JJNY : ฟรีดอมเฮาส์ ตัดเกรด‘ไม่เสรี’│‘ภูมิธรรม’ปลุกกาเพื่อไทย│สมชัยเตรียมยื่นฟันประยุทธ์ ยุบรทสช.│ล้มไม่ได้!“เครดิต สวิส”

ฟรีดอมเฮาส์ ตัดเกรดไทย ‘ไม่เสรี’ ได้เพิ่ม 1 คะแนน หลัง ‘ชัชชาติ’ ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3875245
 
 
ฟรีดอมเฮาส์ ตัดเกรดไทย ‘ไม่เสรี’ ได้เพิ่ม 1 คะแนนจากปีก่อน หลัง ‘ชัชชาติ’ ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
 
“ฟรีดอมเฮาส์” องค์กรทางวิชาการอิสระในสหรัฐอเมริกา เผยแพรดัชนีเสรีภาพ 2023 ของประเทศต่างๆ เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นฉบับที่ 50 ในการทำรายงานเปรียบเทียบประจำปี ถือเป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ ฟรีดอม เฮาส์ ได้จัดอันดับดัชนีเสรีภาพนี้
  
ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย ถูกจัดอันดับว่า “ไม่เป็นเสรี” มีคะแนนสิทธิทางการเมือง 6 จาก 40 และเสรีภาพพลเมือง 24 จาก 60 คะแนน รวมทั้งหมด 30 จาก 100 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1 คะแนน ซึ่งปี 2022 ไทยได้รับคะแนนอยู่ที่ 29 คะแนน จาก 100 คะแนน
โดยฟรีดอมเฮาส์ ระบุว่า เป็นเวลา 5 ปีแล้ว ประเทศไทยได้เปลี่ยนไปสู่รัฐบาลทหารกึ่งเลือกตั้งในปี 2562 ซึ่งรัฐบาลได้มีการใช้อำนาจนิยมในการจับกุมผู้เห็นต่าง ข่มขู่ และ การคุกคามนักกิจกรรม ขณะที่เสรีภาพของสื่อถูกจำกัด
 
ทั้งยังระบุพัฒนาการของเสรีภาพ โดยยกเหตุการณ์สำคัญ อย่างการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ในเดือนพฤษภาคม ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งลงสมัครในนามอิสระ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย สะท้อนให้เห็นความไม่พอใจของประชาชน ที่มีต่อรัฐบาลที่มีทหารหนุนหลัง เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมทางการเมือง ที่เปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งผู้สมัครจากฝั่งตรงข้าม ท้าทายผู้มีอำนาจได้
ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ทำให้คะแนนการมีส่วนร่วมทางการเมือง เพิ่มขึ้นจาก 0 เป็น 1 คะแนน เนื่องจากผู้สมัครจากฝ่ายค้าน สามารถลงแข่งขันได้อย่างมีความหมายในการเลือกตั้งบางรายกาย รวมทั้งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่ได้คะแนนแบบถล่มทลาย 
 
ขณะที่ ในเดือนกรกฎาคม iLaw ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการใช้สปายแวร์ Pegasus ต่อนักกิจกรรมทางการเมือง พรรคการเมือง นักข่าว ไปจนถึงนักวิชาการ ซึ่งรัฐบาลออกมายอมรับว่าเป็นการใช้อย่างจำกัด ซึ่ง นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงที่ดิน เสี่ยงต่อความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยองค์กร NGO อย่าง Global Witness ได้กล่าวว่าประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่อันตรายที่สุดในเอเชีย สำหรับนักเคลื่อนไหว
 
ต่อมาในเดือนสิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากข้อถกเถียงในเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี ขณะที่เดือนถัดมา รัฐบาลประกาศไม่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศใช้เพื่อรับมือกับโควิด 19 ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคแล้ว ยังใช้เพื่อปราบปราบคนเห็นต่างทางการเมือง
 
ฟรีดอม เฮาส์ ยังระบุด้วยว่า ในแง่ของสิทธิทางการเมืองนั้น ได้ 0 คะแนนในเรื่องของ หัวหน้ารัฐบาลคนปัจจุบัน ได้รับการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรมหรือไม่ เช่นเดียวกับ กฎหมายและกรอบการเลือกตั้ง ที่มีความยุติธรรม ซึ่งนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นกลางนั้น ได้ 0 คะแนน ขณะที่ ความยุติธรรมและเสรีในการเลือกตั้งผู้แทนด้านนิติบัญญัติได้รับ 1 คะแนน
 
ในแง่เสรีภาพของสื่อนั้น ในปี 2562 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งหลายฉบับ จำกัดเสรีภาพในการพูด รวมถึงห้ามสื่อรายงานสิ่งที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และ ความน่าเชื่อถือของคสช. รวมถึงการดำเนินคดี 112 กับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ นักข่าวหลายคนยังถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย ขณะทำข่าวการประท้วง ในการประชุมเอเปค ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน
 
ฟรีดอมเฮาส์ ระบุว่า จากคำสั่งของคสช. และ รัฐบาลกึ่งพลเรือน ที่ควบคุมไว้นั้น ได้บ่อนทำลายสิทธิในกระบวนการอันชอบธรรม รวมไปถึงบทบัญญัติที่อนุญาตให้มีรูปแบบการควบคุมตัวโดยไม่มีหมายค้น โดยมีประชาชนกว่า 1,880 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้เยาว์ 283 คน ที่ ต้องเผชิญกับการดำเนินคดีทางอาญา ในการประท้วงระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 ถึงตุลาคม 2565 ทั้งนี้ ผู้ต้องหาคดี 112 หลายคน ข้อหามาตรา 112 หลายคนถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดีเป็นระยะเวลานาน ถูกปฏิเสธไม่ให้ประกันตัว หรือได้รับการประกันตัวภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด
 


‘ภูมิธรรม’ ปลุกกาเพื่อไทย 310 เสียง ย้ำถ้าจะหยุดระบอบประยุทธ์ ปั่นใจให้พรรคอื่นไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3875548
 
ภูมิธรรม ปลุกกาเพื่อไทย 310 เสียง ย้ำถ้าจะหยุดระบอบประยุทธ์ ปั่นใจให้พรรคอื่นไม่ได้   

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์เพื่อไม่ให้คะแนนสูญเปล่า : “หยุดระบอบประยุทธ์” โดยมีเนื้อหาดังนี้
 
“การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย
 
มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของพี่น้องประชาชนที่ต้องการหลีกให้พ้นจากความบอบช้ำในการบริหารประเทศของระบอบประยุทธ์
เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจของประชาชนเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงหยุดระบอบประยุทธ์ซึ่งกัดเซาะ บั่นทำลาย ความหวังของประชาชน ด้วยการเลือกพรรคการเมือง อย่างพรรคเพื่อไทยให้เกิน 310 เสียง

ทำไมต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อหยุดระบอบประยุทธ์
เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย เป็นเวลาเกือบ 20 ปี

เพราะพรรคเพื่อไทย และ ทีมของเพื่อไทย มีประสบการณ์เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ แก้ไขปัญหา ให้พี่น้องประชาชน ได้ฝากผลงานเชิงประจักษ์มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย อย่างเช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเปลี่ยนโครงสร้างของระบบสาธารณสุขครั้งใหญ่ของประเทศ นโยบายกองทุนหมู่บ้านที่ใช้หลักการกระจายอำนาจอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการกระจายเงินและการตัดสินใจโดยตรงไปที่ประชาชนในทุกหมู่บ้าน เป็นต้น

เพราะพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมของบุคลากรทางการเมืองทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารจัดการปัญหาทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน และเชื่อมประสานได้กับทุกภาคส่วน /มีผู้สมัคร ส.ส แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีทั้งผู้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ /โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส เขต ที่ถือเป็นด่านหน้าที่สำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมประสานระหว่างพรรคกับพี่น้องประชาชนใน

แต่ละเขตพื้นที่ ซึ่งพรรคให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการคัดเลือกคนที่ใช่ที่สุดในการเป็นผู้แทนเข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน
และที่สำคัญคือ เพราะพรรคเพื่อไทย ยืดหยัดดำรงจุดมุ่งหมายและเชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการรัฐประหาร ปี 2549

วันนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งด้านนโยบายที่เรามั่นใจว่า “คิดใหญ่ ทำเป็น” พร้อมด้วยทีมบุคลากรที่มีคุณภาพในทุกระดับ พร้อมด้วยฐานที่มั่นประชาธิปไตยของพี่น้องประชาชนที่ร่วมเคียงข้างกันมา
 
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้า จึงไม่อาจตัดสินใจเป็นอื่นไปได้ นอกจากการเลือกเชิงยุทธศาสตร์
เลือกเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
 
เลือกเพื่อปิดสวิชต์ สว. 250 เสียง ด้วยการลงคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ
 
พลังของพี่น้องประชาชนที่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะมีพลานุภาพในการนำพาประเทศไทยให้หลุดจากระบอบประยุทธ์ที่มีแต่ความทุกข์
ก้าวออกไปสู่ประเทศที่มีความหวัง เห็นอนาคตที่สดใส
 
พรรคเพื่อไทยพร้อมครับ
 
https://www.facebook.com/pwechayachai/posts/pfbid0218S6X5AjBVVc2FoqgXUFVj1gEBg4tVGNy7un8EHuVXSdN2rfjz2hYg2YZaoyxzdVl
 


สมชัย เตรียมยื่นกกต. ฟันประยุทธ์ ยุบรวมไทยสร้างชาติ เข้าข่ายผิดมาตรา 132
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7560680

สมชัย เตรียมยื่นกกต. ฟันประยุทธ์ ยุบรวมไทยสร้างชาติ หลังเข้าข่ายผิดมาตรา 132 โดยจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ กกต. 17 มี.ค. นี้
 
15 มี.ค. 2566 – นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ปธ.ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วันที่ 17 มี.ค. ตนจะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พิจารณาเอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีใช้ทรัพยากรรัฐเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมือง
  
ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ทรัพยากรรัฐ ทั้งเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รถยนต์หลวง ลงพื้นที่ตรวจราชการแทบทุกวัน แต่แฝงการหาเสียงไปในตัว มี นายพีระพันธุ์ เป็นผู้จัดตารางภารกิจการลงพื้นที่ให้ หากให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการดำเนินการเช่นนี้ต่อไปตามอำเภอใจ คงไม่ถูกต้อง จึงยื่นให้ กกต. ตรวจสอบ
ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค เพราะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 132 ที่ระบุว่า กรณีการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยสุจริต ก่อนการประกาศผลเลือกตั้ง ถ้า กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม กกต.สามารถให้ใบส้มได้
  
กรณีนี้จะมีผลย้อนหลังไปถึงข้อห้ามต่าง ๆ ช่วง 180 วันก่อนครบอายุรัฐบาล ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้งด้วย แม้จะมีการยุบสภาก็ไม่เป็นเหตุให้พ้นผิด สามารถเอาผิดได้ และถ้าผู้กระทำผิดเป็นกรรมการบริหารพรรคที่รู้เห็นเป็นใจ ไม่ยับยั้ง ให้ กกต. เสนอความเห็นยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิตส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่