John Wick: Chapter 4 (2023) - Such is life... นี่แหละชีวิต !

John Wick: Chapter 4 - จอห์น วิค แรงกว่านรก 4
 
" 'คนในยุทธจักรล้วนไม่เป็นตัวของตัวเอง''...  คำพูดนี้เป็นความจริง ทั้งเป็นสัจธรรมที่ไม่มีใครอยากพบเจอ "

 

กำกับโดย Chad Stahelski

จากที่ได้ดูภาคแรกมาจนถึงภาคนี้ ไม่คิดเหมือนกันว่า เฟรนไชน์ John Wick จะมาได้ไกลขนาดนี้   แถมยังได้รับคะแนนวิจารณ์ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะใน Metacritic สามภาคหลังคะแนน 70%+ ตลอด ถือว่า สูงสำหรับหนังแอ็คชั่น !
 
เรื่องย่อ
 คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
John Wick: Chapter 4 - Official Trailer

หลังจากที่ "จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์)" เปิดศึกกับสภาสูง ทำให้เขาถูกไล่เก็บ ส่งผลให้เขาต้องหาวิธีปลดตัวเองจากบ่วงพันธะที่มีกับสภาสูงให้ได้ ขณะเดียวกัน ก็มีการส่ง "เคน (ดอนนี่ เยน)" อดีตมิตรฝีมือฉกาจมาไล่เก็บจอห์น
 
ความรู้สึกหลังชม

- จุดแรกที่เป็นไม้เด็ดของหนัง ขอยกนิ้วให้ "คิวบู๊แอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยม"

เอกลักษณ์ที่สำคัญของการต่อสู้ใน John Wick คือ "ความเป็นหนัง Gun fu (Gun + Kung fu)" เรียกอีกอย่างว่า "Bullet Ballet (ระบำกระสุน)" ซึ่งปกติจะโดดเด่นในหนังฮ่องกงยุคก่อน (พวกงานของ John Woo - ex. A Better Tomorrow - โหดเลวดี, The Killer - โหดตัดโหด) ขณะที่ในฟากตะวันตก อาจจะไม่ได้เห็นงานสวย ๆ เหมือนอย่างที่หนังฮ่องกงทำมากนัก

ทว่าสตาเฮลสกี ทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ เขาสร้างเอกลักษณ์ที่เป็นวิธีการต่อสู้ฉบับ John Wick ได้อย่าง Unique (Gun fu ผสม Martial Arts ตะวันออก - ยิวยิตซู, ยุโด, คาราเต้, กังฟู) ชนิดที่ถ้าอยากจะศึกษาวิธีการทำคิวบู๊หนังแอ็คชั่น John Wick เป็นหนึ่งในเฟรนไชน์แอ็คชั่นที่ไม่ควรพลาด

ตรงนี้น่าจะเป็นผลให้นักวิจารณ์ชอบเป็นพิเศษ (ตั้งแต่ภาคแรก) ส่วนเหล่าคนดูก็เลิฟ เพราะหนังทำฉากเหล่านี้ได้สนุก พร้อมกับสวยงามในเวลาเดียวกัน
 
 
จอห์น วิค กับอาวุธใหม่ กระบองสองท่อน

- หนังมีฉากการต่อสู้ที่ครีเอทหลาย ๆ ช็อต โดยที่ชอบที่สุด รู้สึกชอบ 4 ฉาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ฉากเหล่านี้เป็นทีเด็ดหนังที่สำคัญ แล้วก็เพิ่มคะแนนความดีงามให้กับหนังมากมาย

- เซ็ตติ้งโลกนักฆ่า จริง ๆ คล้ายกับจักรวาลกำลังภายในจีนที่มีเรื่องการแก้แค้น คุณธรรมน้ำมิตร พิธีการ การเมือง กฏเกณฑ์ในยุทธจักร

ที่สำคัญ ปรัชญาในหนัง พาย้อนนึกถึงที่โกวเล้งเคยกล่าวไว้ว่า "คนในยุทธจักรล้วนไม่เป็นตัวของตัวเอง" พันธะต่าง ๆ ทำให้ทุกคนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปรารถนา มิอาจมีอิสระเสรีตามใจต้องการ...

นับเป็นเรื่องน่าเศร้าของชาวยุทธจักรในจักรวาล John Wick สอดรับกับคำพูดที่วินสตันกล่าวในเรื่องว่า "Such is life (นี่แหละชีวิต)"

คำพูดสั้น ๆ เรียบง่ายนี้เอง เป็นเหมือนบทสรุปที่ชัดเจนที่สุดของเรื่อง และสะท้อนชีวิตของ John Wick ได้อย่างครบถ้วน
 

- บทหนังคล้ายกับในภาคก่อน ๆ เรื่องวางไว้หลวม ๆ อย่างไรก็ตาม หนังยังคงน่าติดตามจากงานแอ็คชั่นที่แพรวพราว

- ความยาวหนังถ้าตัดเหลือ 2 ชม. จะกระชับขึ้น

- ชอบบทสรุปหนังที่พยายามหยุดเรื่องทั้งหมดไว้ที่ภาคนี้ คิดไม่ออกเหมือนกันว่า หนังจะไปต่อได้มากกว่านี้อย่างไร เรื่องราวของ John Wick ดูค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว ถ้าจะไปต่อจริง ไปสำรวจตัวละครอื่น ๆ ก็อาจจะน่าสนใจขึ้น

อีกอย่าง สเกลจักรวาลตอนนี้ รู้สึกเหมือนฟองสบู่พอง ไปต่อมากกว่านี้ อาจแฟนตาซีไปเลย (ขนาดในภาคนี้ ยังมีบางช่วงที่รู้สึกว่า มันเล่นใหญ่เกินสเกลมากไปไหม )

- พาร์ทนักแสดง "คีอานู รีฟ" ยังคงเท่เหมือนเดิม มีที่รู้สึกว่าแย่งซีนได้เด่น ก็ "ดอนนี่ เยน" แย่งซีนดีมาก

ส่วนอีกคน "ฮิโรยูกิ ซานะดะ (ลุงชิเหน๋)" มาเท่เหมือนกันโหมดซามูไร  
 
 
เคน ศัตรูคนสำคัญของจอห์นในภาคนี้

สรุป 

ถือว่าเป็นหนังปิดท้ายเฟรนไชน์ที่ดี มีลูกเล่นแอ็คชั่นที่สวยงามน่าชื่นชม คุณภาพคับแก้ว
 
ดังนั้นรอดูกันต่อไปว่าจะมีหนัง Spin–off ตระกูลนี้ต่อเปล่า ส่วนภาคนี้ จากที่เห็นแนวโน้ม น่าจะประสบความสำเร็จงดงาม โกยรายได้เพียบ !
 
 
_________________________________

ป.ล. หลังดูจบอย่าเพิ่งลุกไปไหน มีฉาก End-credit
 
ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อนะครับ
  
IG: benjireview
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่