🌷🤍🌷 นิทานชาดก ๐๒๑ (มหธัมมปาลชาดก) : ตระกูลที่ไม่ตายวัยหนุ่ม 🌷🤍🌷

กระทู้คำถาม


          ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดนิโครธารามเมืองกบิลพัสดุ์ ทรงปรารภความไม่เชื่อของพระบิดา ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า ...

          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิ์สัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ รักษาธรรมกุศลกรรมบถ ๑๐ ตระกูลหนึ่งในเมืองพาราณสีมีชื่อว่า ธรรมบาล ในตระกูลของเขารวมทั้งทาสคนรับใช้เป็นคนให้ทานรักษาศีลอุโบสถเป็นประจำมิได้ขาด

          ธรรมบาลเมื่อเติบโตแล้วได้ไปเรียนศิลปวิทยาที่เมืองตักกสิลา ได้เป็นหัวหน้ามานพ ๕๐๐ คนที่เรียนด้วยกัน วันหนึ่งลูกชายคนโตของอาจารย์ได้เสียชีวิตลง อาจารย์ ญาติ และลูกศิษย์คนอื่น ๆได้ร้องไห้คร่ำครวญเศร้าโศกอยู่ มีธรรมบาลคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ร้องไห้

          เมื่อกลับจากป่าช้าแล้วพวกลูกศิษย์ก็พากัน นั่งสนทนากันว่า "น่าเสียดาย ลูกชายอาจารย์ผู้มีมารยาทเรียบร้อย ต้องมาตายเมื่อยังหนุ่มแน่นนะ"
          ธรรมบาลถามขึ้นว่า "เพื่อน.. เป็นเพราะเหตุใดคนถึงตายในวัยหนุ่ม วัยหนุ่มยังไม่ควรตายมิใช่หรือ?" เพื่อนพูดตอบว่า"ธรรมบาล..ท่านไม่รู้จักความตายหรือ?"
          ธรรมบาล "เรารู้ แต่ไม่เคยเห็นใครตายในวัยหนุ่ม เห็นแต่คนแก่ตาย"
          เพื่อน "สังขารทั้งปวงไม่เที่ยงมีแล้วกลับไม่มี มิใช่หรือ?"
          ธรรมบาล "มีแต่คนตายในวัยแก่ ตายในวัยหนุ่มไม่มี"
          เพื่อน "เป็นประเพณีของตระกูลท่านหรือ?"
          ธรรมบาล "ใช่แล้วล่ะ"

          เพื่อนได้นำเอาคำสนทนากันไปเล่าสู่อาจารย์ฟัง อาจารย์ต้องการพิสูจน์ความจริง จึงมอบให้ธรรมบาลเป็นผู้สอนศิษย์แทน ตนเองจะเดินทางไปทำธุระต่างเมือง สั่งธรรมบาลแล้วก็ให้นำกระดูกแพะตัวหนึ่งล้างน้ำดีแล้วใส่กระสอบให้คนรับใช้คนหนึ่งถือตามไปด้วย เมื่อถึงบ้านของธรรมบาลแล้วก็เข้าไปสนทนากับบิดาของธรรมบาล แสร้งพูดว่า "พราหมณ์..ลูกชายท่านมีสติปัญญาดีมาก แต่เสียดายเขาได้ตายด้วยโรคอย่างหนึ่งเสียแล้ว ขอท่านอย่าเศร้าโศกเลยนะ"

          พราหมณ์พอฟังจบได้ตบมือหัวเราะดังลั่น เมื่อถูกอาจารย์ถามว่า "พราหมณ์..ท่านหัวเราะทำไม?" เขาก็ตอบว่า "อาจารย์..ลูกฉันยังไม่ตาย ที่ตายนะเป็นคนอื่น" เมื่ออาจารย์นำกระดูกออกมายืนยัน ก็ยังตอบอยู่ว่า "อาจารย์...คงเป็นกระดูกสัตว์หรือกระดูกคนอื่น ลูกฉันยังไม่ตายหรอก เพราะในตระกูลเรา ๗ ชั่วโคตรมาแล้ว ไม่เคยมีใครตายในวัยหนุ่มเลยละ" ทุกคนในครอบครัวต่างหัวเราะถือเป็นเรื่องตลกไป สร้างความอัศจรรย์แก่อาจารย์เป็นอย่างยิ่ง

          อาจารย์จึงถามต่อเพื่อคลายความสงสัยว่า "พราหมณ์ตระกูลของท่าน เพราะเหตุใด คนวัยหนุ่มจึงไม่มีคนตายละ?"

          พราหมณ์จึงพรรณนาเหตุของคนวัยหนุ่มในตระกูลไม่มีใครตายว่า "พวกเราประพฤติธรรม ไม่พูดมุสา งดเว้นกรรมชั่ว ฟังธรรมของสัตบุรุษ ละธรรมอสัตบุรุษ ก่อนให้ทานพวกเราตั้งใจดีแม้กำลังให้ก็มีใจเบิกบานเมื่อให้แล้วก็ไม่เดือดร้อนภายหลัง พวกเราเลี้ยงดูสมณะ คนเดินทางไกล วณิพก ยาจกและคนขัดสนให้อิ่ม พวกเราไม่นอกใจสามีภรรยา งดเว้นจากาการฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ของผู้อื่น ไม่ดื่มของเมา บุตร มารดา บิดา พี่น้อง สามีภรรยา ทาสคนรับใช้ ล้วนแต่ประพฤติธรรมมุ่งประโยชน์ในโลกหน้า เพราะประพฤติธรรมอย่างนี้แหละคนหนุ่มของพวกเราจึงไม่ตาย" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
          "ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ธรรมที่บุคคลประพฤติดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ นี่เป็นอานิสงส์ในธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ไปสู่ทุคติ"

          แล้วพูดต่ออีกว่า "ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมเหมือนร่มใหญ่ในฤดูฝน ธรรมบาลบุตรของเรามีธรรมคุ้มครองแล้ว กระดูกที่ท่านนำมานี้เป็นกระดูกสัตว์อื่น บุตรของเรายังมีความสุขอยู่"

          อาจารย์ฟังจบแล้วขอขมาพราหมณ์ และกล่าวว่า "พราหมณ์.. ข้าพเจ้าขอขมาโทษท่าน นี่เป็นกระดูกแพะ ข้าพเจ้านำมาเพื่อที่จะทดสอบจิตใจท่าน บุตรชายท่านสบายดี " ว่าแล้วก็อยู่ที่นั่นต่ออีก ๒-๓ วันจึงกลับเมืองตักกสิลา ให้ธรรมบาลศึกษาศิลปวิทยาจบแล้วก็ส่งตัวกลับคืนบ้าน


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ผู้ประสงค์จะให้ตระกูลมั่นคงควรยึดถือปฏิบัติตามธรรมเป็นตัวอย่าง

( ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt21.php )

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่