ปัจจุบันมักพบสินค้าประเภทสายไฟซึ่งมีการวางจำหน่ายตามแหล่งขายสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ตลาดนัด ตลาดคลองถม ตลาดบริเวณชายแดน เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ขายมักอ้างว่า
เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเน้นการนำเสนอราคาที่ถูกเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้การันตีในเรื่องของคุณภาพ และพบว่าส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานบังคับจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จนทำให้ผู้ซื้อหลงเชื่อคำอวดอ้างด้านราคาจนมองข้ามด้านคุณภาพ ดังนั้น ผู้บริโภคควรเลือกซื้อสายไฟที่ได้มาตรฐานที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจากวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพซึ่งเป็นอันตรายต่อทรัพย์สิน หรือร้ายแรงที่สุดอาจลุกลามไปจนถึงอันตรายต่อชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง โดยมีหลักการพิจารณาในการเลือกซื้อสายไฟฟ้า ดังนี้

     ๑. ผลิตจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการด้านคุณภาพ (ISO 9001) ด้านสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) และด้านความปลอดภัย (OHSAS 18001) ซึ่งเป็นเครื่องรับรองว่าบริษัทผู้ผลิตสายไฟฟ้ามีระบบการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ผลิต ทดสอบคุณภาพ จนกระทั่งส่งมอบสินค้าถึงลูกค้า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย

    ๒. มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับสากล เช่น มาตรฐาน มอก., IEC, BS EN, ICEA, AS/NZS ฯลฯ

    ๓. วัสดุที่ใช้ทำต้องมีความเหนียว แข็งแรง และยืดหยุ่น ไม่เลือกซื้อสายไฟที่ฉนวนและเปลือกนิ่ม
มากเกินไปจนสามารถใช้มือฉีกขาดได้โดยง่าย ซึ่งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน หรืออาจชำรุดจนเกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ไฟรั่ว หรือเกิดการลัดวงจรขึ้นได้
     ๔. เลือกซื้อสินค้าที่มีการจัดทำฉลากสินค้าถูกต้อง โดยระบุชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้า
ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ผลิตหรือของผู้นำเข้ามาเพื่อขาย สถานที่ผลิตหรือสถานที่ประกอบธุรกิจ ในกรณีที่เป็นสินค้านำเข้ามาให้ระบุชื่อประเทศที่ผลิต ขนาด วิธีใช้ ข้อแนะนำในการใช้ คำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต และราคา

    ๕. มีการออกใบเสร็จรับเงินโดยระบุชื่อผู้ผลิตและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตที่ชัดเจน

    ๖. ไม่ควรเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูก

      หากผู้บริโภคพบสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน สามารถแจ้งไปที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม เว็บไซต์ https://www.tisi.go.th/หรือโทร ๐๒-๔๓๐ ๖๘๑๕