปวดหน่อยๆ จนน่ารำคาญ + เคลื่อนไหว
หรือ.....กินข้าวเยอะไปนิดจะปวด (กินทีละครึ่งถ้วน/มื้อ)
หรือ ....กินเกิน 3 มื้อต่อวัน จะปวด เเต่ไม่มากนะ 

เดินเยอะก็จะปวดแบบรำคาญๆ  ส่วนใหญ่นอนบนเตียง (กินบ้านกินเมืองเลย ก็จะหายปวดไป)

....กินยา ลดกรด  ปรับลำไส้  พวกนี้ตามร้านขายยา = ไม่หาย  (ยาฆ่าเชื้อหายนะ)
ลองยาหลายตัวมาก (หนูทดลองยาจริงๆ)  

###### ก็เลยขี้เกียจไป รพ.อีกเลย (หลังจากฉีดยามา ก็เบาท้องเสียลง) 
+ไม่ได้ทำงานหนัก ....มีวันนี้เข้าสวนพักเดียว อาการปวดกำเริบ เลยมานอน หายไปหน่อย 
##### เมื่อวานไม่ได้ถ่าย + วันนี้ถ่ายเเข็งขึ้นมาหน่อย เเต่ปลายๆก็เหลว  (ถ่ายวันละรอบ หรือกินน้อยไม่รู้ เบื่ออาหาร) 
...............................................................................................................................................
จากความเข้าใจเรานะ ! ยาไม่ได้รักษา เเค่บรรเทาอาการ 
เเต่....ร่างกายจะรักษาตัวของมันเอง  
ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ + ไม่ต้องกินยามากมาย  = ก็สามารถหายเองได้ (ตรรกกะเรา 555+) 
เพราะอาการไม่หนัก เดินได้ ....... พูดได้  = ให้หมอรักษาคนอาการหนัก ดีกว่า 

........................ไม่ต้องอ่านก็ได้นะ เเค่เคยมีอาการ........................

จริงๆเเล้ว เราไปเเต่ละที (ยกเว้น ปวดโพรงจมูก ได้ ยาไอบลู โฟเฟ่นมา : น้ำมูกสีเหลือง เขียว เเดง เเต่ไม่ไหลเหมือนออกข่าว น่าจะติดเชื้อโรค) = ช่วงนั้นแพ้ฝุ่น เเต่ตอนนี้หายเเล้ว 
ก็จะได้ยา รักษาตามอาการ = ซึ่งหาชื้อตามร้านขายยาทั่วไปได้   
ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดอะไรต่าง ๆๆ 

อ่อเคยอ๊วกเป็นเลือด .... ไปตรวจเลือดก็ปกติ (กลับบ้าน) เเล้วก็ไม่อ๊วกเป็นเลือดอีกเลย (ฟิตร่างกาย)
จนตอนนี้ = เข้าใจอาการของตัวเองเเล้ว เป็นอะไร ไปร้านขายยา = หาย  
 #### ห้ามเรียนแบบนะ #### 
.........................................................................................................................................

มีอีกเคสนุง 
มีดบาดเส้นเอ็นนิ้วก้อยขาด : ไปหาหมอกระดูก = หมอดูแค่ประวัติ ไม่ถามสักคำ เเล้วก็บอก เป็นมานานเเล้ว ต่อเส้นเอ็นไม่ได้เเล้ว บลาๆๆๆ 
เเล้วก็ไล่กลับบ้าน !!!!!!! 
เรา : พยายามจะอธิบาย มีบาดเมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว เอาพลาสเตอร์แปะไว้ !!! มันก็สมานตัวเอง เเต่งอนิ้วไม่ได้ 
หมอ : ดูจากประวัติรถล้มเเล้ว ไม่สามารถรักษาได้ (เกี่ยวอะไรกับรถล้ม รถล้มก็ผ่านมาหลายเดือนเเล้ว)
 
ไปอีก รพ.นุง ไปหา เจอหมอทั่วไป +นัดอีก 1 อาทิตย์ 
ไปตามนัด : รอนัดหมอกระดูก อีก 1 อาทิตย์ 
ไปตามนัด : เจอหมอกระดูก รอฝ่าตัดอีกหลายวัน 
สรุป กว่าจะได้ต่อ เดือนกว่าเกิบ 2 เดือน (ฝ่าตัดเเล้ว ก็เป็นหนักกว่าเดิม งอไม่ได้เลย ดีนะเป็นที่นิ้วก้อย ยังสามารถทำงานต่างๆได้)  
https://www.picz.in.th/image/mY4l8v   ลิ้งรูปผ่าตัดต่อเส้นเอ็น

ถ้าไม่ไหว คือเราไป รพ. ............. ถ้าเราไหว คือ ไปร้านขายยา (ทั้งๆที่มีสิทธิ์รักษา กรมบัญชีกลาง : ข้าราชการ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่