Cleopatra

.

.
.

.
ภาพวาด Cleopatra ตามจินตนาการส่วนใหญ่
มีผมสีแดง ใบหน้างดงาม สวมมงกุฏ ปิ่นปักผม
@ Roman Herculaneum Italy
1st century AD
.
.


Cleopatra ขึ้นครองบัลลังก์เมื่ออายุ 17 ปี
และเสียชีวิตเมื่ออายุ 39 ปี เธอพูดได้ 9 ภาษา
เธอรู้จัก/อ่านภาษาอียิปต์โบราณได้
ซึ่งเป็นกรณีเฉพาะในราชวงศ์ปโตเลมี
เธอยังรู้ภาษากรีก โรมัน ปาร์เธียน ฮีบรู มีเดีย
โทรโกลไดทีส ซีเรีย เอธิโอเปีย และ อาหรับ

อียิปต์สามารถผลิต(กระดาษ)ปาปิรุส ได้
มีไว้สำหรับขึดเขียนงานเอกสารต่าง ๆ
แต่กรรมวิธีผลิตแตกต่างจากกระดาษจีน

ด้วยความรู้นี้ หนังสือเหล่านี้ได้เปิดโลกเธอ 
นอกจากเรียนรู้ภาษาแล้ว
เธอยังศึกษาภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์
ดาราศาสตร์ การทูตระหว่างประเทศ
คณิตศาสตร์ การเล่นแร่แปรธาตุ ยา
สัตววิทยา เศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอื่น ๆ
เธอพยายามเข้าถึงความรู้ทั้งหมดในช่วงเวลานั้น

เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องทดลองโบราณ
เธอเขียนงานเกี่ยวกับสมุนไพร/เครื่องสำอาง
น่าเสียดายที่หนังสือทั้งหมดของเธอ
ใน ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย ในปี ค.ศ.391
ถูกพวกคนเลวจุดไฟเผาทิ้งไปเกือบหมด

ในปี ค.ศ.642
กาหลิบมุสลิมสุดโต่ง Caliph Omar
(กาหลิบใช้ชีวิตแบบ 3 in 1
ทั้งตีความศาสนา/ปกครอง
เป็นทั้งฆราวาส ผู้สอนศาสนา ราชา
มีเมียสี่คนตามหลักศาสนา
แต่ไม่นับนางบำเรอ/ทาสกาม
นิยมตั้งฮาเร็มเสพย์สุขแบบ Bird Bird)
ผู้อหังการ์ประกาศแก่ Yaḥyā al-Naḥwī ว่า
" ถ้าหนังสือพวกนี้เทียบเท่ากับ Quran
ก็ไม่จำเป็นต้องมี ให้เผาทิ้งซะ
แต่ถ้าหนังสือพวกนี้ด้อยค่ากว่า Quran
ก็เผาทิ้งทั้งหมดเช่นกัน
เพราะไม่มีหนังสือใดสูงส่งกว่า Quran "

ผลลัพธ์ที่ตามมาศิลปวิทยาการของพวกอาหรับ
ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เคมี
ที่พัฒนาต่อเนื่องจากกรีก/โรมันจึงขาดช่วงไป
มีก็แต่หนังสือบางส่วนที่เล็ดรอดออกไปสู่ยุโรป
การกระทำของกาหลิบขัดแย้งกับคำสอนของ
ท่านนบีมูฮัดหมัด ศาสดาศาสนาอิสลาม
" เจ้าจงไปเรียนรู้ แม้ว่าจะต้องไปถึงเมืองจีน "
ตามแนวคิดวิพากษ์ของนักการศาสนามุสลิม

" ที่ใดที่พวกมันเผาหนังสือได้
ก็ลงเอยด้วยการเผาคนได้เช่นกัน "
Heinrich Heine กวีชาวเยอรมัน
.
.
.

.
Claudius Galen
.
.


Claudius Galen (129 – 216 คริสตศักราช)
นักปรัชญา นายแพทย์ ชาวโรมัน
ผู้วางรากฐานการวิจัย การทดลอง
ทางการแพทย์ที่มีอิทธิพลจนถึงทุกวันนี้
ท่านมีชื่อเสียงได้ศึกษางานของเธอ
และสามารถถอดความสูตรอาหาร
บางอย่างที่คิดขึ้นโดยคลีโอพัตรา

หนึ่งในวิธีการรักษาของเธอ
ซึ่งเธอแนะนำให้ผู้ป่วยของเ
คือ ครีมพิเศษที่สามารถช่วยให้
ผู้ชายหัวล้านได้ผมกลับคืนมา

หนังสือของคลีโอพัตรา
มีเคล็ดลับความงามด้วย
แต่ไม่มีเล่มไหนที่หลงเหลืออยู่จนทุกวันนี้

ราชินีแห่งอียิปต์ยังสนใจ
การรักษาด้วยสมุนไพรเช่นกัน
และด้วยความรู้ด้านภาษาของเธอ
ทำให้เธอสามารถเข้าถึง
แต่หนังสือเธอจำนวนมากที่สูญหายไป
อิทธิพลของเธอที่มีต่อวิทยาศาสตร์
และการแพทย์เป็นที่รู้จักกันดี
ในศตวรรษต้น ๆ ของศาสนาคริสต์

(ยุคที่ยังไม่มีบาทหลวง/สาวกสุดโต่ง
คริสตรังโรมันคาทอลิค นิกายเยซูอิต
ที่บ้าคลั่งออกมาไล่ล่าพ่อมดแม่มดหลายปี

พระสันตปาปาองค์ปัจจุบันก็นิกายนี้
แต่นิกายนี้หายซ่าไปมากแล้ว
ตั้งแต่โดนคำสั่ง Pope องค์หนึ่ง
ให้ยุบไปหลายปีกว่าจะกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง)

Cleopatra เป็นบุคคลที่ไม่เหมือนใคร
ในประวัติศาสตร์สากลอย่างไม่ต้องสงสัย

มีบางคนระบุว่า คลีโอพัตรา มีเชื้อสายคนผิวดำ 
เพราะพวกนูเบีย ยิวผิวดำเคยยึดดินแดนอียิปต์
และซูดาน ที่นี่มีปิรามิดจำนวนมาก เช่นกัน
.
.
ปิรามิดที่ถูกลืมในซูดาน
.

.
.


.
การพบกันของคลีโอพัตรากับซีซาร์
.
.


คลีโอพัตรา แต่งงานกับ ปโตเลมีที่ 13
น้องชายของเธอเป็นครั้งแรก
ตามธรรมเนียมของผู้ปกครองอียิปต์ในตอนนั้น
แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่วุ่นวาย
และกลายเป็นสงครามกลางเมืองในที่สุด
คลีโอพัตราจึงร่วมมือกับ จูเลียส ซีซาร์ 
ซึ่งช่วยให้เธอเอาชนะปโตเลมีที่ 13 
และกลายเป็นผู้ปกครองอียิปต์แต่เพียงผู้เดียว 
และเธอมีลูกชายกับจูเลียส ซีซาร์
ชื่อว่า Caesarion เกิดปี 47 ก่อนคริสตศักราช
.
.

.
Antony กับ Cleopatra (1885)
โดย Lawrence Alma-Tadema
.
.



หลังจากมีการลอบสังหารซีซาร์ ในกรุงโรม 
คลีโอพัตราได้สร้างสัมพันธ์กับ มาร์ก แอนโทนี
หนึ่งในพันธมิตรที่ซีซาร์ไว้วางใจมากที่สุด 
ทั้งคู่ตกหลุมรักกันและมีลูกด้วยกัน 
จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 
แต่การเป็นพันธมิตรและการต่อต้านกรุงโรม 
ก็นำไปสู่ความพินาศของราชวงศ์ปโตเลมี
.
.

.
Augustus of Prima Porta, 1st century
.
.


ทั้งคู่พ่ายแพ้ต่อ Octavian
(ภายหลังรู้จักกันในชื่อจักรพรรดิ Augustus 
ที่แบ่งวันที่ 29-30 กุมภาพันธ์ จำนวน 1 วัน
มาใช้ในเดือนสิงหาคม August
เพราะต้องการเท่าเทียมกับกรกฎาคม July 
ที่มี 31 วันของ จูเลียส ซีซาร์)

ในสมรภูมิที่ Actium เมื่อ 31 ปีก่อนคริสตกาล
ในการรบ Octavian มีชัยชนะเด็ดขาด
ทั้ง Cleopatra และ Mark Antony
ได้ฆ่าตัวตายหลังจากนั้นไม่นาน
เพราะหากถูกจับเป็น จะจับตัวไป
เดินประจานที่กรุงโรม ก่อนประหารชีวิต
จับแสดงละครสัตว์ ต่อสู้กับสัตว์ดุร้าย

ลูกทั้ง 3 คนของคนทั้งคู่ 
ถูกนำไปให้น้องสาวของ Octavian เลี้ยงดู 
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับลูกชาย 2 คนชื่อ 
Alexander Helios กับ Ptolemy Philadelphus 
ส่วนลูกสาวชื่อ Cleopatra Selene
ได้แต่งงานกับ Juba II of Numidia
และเป็นรานึแห่ง Mauretania
.
.

.
Cleopatra Selene
.
.

.

.
งานแกะสลักโรมันโบราณ
รูปของ Cleopatra Selene 
หรืออาจเป็น มารดาของเธอ
Cleopatra VII of Ptolemaic Egypt
@ Archaeological Museum 
of Cherchel, Algeria
.
.



เหตุการณ์เปรียบเทียบกับสยาม/ลาว

หลังจากลาวรบพ่ายแพ้กับ
เจ้าพระยาบดินทร์เดชา
แม่ทัพใหญ่รัชกาลที่ 3
เจ้าอนุวงศ์เสด็จหนีไปเมืองญวน
เหมือนครั้งก่อน แต่หนีไปไม่รอด
เพราะเจ้าน้อยเมืองพวน
ได้แจ้งที่ซ่อนของเจ้าอนุวงศ์ให้ฝ่ายไทยทราบ
ฝ่ายไทยจึงจับเจ้าอนุวงศ์/เชื้อพระวงศ์
ส่งมายังกรุงเทพฯ หลังจากทำลาย
เมืองเวียงจันทน์เสียราบคาบ

เจ้าอนุวงศ์/เชื้อพระวงศ์ถูกจับขัง
ใส่กรงไม้ขนาดใหญ่ให้ชาวบ้านมุงดู
เพื่อประจานที่ท้องสนามหลวง 7-8 วัน
เจ้าอนุวงศ์ก็ป่วยเป็นโรคลงโลหิตพิราลัย
ชันษา 61 ปี (ครองราชย์พ.ศ. 2347-70 รวม 23 ปี) 
เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียงจันทน์
แต่ที่ลาวยกย่องเป็นวีรบุรุษ/มหาราชของชาติ
เพราะทรงเป็นผู้นำปลดแอก
จากการเป็นเมืองขึ้น/ส่งส่วยให้สยาม

แม้ว่าภายหลังลาวจะเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส
เพราะสยามไม่พร้อมจะสู้รบกับฝรั่งเศส
ในช่วงวิกฤติการณ์ ร.ศ.112

พื้นที่ลาวบางส่วนกลับมาเป็นของสยามอีกครั้ง
สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ยุค WWII
แลัวต้องคืนให้กับฝรั่งเศสอีกครั้ง
หลัง WWII สิ้นสุดลง
ต่อมาลาวได้เอกราชในปีพ.ศ. 2496
พร้อมกับความวุ่นวาย/สงครามกลางเมือง
กว่าจะสงบเป็นประเทศลาวในปี พ.ศ. 2518

มีหนังสือ/ตำนานบางฉบับระบุว่า
มีการให้นางกำนัล/เขื้อพระวงศ์เจ้าอนุวงศ์
แสดงรำเซิ้ง/รำกะติ๊บ แสดงการถวายอาหาร
ภายในกรงขังให้ชาวบ้านมุงดูแบบสะใจ
เป็นการหยามเกียรติ/ดูหมิ่นศักดิ์ศรีอย่างแรง

หลังเจ้าอนุวงศ์พิราลัย
ก็จำหน่ายจ่ายแจกนางกำนัล/เชื้อพระวงศ์
ให้กับบรรดาทหารที่ไปรบกับลาว

ส่วนชาวบ้านที่กวาดต้อนมา
ก็ส่งไปแถวกาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี สุพรรณบุรี ชายขอบสยาม

สมเด็จพระสังฆราช ญาณ สังวร
ก็มีเชื้อสายลาวที่กาญจนบุรี
พระองค์เว่า(พูด)ลาวได้ 
แต่เว่าเฉพาะเครือญาติ/คนสนิทเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม ทำไมเจ้าอนุวงศ์ จึงต้องปราชัย

.
.

.
Ptolemy I Soter ที่พิพิธภัณฑ์ Louvre
.
.

ราชวงศ์ปโตเลมี (305 - 30 คริศตศักราช) 
ก่อตั้งโดย Ptolemy l Soter หนึ่งในแม่ทัพ
ของ Alexandre the Great
ลูกศิษย์คนเก่งของ อริสโตเติล
เป็นพวกกรีกแคว้นมาซีโดเนีย 
ที่มีชัยชนะในดินแดนอียิปต์ 
แล้วต่อมา Ptolemy l Soter
ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลที่นี่
จนสืบสันตติวงศ์ยาวนานต่อมา
หลังจากบรรดาแม่ทัพนายกอง
ของ Alexandre ที่ต่างดังแล้วแยกวง
แบ่งเขตแย่งชิงกันปกครองดินแดนต่าง ๆ

.

.
Alexander Mosaic 
House of the Faun, Pompeii
.
.

.
Seleucus นำทัพ Royal Hypaspistai 
ระหว่างการรบที่เปอร์เซียของ Alexander
.
.

ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของภาคอีศานอินเดียในอดีต 
ก็มี Seleucua I Nicator แม่ทัพของ Alexandre
ที่ปกครองดินแดน อิหร่าน อีรัค และเอเซียกลาง ในทุกวันนี้

.
.

.
คนเลี้ยงสัตว์ Chandragupta Maurya
ที่รัฐสภาอินเดีย
.
.


ต่อมาปี 305 ก่อนคริศตศักราช
Seleucua I Nicator ก็ร่วมมือกับพันธมิตร
ราชาแคว้นหนึ่งในอินเดีย
Chandragupta Maurya
หัวหน้าชนเผ่าอารยัน-แขกขาว
ด้วยการแต่งงานระหว่างกัน
แล้วเพื่อนเราก็เผาเรือน
ยึดอำนาจแล้วเปลี่ยนเป็นราชวงศ์โมริยะ
ทำให้มีการแลกเปลี่ยนศาสนา วัฒนธรรม
การค้ากับอินเดีย แล้วกระจายไปที่จีน
เอเซียอาคเนย์  ในเวลาต่อมา

.
.

.
.

พระพุทธรูป ศิลปะคันธาระ 
ที่ได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากกรีก/โรมัน 
จึงมีพระพักตร์คล้ายเทพอพอลโลของกรีก 
มีพระเกศาหยิกสลวย 
ทําจีวรให้เป็นริ้วผ้าธรรมชาติ
ตามแบบประติมากรรมโรมัน
ในสมัยของจักรพรรดิออกุสตุส
(ภาพจากหนังสือ อัฟกานิสถาน แหล่งผลิต
พระพุทธองค์แรกของโลก สนพ. มติชน)

พระพุทธรุปแรกเริ่ม ศิลปะคันธาระ และ
สำนักศึกษาตักศิลา ของชนชั้นสูง
เริ่มโดยอารยัน/แขกขาว
จักรวรรดิ์ Achaemenid/Cyrus เปอร์เซีย กรีก
ตั้งอยู่ในทิศพายัพปากีสถาน
ผสมผสานพวกสายเลือดสีโคลน
ตามนิยาย Harry Porter
เพราะมีการแต่งงานมีบุตร
ระหว่างอารยัน เปอร์เซีย กรีก อินเดีย

.

.
The Dharmarajika Stupa ยุค Mauryan
สถูปศาสนาพุทธใกล้กับสำนักTaxila (2010)
.
.



เรียบเรียง/ที่มา



Chat.GPT, Google Scholar
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่