ขอนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้าครับ.
ขอบคุณ :การ์ดภาพสวยๆ และข้อมูลสรุป จาก JMC Johannessburg Meditation Center
......................................
วันมาฆบูชา "วันมหาสังฆสมาคม" เป็นวันมหัศจรรย์และสำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนา หากย้อนเวลากลับไปกว่า 2,600 ปี ในวันเพ็ญเดือน 3 มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้น 4 ประการในวันนั้น ดังเรื่องราวที่นำมาแสดงในวันนี้
☀1. “วันมาฆบูชา” ประวัติและความสำคัญ
วันมาฆบูชานับว่าเป็น 1 ในวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา คำว่า มาฆบูชา มาจากภาษาบาลีว่า มาฆปูรณมีปูชา แปลเป็นภาษาไทยว่า การบูชาในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งก็ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส (เดือนแปดสองหน) ปีนั้นก็จะเลื่อนไปเป็นวันเพ็ญเดือน 4 แทน
วันมาฆบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นหลักการทางพระพุทธศาสนา แก่ภิกษุสงฆ์ ณ เวฬุวนาราม เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ในวันนั้นได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นเรียกว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" แปลว่า การประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 ได้แก่
🌷1.วันนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ วันเพ็ญเดือนสาม
🌷2.พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 1,250 องค์ มาประชุมกัน ณ เวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แห่งแคว้นมคธ โดยมิได้นัดหมายกันทางวาจา
🌷3.พระภิกษุสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันตขีณาสพ ที่สำเร็จอภิญญา 6 ทั้งสิ้น
อภิญญา 6 ได้แก่
1. อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้
2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ อ่านใจคนได้ รู้วาระจิตคนอื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสสติระลึกชาติได้
5. ทิพพจักษุ มีตาทิพย์
6. อาสาวักขยญาณ ทำอาสวะกิเลสให้สิ้นไปได้
🌷4.พระภิกษุสงฆ์ 1,250 รูปนี้ล้วนบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงประทานการบวชให้ด้วยพระองค์เอง
พระอรหันต์จำนวน 1,250 รูป ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ
กลุ่มที่ 1 คณะพระภิกษุอดีตชฏิล 3 พี่น้อง มีท่านอุรุเวลกัสสปะเป็นหัวหน้า และบริวารทั้งหมด 1,000 รูป
กลุ่มที่ 2 คณะที่เป็นบริวารของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ มีจำนวน 250 รูป
รวมพระอรหันตสาวกที่เข้าร่วมประชุมเป็น 1,250 รูป
ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 4 ประการนี้ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน จึงทำให้เป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งในสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันมีการประชุมลักษณะนี้เพียงครั้งเดียวในยุคสมัยของพระองค์
แต่การประชุมมหาสันนิบาตนั้น ในยุคของพระพุทธเจ้าบางพระองค์ มีการประชุมมากกว่า 1 ครั้ง ดังเช่น ในสมัยของพระปทุมมุตตรพุทธเจ้า ได้ทรงประชุมสาวกสันนิบาตถึง 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 มีพระอรหันตสาวก 100,000 โกฏิ
ครั้งที่ 2 มีจำนวน 90,000 โกฏิ
ครั้งที่ 3 มีจำนวน 80,000 โกฏิ
ซึ่งแต่ละครั้งก็จะทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งมีเนื้อหาสาระเหมือนที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงประทานไว้ทุกประการ
☀️2.สาระสำคัญของโอวาทปาติโมกข์ หลักธรรมในวันมาฆบูชา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ คือหลักคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานในวันมาฆบูชา ประกอบด้วย
หลักการ 3, อุดมการณ์ 4, และวิธีการ 6 ประการ ดังนี้:
🌻หลักการ คือ หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องมี 3 ประการ ได้แก่
1. การไม่ทำบาปทั้งปวง
2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม
3. การทำจิตให้ผ่องใส
🌻อุดมการณ์ คือ เป้าหมายสูงสุดในการดำเนินชีวิต มี 4 ประการ ได้แก่
1. อดทน
2. ไม่เบียดเบียน
3. ความสงบกาย, วาจาและใจ
4. นิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุด
🌻วิธีการ คือ แนวทางปฏิบัติฝึกหัดขัดเกลาตนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนามี 6 ประการ คือ
1. ไม่ไปว่าร้ายกัน
2. ไม่ล้างผลาญกัน
3. สำรวมในพระปาติโมกข์
4. ต้องรู้จักประมาณในการกิน การใช้
5. ที่นั่งที่นอนในที่สงบ
6. เพียรในการทำใจหยุดนิ่งอยู่เสมอ มุ่งหลุดพ้นจากกิเลส
โอวาทปาติโมกข์ทั้ง 3 ส่วนนี้ เป็นนโยบายในการเผยแผ่ของพระพุทธศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทานให้แก่พระอรหันต์ชุดแรกที่ได้ออกไปประกาศพระศาสนาในโอกาสที่ได้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้ถือเป็นหลักการ อุดมการณ์และวิธีการปฏิบัติในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เป็นทิศทางเดียวกัน
☀️ 3.สรุป: โอวาทปาติโมกข์ คือ หัวใจพระพุทธศาสนา
เนื่องมาจากเมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของปีถัดมานับจากวันตรัสรู้ พระสงฆ์สาวก 1,250 รูป ที่เผยแผ่พระศาสนา อยู่ในที่ต่างๆได้เดินทางกลับมาประชุมกัน ณ เวฬุวนาราม โดยมิได้นัดหมาย ในวันนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ หลักธรรมซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา โดยทรงสอนพระอรหันต์ที่มาประชุมพร้อมกันและวางนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นเบื้องต้น โดยให้พุทธบริษัท 4 ให้ละเว้นความชั่ว, ให้ทำความดี และทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส ซึ่งชาวพุทธและชาวโลกทั้งหลายได้ยอมรับตรงกันเป็นเอกฉันท์ว่า หากทุกทวีป ทุกประเทศ ทุกรัฐ ทุกเมืองและทุกๆ คนในโลกประพฤติปฏิบัติตามนโยบายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้จะส่งผลให้มวลมนุษยชาติมีความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมได้อย่างมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
วันนี้จึงนับได้ว่าเป็นวันมหัศจรรย์ของชาวโลกและเป็นวันที่สำคัญที่สุดอีกวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา เรียกว่า “วันมาฆบูชา”
🌷เมื่อทุกท่านได้ศึกษาเรียนรู้หรือทบทวนความหมายและความสำคัญของวันมาฆบูชาโดยสรุปแล้ว ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญทุกท่านทั่วโลกร่วมกันปฏิบัติเป็นพุทธบูชาด้วยการ ทำทาน รักษาศีล สวดมนต์และเจริญภาวนา พร้อมจุดโคมประทีปเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ในวันมาฆบูชาโดยพร้อมเพรียงกันครับ.
🔰ที่มา:
1. มหาปทานสูตร พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม 2 ภาค 1
2. เวบไซต์กัลยาณมิตร, เวบไซต์ dmc.tv, และบทความธรรมะต่างๆ
ขอบคุณ : การ์ดภาพสวยๆ และบทความ จาก JMC Johannessburg Meditation Center
"โอวาทปาติโมกข์" คือ วิถีแห่งชาวพุทธ ที่พระพุทธองค์ทรงประธาน ให้พุทธบริษัท ๔ มากว่า ๒,๖๐๐ กว่าปีแล้ว
ขอนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้าครับ.
ขอบคุณ :การ์ดภาพสวยๆ และข้อมูลสรุป จาก JMC Johannessburg Meditation Center
......................................
วันมาฆบูชา "วันมหาสังฆสมาคม" เป็นวันมหัศจรรย์และสำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนา หากย้อนเวลากลับไปกว่า 2,600 ปี ในวันเพ็ญเดือน 3 มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้น 4 ประการในวันนั้น ดังเรื่องราวที่นำมาแสดงในวันนี้
☀1. “วันมาฆบูชา” ประวัติและความสำคัญ
วันมาฆบูชานับว่าเป็น 1 ในวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา คำว่า มาฆบูชา มาจากภาษาบาลีว่า มาฆปูรณมีปูชา แปลเป็นภาษาไทยว่า การบูชาในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งก็ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส (เดือนแปดสองหน) ปีนั้นก็จะเลื่อนไปเป็นวันเพ็ญเดือน 4 แทน
วันมาฆบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นหลักการทางพระพุทธศาสนา แก่ภิกษุสงฆ์ ณ เวฬุวนาราม เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ในวันนั้นได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นเรียกว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" แปลว่า การประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 ได้แก่
🌷1.วันนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ วันเพ็ญเดือนสาม
🌷2.พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 1,250 องค์ มาประชุมกัน ณ เวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แห่งแคว้นมคธ โดยมิได้นัดหมายกันทางวาจา
🌷3.พระภิกษุสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันตขีณาสพ ที่สำเร็จอภิญญา 6 ทั้งสิ้น
อภิญญา 6 ได้แก่
1. อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้
2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ อ่านใจคนได้ รู้วาระจิตคนอื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสสติระลึกชาติได้
5. ทิพพจักษุ มีตาทิพย์
6. อาสาวักขยญาณ ทำอาสวะกิเลสให้สิ้นไปได้
🌷4.พระภิกษุสงฆ์ 1,250 รูปนี้ล้วนบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงประทานการบวชให้ด้วยพระองค์เอง
พระอรหันต์จำนวน 1,250 รูป ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ
กลุ่มที่ 1 คณะพระภิกษุอดีตชฏิล 3 พี่น้อง มีท่านอุรุเวลกัสสปะเป็นหัวหน้า และบริวารทั้งหมด 1,000 รูป
กลุ่มที่ 2 คณะที่เป็นบริวารของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ มีจำนวน 250 รูป
รวมพระอรหันตสาวกที่เข้าร่วมประชุมเป็น 1,250 รูป
ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 4 ประการนี้ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน จึงทำให้เป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งในสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันมีการประชุมลักษณะนี้เพียงครั้งเดียวในยุคสมัยของพระองค์
แต่การประชุมมหาสันนิบาตนั้น ในยุคของพระพุทธเจ้าบางพระองค์ มีการประชุมมากกว่า 1 ครั้ง ดังเช่น ในสมัยของพระปทุมมุตตรพุทธเจ้า ได้ทรงประชุมสาวกสันนิบาตถึง 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 มีพระอรหันตสาวก 100,000 โกฏิ
ครั้งที่ 2 มีจำนวน 90,000 โกฏิ
ครั้งที่ 3 มีจำนวน 80,000 โกฏิ
ซึ่งแต่ละครั้งก็จะทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งมีเนื้อหาสาระเหมือนที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงประทานไว้ทุกประการ
☀️2.สาระสำคัญของโอวาทปาติโมกข์ หลักธรรมในวันมาฆบูชา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ คือหลักคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานในวันมาฆบูชา ประกอบด้วย
หลักการ 3, อุดมการณ์ 4, และวิธีการ 6 ประการ ดังนี้:
🌻หลักการ คือ หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องมี 3 ประการ ได้แก่
1. การไม่ทำบาปทั้งปวง
2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม
3. การทำจิตให้ผ่องใส
🌻อุดมการณ์ คือ เป้าหมายสูงสุดในการดำเนินชีวิต มี 4 ประการ ได้แก่
1. อดทน
2. ไม่เบียดเบียน
3. ความสงบกาย, วาจาและใจ
4. นิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุด
🌻วิธีการ คือ แนวทางปฏิบัติฝึกหัดขัดเกลาตนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนามี 6 ประการ คือ
1. ไม่ไปว่าร้ายกัน
2. ไม่ล้างผลาญกัน
3. สำรวมในพระปาติโมกข์
4. ต้องรู้จักประมาณในการกิน การใช้
5. ที่นั่งที่นอนในที่สงบ
6. เพียรในการทำใจหยุดนิ่งอยู่เสมอ มุ่งหลุดพ้นจากกิเลส
โอวาทปาติโมกข์ทั้ง 3 ส่วนนี้ เป็นนโยบายในการเผยแผ่ของพระพุทธศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทานให้แก่พระอรหันต์ชุดแรกที่ได้ออกไปประกาศพระศาสนาในโอกาสที่ได้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้ถือเป็นหลักการ อุดมการณ์และวิธีการปฏิบัติในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เป็นทิศทางเดียวกัน
☀️ 3.สรุป: โอวาทปาติโมกข์ คือ หัวใจพระพุทธศาสนา
เนื่องมาจากเมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของปีถัดมานับจากวันตรัสรู้ พระสงฆ์สาวก 1,250 รูป ที่เผยแผ่พระศาสนา อยู่ในที่ต่างๆได้เดินทางกลับมาประชุมกัน ณ เวฬุวนาราม โดยมิได้นัดหมาย ในวันนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ หลักธรรมซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา โดยทรงสอนพระอรหันต์ที่มาประชุมพร้อมกันและวางนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นเบื้องต้น โดยให้พุทธบริษัท 4 ให้ละเว้นความชั่ว, ให้ทำความดี และทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส ซึ่งชาวพุทธและชาวโลกทั้งหลายได้ยอมรับตรงกันเป็นเอกฉันท์ว่า หากทุกทวีป ทุกประเทศ ทุกรัฐ ทุกเมืองและทุกๆ คนในโลกประพฤติปฏิบัติตามนโยบายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้จะส่งผลให้มวลมนุษยชาติมีความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมได้อย่างมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
วันนี้จึงนับได้ว่าเป็นวันมหัศจรรย์ของชาวโลกและเป็นวันที่สำคัญที่สุดอีกวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา เรียกว่า “วันมาฆบูชา”
🌷เมื่อทุกท่านได้ศึกษาเรียนรู้หรือทบทวนความหมายและความสำคัญของวันมาฆบูชาโดยสรุปแล้ว ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญทุกท่านทั่วโลกร่วมกันปฏิบัติเป็นพุทธบูชาด้วยการ ทำทาน รักษาศีล สวดมนต์และเจริญภาวนา พร้อมจุดโคมประทีปเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ในวันมาฆบูชาโดยพร้อมเพรียงกันครับ.
🔰ที่มา:
1. มหาปทานสูตร พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม 2 ภาค 1
2. เวบไซต์กัลยาณมิตร, เวบไซต์ dmc.tv, และบทความธรรมะต่างๆ
ขอบคุณ : การ์ดภาพสวยๆ และบทความ จาก JMC Johannessburg Meditation Center