วันนี้ผมดีจัยมากที่ได้กอดน้องชายของผมแน่นๆ มันเป็นกอดที่เติมความชื่นใจให้ผมอย่างเต็มคาราเบล เหมือนคนที่กำลังจมน้ำแล้วได้โผล่หัวพ้นน้ำขึ้นมาหายใจ
อันที่จริง “กอด” ไม่ได้เป็นอะไรที่น่าแปลกประหลาดเท่าไหร่นักหรอก แต่ถ้ามันเป็นกอดที่มาในเวลาที่คุณต้องการมันจะเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ และผมก็ได้รับกอดมาวันนี้ในเวลาที่ดีที่สุดของผมเพราะมันเป็นเวลาที่ผมต้องการมากที่สุดและมันก็มาจากคนที่ดีที่สุดในชีวิตผม จริงๆ นี่คือทั้งหมดของความสุขที่อยากส่งต่อให้ผู้อ่านทุกท่านเลยครับ แต่ถ้าอยากรู้ว่าอะไรทำให้กอดนี้มีความหมายสำหรับผม ลองอ่านต่ออีกนิดนะครับ
ผมมีน้องชายหนึ่งคนเราอายุห่างกัน 6 ปี ก็ไม่ได้น้อยแต่ก็ไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่นัก เราโตมาด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน พวกเราสนิทกันและรักสนุกมากขนาดเรียนอยู่ ม.3 ละยังวิ่งไล่แปะรอบบ้านกันอยู่เลยตอนนั้นนะผมยังคิดในใจว่าเออหรือว่าเราจะเป็นแบบนี้ไปจนอายุ 40 ปีเลยเป่าวะ! แต่ก็เอาเถอะตอนเราเด็กๆ ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามความสนุกสนานของความคิดนั่นแหละ เราเริ่มๆ มาห่างกันตอนที่ผมเข้ามหาวิทยาลัยต่างคนต่างก็แยกไปใช้ชีวิตแต่ก็ยังกลับบ้านมาเจอกันบ้างแต่ผมจะอยู่หอพักนักศึกษาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อไหร่ได้กลับมาบ้านก็จะไปทำกิจกรรมกันในวันเสาร์หรืออาทิตย์ อ่อ…ลืมเล่าไปนิดนึงว่าช่วงมัธยม 4 ของผม ผมมีแฟนแหละและก็เริ่มๆ ห่างๆ กะน้องชายตั้งแต่ตอนนั้นและก็ยิ่งห่างไปอีกตอนอยู่มหาวิทยาลัยอย่างที่เล่าไปเมื่อครู่นี้
ใจของผมกำลังเผชิญวิกฤตทางความรู้สึกที่สำหรับผมแล้วมันคือความเครียดจนนอนไม่หลับและเพิ่งจะผ่านช่วงเวลานั้นมาเมื่อคืนนี้เองวันนี้เลยได้แวะไปหาน้องชายเพื่อหวังว่าจะระบายความเครียดให้ใครซักคนฟังและผมก็ตัดสินใจถูกเพราะว่า “Share happiness is a double happiness but share the sorrow is a half sorrow” จริงๆ คุยกันตั้งแต่แปดโมงครึ่งยันบ่ายสาม จริงๆ ผมหวังแค่จะขอแวะไปนอนก่อนจะขับรถไปทำธุระต่อซักหน่อยก็เท่านั้นเอง แต่อย่างที่บอกการคุยกันครั้งนี้มันทำให้ความรักของสองพี่น้องฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ผมที่เป็นคนมักจะกดความรู้สึกเก็บเอาไว้จัดการคนเดียวก็ถึงจุดน้ำตาแตกกะแค่น้องขายเดินเข้ามากอดแน่นๆ แบบไม่ปล่อย สรุปน้ำตาแตกด้วยกันทั้งคู่ 555
กอดนี่มันดีจริงๆ เลยครับ… ถ้าคุณมีใครซักคนที่เป็นคนที่รักคุณแวะไปเค้าและกอดกันแน่นๆ ดูนะครับครั้งนี้มันช่วยผมมากๆ ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่เหลือใครหรือนึกไม่ออกว่าใครผมขอส่งกอดแน่นๆ ไปให้คุณที่อ่านมาถึงจุดนี้และขอให้พลังบวกทั้งหมดที่ผมมีช่วยให้คุณก้าวข้ามผ่านความทุกข์ที่สุดของคุณไปให้จงได้นะครับ
รักคุณที่กำลังคนอ่านมากๆ เลยครับ
คิดถึงกอดของน้องจัง
อันที่จริง “กอด” ไม่ได้เป็นอะไรที่น่าแปลกประหลาดเท่าไหร่นักหรอก แต่ถ้ามันเป็นกอดที่มาในเวลาที่คุณต้องการมันจะเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ และผมก็ได้รับกอดมาวันนี้ในเวลาที่ดีที่สุดของผมเพราะมันเป็นเวลาที่ผมต้องการมากที่สุดและมันก็มาจากคนที่ดีที่สุดในชีวิตผม จริงๆ นี่คือทั้งหมดของความสุขที่อยากส่งต่อให้ผู้อ่านทุกท่านเลยครับ แต่ถ้าอยากรู้ว่าอะไรทำให้กอดนี้มีความหมายสำหรับผม ลองอ่านต่ออีกนิดนะครับ
ผมมีน้องชายหนึ่งคนเราอายุห่างกัน 6 ปี ก็ไม่ได้น้อยแต่ก็ไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่นัก เราโตมาด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน พวกเราสนิทกันและรักสนุกมากขนาดเรียนอยู่ ม.3 ละยังวิ่งไล่แปะรอบบ้านกันอยู่เลยตอนนั้นนะผมยังคิดในใจว่าเออหรือว่าเราจะเป็นแบบนี้ไปจนอายุ 40 ปีเลยเป่าวะ! แต่ก็เอาเถอะตอนเราเด็กๆ ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามความสนุกสนานของความคิดนั่นแหละ เราเริ่มๆ มาห่างกันตอนที่ผมเข้ามหาวิทยาลัยต่างคนต่างก็แยกไปใช้ชีวิตแต่ก็ยังกลับบ้านมาเจอกันบ้างแต่ผมจะอยู่หอพักนักศึกษาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อไหร่ได้กลับมาบ้านก็จะไปทำกิจกรรมกันในวันเสาร์หรืออาทิตย์ อ่อ…ลืมเล่าไปนิดนึงว่าช่วงมัธยม 4 ของผม ผมมีแฟนแหละและก็เริ่มๆ ห่างๆ กะน้องชายตั้งแต่ตอนนั้นและก็ยิ่งห่างไปอีกตอนอยู่มหาวิทยาลัยอย่างที่เล่าไปเมื่อครู่นี้
ใจของผมกำลังเผชิญวิกฤตทางความรู้สึกที่สำหรับผมแล้วมันคือความเครียดจนนอนไม่หลับและเพิ่งจะผ่านช่วงเวลานั้นมาเมื่อคืนนี้เองวันนี้เลยได้แวะไปหาน้องชายเพื่อหวังว่าจะระบายความเครียดให้ใครซักคนฟังและผมก็ตัดสินใจถูกเพราะว่า “Share happiness is a double happiness but share the sorrow is a half sorrow” จริงๆ คุยกันตั้งแต่แปดโมงครึ่งยันบ่ายสาม จริงๆ ผมหวังแค่จะขอแวะไปนอนก่อนจะขับรถไปทำธุระต่อซักหน่อยก็เท่านั้นเอง แต่อย่างที่บอกการคุยกันครั้งนี้มันทำให้ความรักของสองพี่น้องฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ผมที่เป็นคนมักจะกดความรู้สึกเก็บเอาไว้จัดการคนเดียวก็ถึงจุดน้ำตาแตกกะแค่น้องขายเดินเข้ามากอดแน่นๆ แบบไม่ปล่อย สรุปน้ำตาแตกด้วยกันทั้งคู่ 555
กอดนี่มันดีจริงๆ เลยครับ… ถ้าคุณมีใครซักคนที่เป็นคนที่รักคุณแวะไปเค้าและกอดกันแน่นๆ ดูนะครับครั้งนี้มันช่วยผมมากๆ ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่เหลือใครหรือนึกไม่ออกว่าใครผมขอส่งกอดแน่นๆ ไปให้คุณที่อ่านมาถึงจุดนี้และขอให้พลังบวกทั้งหมดที่ผมมีช่วยให้คุณก้าวข้ามผ่านความทุกข์ที่สุดของคุณไปให้จงได้นะครับ
รักคุณที่กำลังคนอ่านมากๆ เลยครับ