สัมภาษณ์ : ดร.พิชาย เกมทักษิณยอมติดคุก เปิดยุคใหม่ของอุ๊งอิ๊งเพื่อไทย ครองอำนาจยาว
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_3892233
 
 
สัมภาษณ์พิเศษ  รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองฯ นิด้า วิเคราะห์เกมทักษิณยอมติดคุก เปิดยุคใหม่ของอุ๊งอิ๊งและคนรุ่นใหม่ มองดีลการเมืองบนโต๊ะอาหาร ประวิตร-อนุทิน ปิดทาง ประยุทธ์ ไปต่อ เปิดทางร่วมเพื่อไทย  ชมคลิปด้านล่าง
 
 

---

“พิธา” ตอก “ประวิตร” มีรัฐประหารอีกถ้าจำเป็นคือตรรกะวิบัติ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_522982/

ก้าวไกล ปราศรัยใหญ่แหลมฉบัง “พิธา”มั่นใจคนชลบุรีพร้อมมอบความไว้ใจอีกครั้ง ตอก”ประวิตร”มีรัฐประหารอีกถ้าจำเป็น คือตรรกะวิบัติ “ธนาธร” ปลุกเลือกตั้งด้วยความหวัง ไม่ใช่ความกลัว
 
พรรคก้าวไกล เปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ใน จ.ชลบุรี ทั้ง 10 เขต ที่สวนเทศบาลเมืองแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยมีทั้งแกนนำและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เข้าร่วมการปราศรัยอย่างคับคั่ง อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค นางสาวเบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออก และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล
 
นายพิธา กล่าวว่า ในยามที่การเมืองเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวย้ายขั้ว ย้ายพรรคเกิดขึ้นตลอดเวลา อยากให้ชาวชลบุรีมั่นใจว่า ยังมีทางเลือกของพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์อยู่ คือพรรคก้าวไกล ซึ่งในปี 2562 ตั้งแต่สมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ ชาวชลบุรีได้ให้ความไว้วางใจกว่า 2 แสนคะแนน แม้จะมีคนปรามาสว่าเป็นเรื่องของส้มหล่น แต่เชื่อว่าเป็นความไว้วางใจที่พรรคก้าวไกลได้รับ
 
มาจากความมั่นใจของชาวชลบุรี ที่ต้องการการเมืองที่ปลอดระบบอุปถัมภ์ กำหนดอนาคตตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งบ้านใหญ่มากกว่า ส่วนอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลใน จ.ชลบุรี ที่ย้ายพรรคกันไปหลายคน นายพิธา ระบุ มั่นใจว่าทั้ง 10 คนในครั้งนี้ ผ่านกระบวนการคัดสรรที่เข้มข้น ผ่านทั้งการสัมภาษณ์ หลักสูตรการเมือง และการทำงานร่วมกันมาเป็นปีๆ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าในรอบนี้จะไม่มีงูเห่าเกิดขึ้นแน่นอน
  
สำหรับการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงให้สัมภาษณ์ออกมาว่า การรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่จำเป็น นั้น มองว่า การรัฐประหารในวันนี้ต้องไม่มีคำว่า “ถ้า” อีกแล้ว การรัฐประหารต้องไม่เกิดขึ้นอีก สำหรับพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ต้องมีมาตรการป้องกันการรัฐประหารไม่ให้เกิดขึ้น ไม่ให้ข้าราชการให้ความร่วมมือกับการรัฐประหาร ไม่ให้ศาลรองรับการรัฐประหารต่างหาก ทั้งนี้ การรัฐประหารจะหมดไปหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคนไทยจะปรองดองกันหรือไม่ เพราะทุกสังคมมีความขัดแย้งกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องใช้กระบวนการรัฐสภาและประชาธิปไตยมาแก้ไขปัญหาต่างหาก การพูดแบบนี้จึงเป็รตรรกะที่วิบัติมาก
 
ด้านนายธนาธร กล่าวว่า โครงสร้างสังคมไทยทุกวันนี้ ไม่เป็นธรรม ทำให้คนไทยจำนวนมากที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ไม่สามารถมีชีวิตที่มั่นคงได้ นี่คือความจำเป็นที่ทำให้เสนอสร้างรัฐสวัสดิการมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ เพื่อทำให้คนกล้าเดินตามความฝัน ดึงศักยภาพของคนไทยทุกคนออกมา รองรับกับทุกความไม่แน่นอนในชีวิต ถ้าการเมืองกับปากท้อง แยกออกจากกันได้ ถ้าการแก้ปัญหาปากท้องอย่างเดียว โดยไม่ต้องแก้ปัญหาการเมือง ทำให้ชีวิตคนไทยดีได้จริง คนไทยคงจะรวยไปนานแล้ว แต่ที่คนไทยไม่รวย เพราะปัญหาการเมืองเป็นแบบนี้ และต้องบอกว่ารัฐสวัสดิการ การลงทุนด้านเทคโนโลยี การสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่เริ่มต้นที่ระบบการเมืองที่ดี

ดังนั้น 14 พฤษภาคมนี้ เราสร้างอนาคตที่สดใสให้ลูกหลานของเราได้ด้วยบัตรเลือกตั้งของเรา อนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับการกากบาทของทุกคน นี่คือจุดชี้เป็นชี้ตายของอนาคต การเลือกตั้งโดยไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพล เลือกด้วยความหวัง ไม่ใช่ความกลัว ความเจ็บปวดของพี่น้องประชาชนคืออดีต คือปัจจุบัน แต่อย่าให้มันเป็นอนาคตของลูกหลาน
  

---

  
จับตาดอยช์แบงก์ หวั่นเป็นโดมิโนตัวใหม่ หลังหุ้นดิ่ง เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
https://www.thansettakij.com/finance/financial-banking/559993

ราคาหุ้นดอยช์แบงก์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์ (24 มี.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ของทางธนาคาร
 
ดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ตกเป็นเป้าสนใจของนักลงทุนทั่วโลกสุดสัปดาห์นี้ หลังจากที่ ราคาหุ้น ของทางธนาคารได้ดิ่งลงทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดย ณ เวลา 21.53 น.ตามเวลาไทยวานนี้ (24 มี.ค.) ราคาหุ้นดอยช์แบงก์ ร่วงลง 7.93% สู่ระดับ 8.88 ดอลลาร์ หลังจาก Credit
 Default Swap (CDS) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของดอยช์แบงก์พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี   
         
สื่อต่างประเทศระบุว่า CDS ของดอยช์แบงก์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.00% เมื่อวันศุกร์ (24 มี.ค.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 จากระดับ 1.73% เมื่อวันพฤหัสฯ
 
ทั้งนี้ ดอยช์แบงก์เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี มีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการราว 8.8 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ล่าสุดธนาคารเปิดเผยว่ามีกำไร 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565

นอกจากนี้ ดอยช์แบงก์ยังถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม Systemically Important Financial Institution (SIFI) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ หรืออยู่ในกลุ่ม "Too big to fail" หมายถึงการเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เกินกว่าจะล้ม โดยภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อป้องกันมิให้วิกฤตธนาคารในกลุ่มดังกล่าวลุกลามไปทั่วระบบการเงิน
 
"ดอยช์แบงก์ได้ตกเป็นเป้าสนใจเช่นเดียวกับธนาคารเครดิตสวิส แม้ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างมาแล้วหลายครั้ง และมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเพื่อให้ธนาคารกลับมามีสถานะที่มั่นคง แต่ความพยายามเหล่านี้ก็ยังไม่บรรลุผลแต่อย่างใด" นายสจวร์ต โคล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์มหภาคของ Equiti Capital กล่าว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังแห่เทขายตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 ของดอยช์แบงก์เช่นกัน หลังจากที่เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ประกาศตัดมูลค่า AT1 ของธนาคารเครดิตสวิส ลงเหลือศูนย์ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนในการถือครอง AT1 ของดอยช์แบงก์ หากธนาคารเกิดการล้มละลาย
 
นายกฯ เยอรมนีรีบออกโรงสร้างความเชื่อมั่น
 
นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกโรงป้องกันภาวะไฟลามทุ่งในแวดวงธนาคารอย่างรวดเร็ว โดยเขากล่าวยืนยันต่อสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ (24 มี.ค.) ว่า ดอยช์แบงก์ได้ผ่านการปรับโครงสร้างแล้ว และมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย
 
นอกจากนี้ ดอยช์แบงก์ยังเป็นธนาคารที่สามารถทำกำไรอย่างมาก นักลงทุนจึงไม่ควรคาดเดาในทางลบเกี่ยวกับอนาคตของธนาคารแห่งนี้
 
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายรายก็ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่น โดยระบุว่า ดอยช์แบงก์จะไม่กลายเป็นโดมิโนตัวต่อไปจากเครดิตสวิส เนื่องจากสถานะของธนาคารดอยช์แบงก์ ยังมีกำไรถึง 5 พันล้านยูโร (5.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 159% เมื่อเทียบกับปี 2564 และทางธนาคารยังสามารถทำกำไรถึง 10 ไตรมาสติดต่อกัน