“ชลน่าน” ไม่สน ส.ว. มั่นใจกวาด ส.ส.กว่า 310 เสียง จัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
https://www.matichon.co.th/clips/news_3864266
 
 
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่สน ส.ว. มั่นใจกวาดส.ส.ได้มากกว่า 310 คน เป็นหมุดหมายที่สอง หลังจากหมุดหมายแรกตั้งเป้าคว้าส.ส.มากกว่า250 คน เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยทำได้อย่างแน่นอน   ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

 

---

‘ธิดา-หมอเหวง’ บุกกระทรวงยุติธรรม จี้ดีเอสไอเผยข้อมูลคดีปราบคนเสื้อแดงปี 53
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7550353

‘ธิดา-หมอเหวง’ บุกก.ยุติธรรม จี้ดีเอสไอเผยข้อมูลคดีปราบคนเสื้อแดงปี 53 ต้องชี้แจงมาว่าได้ทำอะไรไปบ้าง 13 ปีมาแล้วผลเป็นอย่างไร
 
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.66 ที่กระทรวงยุติธรรม คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53) นำโดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตรักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำนปช. รวมตัวกันเพื่อเข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อขอข้อมูลและความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีและการดำเนินการต่างๆ ของดีเอสไอ ในกรณีการปราบปรามประชาชนปี 2553 และข้อเรียกร้อง เพื่อปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรม
 
นางธิดา กล่าวว่า ถึงสิ่งที่จะนำเสนอต่อกระทรวงยุติธรรม ประเด็นแรก คือ การเสียชีวิตของประชาชนปี 2553 ในฐานะที่เป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอต้องรับผิดชอบและชี้แจงมาว่าได้ทำอะไรไปบ้าง 13 ปีมาแล้วผลเป็นอย่างไร เพื่อจะได้มาวิเคราะห์ว่าทำถูกต้องหรือไม่ ถูกแทรกแซงหรือมีปัญหาอยู่ที่ไหน ส่วนประเด็นที่ 2 คือ การที่ประชาชนจำนวนมากติดคุกฟรี สำหรับประเด็นที่ 3 การเรียกร้องให้แยกสถานที่คุมขังของนักโทษคดีการเมืองกับอาชญากรรมอื่น และประเด็นสุดท้าย คือ เรียกร้องสิทธิการประกันตัวตามกติกาสากล
 
“เป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมที่ต้องตรวจสอบว่าสิ่งที่ทำไปแล้วถูกผิดอย่างไร เป็นนิติธรรมหรือไม่ ประเด็นที่สองคือ คนเสื้อแดงและประชาชนจำนวนมากติดคุกฟรี ไม่ให้ประกันตัวจนกระทั่งมีการยกฟ้องและไม่มีการเยียวยา โดยที่ศาลไม่ได้บอกว่าไม่มีความผิดเพียงแต่ว่าหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิด ประเด็นที่สามคือ การแยกสถานที่คุมขังคดีการเมืองออกจากคดีอาชญากรรม เราไม่ได้หมายความว่าปัญญาชนหรือคนที่มีความคิดต่างทางการเมืองจะต้องพิเศษ แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในคุกต้องดีกว่านี้ และประเด็นที่สี่ เรื่องการให้สิทธิการประกันตัว” นางธิดา กล่าว
  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณหน้ากระทรวงยุติธรรมมีประชาชนเสื้อแดงถือป้ายข้อความ อาทิ ‘วีรชน เมษา พฤษภา 53 ต้องไม่ตายเปล่า’ และถือภาพของผู้เสียชีวิตในการการปราบปรามประชาชน ปี 2553
 

---

ธนาธรลุยพื้นที่ลำปาง พบ อปท. และชาวบ้าน อ.แม่ทะ ช่วยหาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต พรรคก้าวไกล
https://www.matichon.co.th/politics/news_3864513

ธนาธรลุยพื้นที่ลำปาง พบ อปท. และชาวบ้าน อ.แม่ทะ ช่วยหาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต พรรคก้าวไกล
 
วันที่ 9 มีนาคม 2566 เวลา 14.30 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ในโอกาสที่เดินสายออกช่วยหาเสียงในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ได้เดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อช่วยว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปาง หาเสียงในพื้นที่
 
โดย นายธนาธร พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังพื้นที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 3 โดยมี นายชลธานี เชื้อน้อย หรือ “เพียว” ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 3 พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้สมัครคนเดิมในเขตนี้ ให้การต้อนรับ และยังมี นางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ หรือ “มิ้ง” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 4 พรรคก้าวไกล มาร่วมคณะต้อนรับด้วย
 
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้มายังเทศบาลตำบลป่าตันนาครัว อ.แม่ทะ เพื่อพบกับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ เพื่อหารือ และพูดคุยกันในเรื่องแหล่งน้ำ ปัญหาน้ำประปา และร่วมพูดคุยกันในเรื่อง อปท.
 
จากนั้นมีกำหนดปราศรัยหาเสียงให้กับพรรคก้าวไกล ณ วัดบอมหลวง ต.บ้านบอม อ.แม่ทะ ในหัวข้อ “กาก้าวไกล ประเทศไทย ไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” ซึ่งในจุดนี้ จะมีประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมพูดคุยกันในประเด็นสาธารณะต่างๆ และกิจกรรมปิดท้าย จะเดินทางไปยังตลาดน้ำโท้ง บ้านน้ำโท้ง ต.นาครัว อ.แม่ทะ เพื่อออกพบปะพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาตลาดสดยามเย็น
  

---

 
หอการค้าไทยกังวลเงินดอลลาร์แข็ง ดอกเบี้ยเพิ่มฉุดบาทอ่อน ศก.เสี่ยงภาวะถดถอย
https://siamrath.co.th/n/429238

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า แม้ว่าไทยจะคาดหวังให้การท่องเที่ยวพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวจากการที่ส่งออกหดตัว แต่ภาคการท่องเที่ยว เกษตร และการลงทุน ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 เกือบทุกภูมิภาคโดยนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเริ่มกลับเข้ามา การท่องเที่ยวดูโดดเด่นขึ้น แต่นักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง ร้อยละ 60-80 จากช่วงก่อนโควิด-19 ตามหลักแล้วการท่องเที่ยวควรเติบโตขึ้น แต่ซัพพลายเชนหายไปในช่วงโควิด สายการบินมีการปลดพนักงาน ทำให้ประสบปัญหาแรงงานไม่เพียงพอ จำนวนเที่ยวบินมีน้อย และตั๋วมีราคาแพง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ยังไม่สามารถเข้ามาได้
 
อย่างไรก็ดี คาดว่าครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาสที่ 4/66 นักท่องเที่ยวน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเชื่อว่าเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 30 ล้านคน ยังเป็นไปได้ ธุรกิจน่าจะปรับตัวเรื่องการบินได้ทัน ในส่วนของซัพพลายเชนในประเทศทั้งโรงแรม และภัตตาคาร ร้านอาหาร ยังสามารถปรับตัวได้ไม่น่ากังวล ดังนั้นการท่องเที่ยวช่วงไตรมาส 1/66 ซึ่งเพิ่งมีการเปิดประเทศ จึงทำให้การท่องเที่ยวยังไม่โดดเด่นมาก ขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มลดลง
ส่วนท่าทีของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่า อาจมีการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดคาดว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงประมาณกลางปี 2566 และมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นมาก และยาวนานกว่าเดิม โดยจากเดิมตลาดมองว่าเพดานสูงสุดของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐจะอยู่ที่ร้อยละ 4.5 หรือใกล้เคียงร้อยละ 5 แต่ขณะนี้ตลาดเริ่มมองว่าอาจจะถึงร้อยละ 5-6 ดังนั้นจึงเริ่มมีการคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์จะแข็งค่า เพราะดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า และการขึ้นดอกเบี้ย อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกมีโอกาสกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
 
สำหรับปัจจัยบวก ได้แก่ 1.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 66 ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 66 ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.66 ด้วยวงเงินสูงถึง 40,000 บาท, มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 15% และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เป็นต้น 2.นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมากขึ้น เนื่องจากประเทศจีนมีการเปิดประเทศ ซึ่งเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของชาวจีนคือ ประเทศไทย 3.ราคาน้ำมันขายปลีกแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 (E10) ในประเทศปรับตัวลดลงประมาณ 0.30 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 36.08 และ 36.35 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศ ปรับตัวลดลงประมาณ 1 บาทต่อลิตร โดยอยู่ที่ระดับ 33.94 บาทต่อลิตร 4. ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับ 33.225 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นเดือน ม.ค. 66 เป็น 34.008 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นเดือน ก.พ.66 และ 5.ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น หรือทรงตัวในระดับที่ดี โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้น และมีกำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น
ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ 1.เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ประกอบกับธนาคารกลางปรับขึ้นดอกเบี้ยไปสู่ระดับที่สูงขึ้น 2.สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เผยตัวเลข GDP ของไทยในปี 2565 ซึ่งขยายตัวได้เพียง 2.6% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ประเมินเอาไว้ว่าจะขยายตัวได้ถึง 3.2% ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 66 ได้ปรับประมาณการเติบโตลงเหลือแค่ขยายตัวได้ 2.7-3.7% และ 3.การส่งออกของไทยเดือน ม.ค. 66 หดตัว 4.53% มูลค่าอยู่ที่ 20,249.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 5.52% มีมูลค่าอยู่ที่ 24,899.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 4,649.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 4.SET Index เดือน ก.พ.66 ปรับตัวลดลง 49.11 จุด จาก 1,671.46 ณ สิ้นเดือน ม.ค. 65 เป็น 1,622.35 ณ สิ้นเดือน ก.พ.66