ความคิดถึงที่เจ็บปวด คือคิดถึงใครสักคนที่เขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้แล้ว ทุกๆค่ำคืนยังคงร้องไห้เพราะคิดถึงเขา

ย้อนเวลาไปสัก7ปีก่อน เราเคยได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนต่างชาติต่างศาสนาและอายุน้อยกว่าเราหลายปี เราขึ้นเครื่องเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเที่ยวทะเลที่จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ตอนอยู่บนเครื่อง เราได้นั่งใกล้กับผู้ชายคนหนึ่งเขามาจากยุโรป มาเที่ยวกับพ่อแม่ ช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องเราก็ได้แต่แอบมองเขาบ่อยๆ เพราะเขาหล่อน่ารักมาก แต่ก็ไม่ได้คุยกัน ลงจากเครื่องก็มารอรับกระเป๋า เขาก็หันหน้ามาแล้วโบกมือบ๊ายบายและยิ้มให้เรา ตอนนั้นหัวใจมันก็เต้นแรง แต่ก็คิดในใจ เราคงไม่ได้เจอกันอีก เราเช่ารถขับไปหาเพื่อนที่เขาหลักไปพักและเที่ยวกับเพื่อนๆ ผ่านไป2วัน เราก็ได้เจอหนุ่มน้อยคนนั้น  ดีใจมากที่ได้เจออีกครั้ง เราเป็นฝ่ายเดินไปทักทาย ถามเขาว่าคุณจำฉันได้ไหม เขาบอกจำได้ ยินดีที่ได้เจออีกครั้ง  เราก็ชวนเขาเดินเล่นและก็ถามชื่อ มาจากไหน มากี่วัน เขาก็บอกว่าจะอยู่ที่นี่อีก4คืน และจะกลับยุโรปกับพ่อแม่ เขาเพิ่งเคยมาไทยครั้งแรก ช่วงระยะเวลา4วันเราก็นัดเจอกันทุกเย็น ไปเดินเล่นคุยกัน2-3ชั่วโมง   เขาเล่าว่าเขาเป็นนักแข่งรถ เขาชอบขับบิ๊กไบค์ พ่อและแม่ของเขาสนับสนุนในด้านนี้ เขากำลังมีผลงานที่ดีระดับประเทศ เขามีความฝันที่จะไปให้ถึงระดับโลก สักวันเขาจะทำให้ได้ วันสุดท้ายเรานั่งเครื่องมาพร้อมกับเขาและรอส่งเขาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะจากกันเขาขอกอดเราก่อนลา เป็นครั้งแรกที่เราโอบกอดเขาและเขาโอบกอดเรา เขาบอกเราว่าปีหน้าจะกลับมาเที่ยวไทยอีก เราบอกลากัน จากนั้นมาเราก็ติดต่อกันผ่านInstagram เรารู้สึกชอบและหลงไหลในตัวตนของเขา ยิ่งเวลาดูคลิปดูภาพที่เขาอยู่ในสนามแข่งรถ ชุดที่ใส่มันดูเท่ห์ดูดีดูหล่อไปหมด เราติดต่อกันมาได้8เดือน เรา2คนนัดเจอกันที่สนามแข่งรถSepangประเทศมาเลเซีย เขาเดินทางมากับพ่อของเขา พ่อของเขาทำงานในทีมรถแข่ง เราให้พี่สาวไปเป็นเพื่อน และนัดเจอกันในสนามคุยกันเจอกัน4ชั่วโมงเราก็ต้องกลับไทย เพราะเราทิ้งร้านทิ้งงานหลายวันไม่ได้ เราคุยกันมา1ปีกว่าๆ เขาเริ่มมีผลงานแข่งรถที่ดี เขาทุ่มเทเวลาให้กับการซ้อมและการแข่งขัน ส่วนเราก็ยุ่งกับธุรกิจการงานที่กำลังรุ่งเรือง เราคุยกันน้อยลง จนไม่ได้คุยกันอีกเลย อายุเราเริ่มเยอะใกล้จะเข้าเลข3 ทางบ้านก็ต้องการให้เรามีคู่ และในที่สุดเราก็แต่งงานกับคนที่ครอบครัวคิดว่าเหมาะสม สามีเป็นลูกครึ่งไทยจีนผสมอาหรับอายุน้อยกว่าเราหลายปี อยู่กันจนมีลูก2คนและธุรกิจเริ่มประสบปัญหาเพราะโควิดระบาด เราและสามีหย่าร้างแยกทางกันเพราะเหตุผลหลายๆอย่าง ลูกทั้ง2อยู่กับสามี ส่วนเรารับไว้แต่เพียงหนี้สิน ในวันที่เรากำลังสิ้นหวังกำลังทุกข์กำลังท้อ ช่วงเวลาตี4ตามเวลาประเทศไทย หลานของเราที่กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ โทรมาบอกเราว่าหนุ่มนักแข่งรถที่เราเคยคุยด้วยเสียชีวิตแล้วนะ เขาเกิดอุบัติเหตุรุนแรงในการแข่งขัน อาการสาหัสเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากที่ฟังหลานเล่า โลกมันเหมือนหยุดหมุน เรามึนงง เราร้องห่มร้องไห้ มันเสียใจแบบที่ไม่เคยเสียใจมาก่อน เรานอนร้องไห้จนถึง9โมงเช้า แม่มาเคาะประตู เราก็ไม่เปิดไม่อยากให้แม่รู้ว่าเราเป็นอะไรถึงร้องไห้ เราบอกแม่ว่าเราไม่สบายขอนอนก่อน แม่บอกว่า พ่อของลูกตายแล้วนะป้าโทรมาบอก (พ่อกับแม่เราแยกทางกันตั้งแต่เราอายุ7ปี)พ่อขับรถพุ่งตกน้ำลึก5เมตรตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้เขาเจอศพแล้ว กำลังเอาศพไปโรงพยาบาล เราร้องไห้เหมือนคนเป็นบ้า เหมือนคนสติแตก มันเจ็บปวดใจ ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร เราสูญเสีย2คนทีรักไปในวันเดียวกันและเวลาใกล้เคียงกัน เราเดินทางไปงานศพพ่อท่ามกลางความน่ากลัวของโรคโควิด วันที่เผาศพพ่อเสร็จ เรากลับไปนอนพักที่บ้านพี่สะใภ้ กึ่งหลับกึ่งตื่นได้กลิ่นเหม็นเน่า และฝันว่าพ่อมาลา พ่อบอกว่าพ่อแค่หลับ และนอนหลับไปตลอดชีวิต พ่อมีความสุขมาก อย่าทุกข์อย่าร้องหาพ่อนะ พ่ออยู่ในที่ที่สบายแล้ว เราสะดุ้งตื่นและไม่รู้สึกเครียดเรื่องที่พ่อเสียอีกเลย เราลืมเรื่องหนุ่มนักแข่งไปเลยเพราะเรายังคิดแต่เรื่องของพ่อ จนเวลาผ่านไป2สัปดาห์ พ่อมาเข้าฝันบอกว่าพ่อมีความสุขดี อย่าทุกข์ใจเพราะพ่อจากไป พ่อไม่ได้มาหาอีกแล้ว เราจะไม่เจอกันอีกแล้ว จากนั้นพ่อก็เดินหายไปกับหมอกควัน เราก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ ทำใจเรื่องพ่อได้แล้ว จนกระทั่งเราทำความสะอาดบ้าน จะย้ายของออกจากห้องเก็บของไปไว้บ้านแม่เพราะเราต้องเดินทางไปภาคใต้ เพื่อจะไปเริ่มต้นทำงานใหม่ เราเปิดถุงไปเจอรองเท้านักรถของหนุ่มคนนั้น ที่เขาเคยให้ไว้เมื่อครั้งที่เราเจอกันครั้งสุดท้ายที่มาเลเซีย จากวันนั้นมา แม้มันจะผ่านมานานแล้ว เรายังรู้สึกคิดถึงรู้สึกเศร้าใจรู้สึกเสียใจ รู้สึกอยากกอดอยากเจอเขา เรากลับไปเปิดดูinstagram เปิดดูรูปเก่าๆของเขา เปิดอ่านข้อความที่เราเคยคุยกัน เราส่งข้อความหาเขาเกือบทุกคืน เราบอกเรื่องราวต่างๆที่เราเจอ เราบอกคิดถึงเขาเสมอ แต่มันน่าเศร้าใจ เราส่งๆไปเขาไม่รับรู้อีกแล้ว เราต้องยอมรับความจริงว่าชีวิตนี้เราไม่มีวันได้พบเจอกันแล้ว เราใช้ชีวิตไปวันๆ ตั้งใจทำงานตั้งใจเก็บเงิน ความหวังของเราแค่ต้องการเดินทางไปยุโรป เราแค่ต้องการที่จะมอบช่อดอกไม้ที่หน้าหลุมฝังศพของเขาเท่านั้น เราติดต่อหาพ่อแม่เขา และทางครอบครัวเขายินดีต้อนรับถ้าเราจะไปหาลูกชายของเขาที่หลุมฝังศพ. เมื่อถึงเวลานั้นเราคงจะหลุดพ้นจากวังวลแห่งความคิดถึง แม้ว่าปัจจุบันเราจะมีคนคบคนคุยคนคอยให้กำลังใจ แต่เราไม่สามารถลบลืมผู้ชายคนนั้นได้เลย เรายังคงคิดถึงเขาทุกค่ำคืนและอธิษฐานในใจ ไม่ว่าเขาจะอยู่ไหน ขอให้ชีวิตเขามีแต่ความสุข หากชาติหน้ามีจริงเราคงได้พบกันอีก😭😭ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาคงกำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีอนาคตที่สดใสอย่างที่เขาใฝ่ฝัน

เราจะทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากความคิดถึงนี้ได้ เราคิดถึงเขา ร้องไห้ถึงเขาเกือบทุกคืน  มีใครเคยเป็นไหม อีกนานแค่ไหนถึงจะหยุดคิดหยุดร้องได้ เราเป็นแค่ตอนกลางคืน 2ปีแล้วตั้งแต่วันที่เขาเสียชีวิต ไม่มีคืนไหนไม่คิดถึงเขา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่