หลังจากผ่านมาเกือบ 2 ปี ไปฝึกฮาคิมาครับ 555 หลอกๆ ไปมองหาไอเดีย career path แล้วก็สิ่งสำคัญๆในสายงานเพื่อ road to เงินเดือน 1 แสนให้ได้ ตอนนี้ มาถูกทางแล้ว ใกล้แล้ว แต่แค่นั้นก็แลกมากับอาการล้าแบบล้าทั้งกายและใจของจริง พักหรือหาความสุขยังไงก็ไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ แบบหลายๆคอนเม้นที่เคยแนะนำผมไปลองทำแล้ว มันสุขแค่แปปเดียว แค่ตอนที่เราออกไปเที่ยวหละครับ กลับห้องปรุ๊บเหมือนเดิม ต้องซ้ำๆ เหมือนใช้เงินซื้อความสุข ผมเลยเข้าใจว่ามันไม่ใช่แนวแน่ๆ ก็เลยสร้าง comfort zone ใหม่ไปด้วย ตอนนี้ก็พอชิวตัวขึ้นบ้าง
พอไปเห็นโลกข้างนอก ปรากฎว่าความเหนื่อยไม่ได้ไปไหน แถมมีแต่เพิ่มขึ้น รู้สึกว่าตัวเองมีดวงอยู่บ้างมีใบบุญอยู่บ้าง แต่การสร้างอนาคตด้วย 1 แรงกาย โคตรเหนื่อยเลยครับแค่การหาเงินทางเดียวไม่มีทางตอบโจทย์จริงๆถ้าไม่มากพอนะ ดังนั้นผมแนะนำว่าอย่าโสดเลยครับถ้าอนาคตตัวเองยังไม่มี 555 อันนี้พูดจริงๆ
เจอราคาบ้านปีล่าสุดเห็นแล้ว ซื้อคอนโดที่ใหญ่ขึ้นดีกว่ามั้งถ้าจะแพงขนาดนี้ ยังเหลือเงินเกษียรด้วยแบบชัวๆ ราคาแบบขายใครฟระ 6 - 10 ล้าน ถ้าคิดเลขคือ ต้องเงินเดือนสัก 1 แสนแหละถึงจะผ่อนได้ชิว แล้วโปะให้หมดหนี้ไวขึ้น เหมือนจะมีทางเดียว ไม่มีทางอื่น ไปถามเพื่อนที่ทำงานวงเกี่ยวกับพวกการสร้างอสังหาเนี้ยมันบอก หนีไป ราคาคือเหมือนโกรธจริง เป็นราคาที่ตัวโครงการกว่าจะสร้างเสร็จต้องใช้เงินหมุนยังไง คือ นี่หละทำไมราคามันถึงแพง
ฟังแล้วรู้สึกว่า นี่เราต้องยอมรับจริงๆแล้วหรอว่า ลิมิตของเรามันมาได้แค่นี้กันนะ ก็คือเอาแผนเวริคสุดคอนโดพอตัวกับเงินเก็บ พอแล้วเกษียรได้เลยชีวิตจะกินเที่ยวอะไรตอนนี้ก็ได้เลย จะนอกหรือในประเทศได้หมด แต่ถ้าไปต่อ จะมีแต่เสี่ยงสูงเพราะเราไม่รู้ว่าเราจะไหวหรือป่วยหรือเจออะไร เรียกว่า ถ้าฝืนไป สภาพคล่องการเงินจะไม่มั่นคง
ฟังแค่นี้ผมว่าท้อจนเหนื่อยเลย สำหรับการสร้างอนาคตเพื่อตัวเอง แต่ที่แปลกใจคือ หลายคนในกรุงเทพกลับกล้าใช้เงินกันแบบ ว้าว 555 นี่เป็นอีกสิ่งที่สวนทางมากว่า หลังโควิด หลังทุกอย่างปรับตัวใหม่ในชีวิตแบบสไตล์มีโรคติดต่อง่ายๆแบบนี้ คือเขาปล่อยวางเรื่องอนาคตไปแล้วใช่ไหม เข้าใจว่ามันควรจะระวังตัวแต่ไม่เลยไม่รู้สึกมันเป็นแบบนั้น มีแต่คนอยากใช้เงินอยากสวยอยากหล่อ อยากเที่ยวจนเป็นเหมือนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สุดในชีวิต
จริงๆจะพอใจเท่าที่มีก็ได้ แต่รู้สึกว่าการเป็นแค่ลุงที่เหมือนใน การ์ตูน อนิเมะญี่ปุ่น อยู่เงียบๆในอพาร์ทเม้น มันไม่เท่ ถึงจะมีเงิน ก็ไม่อยากหยุดทะเย้อทะยาน ไม่อยากทำตัวดูแก่มาแบบนั่งพอเพียงสายธรรมมะอะไรทำนองนั้น มีแล้วก็อยากมีเยอะขึ้น แต่ก็ใช้เท่าเดิมแหละแค่อยากฟาร์มเงินหนาๆ เฉยๆ
นี่ขนาดว่าโชคดีที่ว่า คือ
เรียนจบแบบหนี้เป็น 0 พ่อแม่ไม่ได้เอาภาระอะไรมาให้ แต่ก็ไม่มีมรดกอะไรให้เลยเช่นกัน แถมย้ายไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ต้องส่งเงินให้พ่อแม่ เพราะที่บ้านเป็นพวกแข่งกันหาเงิน พ่อแม่ก็หาเงินใช้เองเอามาขิงลูกตัวเอง เราเองก็หาเงินไปขิงพ่อแม่ ขิงมาขิงกลับไม่โกง แต่ไม่ยืมเงินกันถ้าไม่เดือดร้อน
มีอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ตามใจผมทุกอย่าง แค่คิดลงมือทำเลือกเอาเลย โดนปล่อยให้ใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวมา 20 ปีแล้ว
เหมือนเกิดมาแล้วรู้สึกเป็น โมโมทาโร่ เกิดมาจากกระบอกไม้ไพ่แล้วก็ไปเลยไปผจญภัยโล้ด
ที่คิดไว้คือตัวเองทำได้
มีคอนโด 1 แห่งแน่ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะลงทุนหรือเซพไว้เพื่อเป็นมรดก ค่อยคิดทำเลมันค่อนข้างดี
ส่วนอีก 1 อย่างต้องเลือกระหว่าง คอนโดหรู หรือ บ้านอีกหลัง ตอนนี้ได้แค่จ้องดูทำเลระหว่าง ปั้นเงินดาวน์และทดลองผ่อนลมเดือนละ 3-4 หมื่นอยู่ ลองมา 2 เดือนแล้วก็รู้สกว่าตึงอยู่นะ
ยอมรับเลยว่าการหาเงินเก่งก็อาจจะไม่เพียงพอต่อการ "เริ่มสร้างอนาคต"
คือวัดจากจุดที่ตัวเองทำได้ หลายๆคนคงไม่ได้วาดฝันเท่าตัวเรา แต่เขาอยู่ได้ยังไงก็แอบสงใส
เด็กจบใหม่ถ้าไม่ได้ใบบุญแบบผมนี่เงินเดือน 2-4 หมื่น ไม่มีทางได้แตะต้องคำว่า บ้านหรือคอนโด ได้ง่ายแน่ๆ
ยิ่งถ้าโสด x2 ไปสิครับเพราะหาเงินคนเดียว
เขามีแผนหรือมีทางออกกันไหม หรือ ไม่ค่อยมีใครเน้นวางแผนกันแล้ว เน้นทำปัจจบันให้อยู่รอดไปเรื่อยๆก่อน
ตอนนี้มีใครมาสุดโต่งแบบผมบ้างไหมนะ อยากฟังครับเพื่อมีไอเดียใหม่ๆ ผมเริ่มลงทุนกับการหาอนาคตตั้งแต่ 24 แล้ว ผ่านมา 5 ปีแล้ว
เป็นคนที่อยากเริ่มต้นชีวิตใน "กรุงเทพ" แต่แลกมากับความโคตร "เหนื่อย"
พอไปเห็นโลกข้างนอก ปรากฎว่าความเหนื่อยไม่ได้ไปไหน แถมมีแต่เพิ่มขึ้น รู้สึกว่าตัวเองมีดวงอยู่บ้างมีใบบุญอยู่บ้าง แต่การสร้างอนาคตด้วย 1 แรงกาย โคตรเหนื่อยเลยครับแค่การหาเงินทางเดียวไม่มีทางตอบโจทย์จริงๆถ้าไม่มากพอนะ ดังนั้นผมแนะนำว่าอย่าโสดเลยครับถ้าอนาคตตัวเองยังไม่มี 555 อันนี้พูดจริงๆ
เจอราคาบ้านปีล่าสุดเห็นแล้ว ซื้อคอนโดที่ใหญ่ขึ้นดีกว่ามั้งถ้าจะแพงขนาดนี้ ยังเหลือเงินเกษียรด้วยแบบชัวๆ ราคาแบบขายใครฟระ 6 - 10 ล้าน ถ้าคิดเลขคือ ต้องเงินเดือนสัก 1 แสนแหละถึงจะผ่อนได้ชิว แล้วโปะให้หมดหนี้ไวขึ้น เหมือนจะมีทางเดียว ไม่มีทางอื่น ไปถามเพื่อนที่ทำงานวงเกี่ยวกับพวกการสร้างอสังหาเนี้ยมันบอก หนีไป ราคาคือเหมือนโกรธจริง เป็นราคาที่ตัวโครงการกว่าจะสร้างเสร็จต้องใช้เงินหมุนยังไง คือ นี่หละทำไมราคามันถึงแพง
ฟังแล้วรู้สึกว่า นี่เราต้องยอมรับจริงๆแล้วหรอว่า ลิมิตของเรามันมาได้แค่นี้กันนะ ก็คือเอาแผนเวริคสุดคอนโดพอตัวกับเงินเก็บ พอแล้วเกษียรได้เลยชีวิตจะกินเที่ยวอะไรตอนนี้ก็ได้เลย จะนอกหรือในประเทศได้หมด แต่ถ้าไปต่อ จะมีแต่เสี่ยงสูงเพราะเราไม่รู้ว่าเราจะไหวหรือป่วยหรือเจออะไร เรียกว่า ถ้าฝืนไป สภาพคล่องการเงินจะไม่มั่นคง
ฟังแค่นี้ผมว่าท้อจนเหนื่อยเลย สำหรับการสร้างอนาคตเพื่อตัวเอง แต่ที่แปลกใจคือ หลายคนในกรุงเทพกลับกล้าใช้เงินกันแบบ ว้าว 555 นี่เป็นอีกสิ่งที่สวนทางมากว่า หลังโควิด หลังทุกอย่างปรับตัวใหม่ในชีวิตแบบสไตล์มีโรคติดต่อง่ายๆแบบนี้ คือเขาปล่อยวางเรื่องอนาคตไปแล้วใช่ไหม เข้าใจว่ามันควรจะระวังตัวแต่ไม่เลยไม่รู้สึกมันเป็นแบบนั้น มีแต่คนอยากใช้เงินอยากสวยอยากหล่อ อยากเที่ยวจนเป็นเหมือนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สุดในชีวิต
จริงๆจะพอใจเท่าที่มีก็ได้ แต่รู้สึกว่าการเป็นแค่ลุงที่เหมือนใน การ์ตูน อนิเมะญี่ปุ่น อยู่เงียบๆในอพาร์ทเม้น มันไม่เท่ ถึงจะมีเงิน ก็ไม่อยากหยุดทะเย้อทะยาน ไม่อยากทำตัวดูแก่มาแบบนั่งพอเพียงสายธรรมมะอะไรทำนองนั้น มีแล้วก็อยากมีเยอะขึ้น แต่ก็ใช้เท่าเดิมแหละแค่อยากฟาร์มเงินหนาๆ เฉยๆ
นี่ขนาดว่าโชคดีที่ว่า คือ
เรียนจบแบบหนี้เป็น 0 พ่อแม่ไม่ได้เอาภาระอะไรมาให้ แต่ก็ไม่มีมรดกอะไรให้เลยเช่นกัน แถมย้ายไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ต้องส่งเงินให้พ่อแม่ เพราะที่บ้านเป็นพวกแข่งกันหาเงิน พ่อแม่ก็หาเงินใช้เองเอามาขิงลูกตัวเอง เราเองก็หาเงินไปขิงพ่อแม่ ขิงมาขิงกลับไม่โกง แต่ไม่ยืมเงินกันถ้าไม่เดือดร้อน
มีอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ตามใจผมทุกอย่าง แค่คิดลงมือทำเลือกเอาเลย โดนปล่อยให้ใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวมา 20 ปีแล้ว
เหมือนเกิดมาแล้วรู้สึกเป็น โมโมทาโร่ เกิดมาจากกระบอกไม้ไพ่แล้วก็ไปเลยไปผจญภัยโล้ด
ที่คิดไว้คือตัวเองทำได้
มีคอนโด 1 แห่งแน่ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะลงทุนหรือเซพไว้เพื่อเป็นมรดก ค่อยคิดทำเลมันค่อนข้างดี
ส่วนอีก 1 อย่างต้องเลือกระหว่าง คอนโดหรู หรือ บ้านอีกหลัง ตอนนี้ได้แค่จ้องดูทำเลระหว่าง ปั้นเงินดาวน์และทดลองผ่อนลมเดือนละ 3-4 หมื่นอยู่ ลองมา 2 เดือนแล้วก็รู้สกว่าตึงอยู่นะ
ยอมรับเลยว่าการหาเงินเก่งก็อาจจะไม่เพียงพอต่อการ "เริ่มสร้างอนาคต"
คือวัดจากจุดที่ตัวเองทำได้ หลายๆคนคงไม่ได้วาดฝันเท่าตัวเรา แต่เขาอยู่ได้ยังไงก็แอบสงใส
เด็กจบใหม่ถ้าไม่ได้ใบบุญแบบผมนี่เงินเดือน 2-4 หมื่น ไม่มีทางได้แตะต้องคำว่า บ้านหรือคอนโด ได้ง่ายแน่ๆ
ยิ่งถ้าโสด x2 ไปสิครับเพราะหาเงินคนเดียว
เขามีแผนหรือมีทางออกกันไหม หรือ ไม่ค่อยมีใครเน้นวางแผนกันแล้ว เน้นทำปัจจบันให้อยู่รอดไปเรื่อยๆก่อน
ตอนนี้มีใครมาสุดโต่งแบบผมบ้างไหมนะ อยากฟังครับเพื่อมีไอเดียใหม่ๆ ผมเริ่มลงทุนกับการหาอนาคตตั้งแต่ 24 แล้ว ผ่านมา 5 ปีแล้ว