อัพเดทราคาหุ้น TFEX และทองคำ 1/03/2023

สวัสดีครับ เพื่อนๆ นักเทรด และพี่น้อง TFEXCLUB ทุกๆคน วันนี้จะมีข่าวอะไรทีน่าสนใจบ้างเรา ไปติดตามกันเลยครับ !! 

ราคาทองวันนี้ 28 ก.พ. ขยับขึ้น 100 บาท รูปพรรณขายออก 30,700 บาท

Credit by : ราคาทองวันนี้ (28 ก.พ.) ขยับขึ้น 100 บาท รูปพรรณขายออก 30,700 บาท (msn.com)


ข่าวเด่นประจำวัน !!

HANA ราคาวิ่งแรง วอลุ่มทะลัก สวน “ธนชาต” เชียร์ “ขาย” เป้าหมาย 44 บาท หลังไตรมาส 4 กำไรออกมาต่ำกว่าคาด . 

ราคาหุ้นของบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA วันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง จนมีมูลค่าซื้อขายมากสุดในตลาดฯ ส่วนทางนักวิเคราะห์ออกมาให้คำ “ขาย” ให้ราคาเป้าหมายแค่ 44 บาท หลังจากไตรมาส 4/65 กำไรไม่เป็นไปตามคาด . 

สะท้อนจากมุมมองนักวิเคราะห์บล.หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนะนำ “ขาย” ให้ราคาเป้าหมาย 44 บาท
หลังจากไตรมาส 4/65 กำไรไม่เป็นไปตามคาด โดยกำไรสุทธิของ HANA อยู่ที่ 1,075 ล้านบาท ในไตรมาส 4/65 หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ประมาณการกำไรปกติที่ 553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42%
จากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว แต่ลดลง 34% จากไตรมาสก่อน ผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด. 

ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 68 บาท คาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 2.6 พันล้านบาท โต 4.4%จากปีก่อน คาดหน่วยธุรกิจ SiC จะเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วยหนุนให้ผลประกอบการยังประคองตัวได้จากปีก่อน แม้เผชิญ Recession อย่างไรก็ตามจะพิจารณาความเหมาะสมของประมาณการอีกครั้ง
หลังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหารในการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 3 มี.ค. 66 . 

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 1/66 เบื้องต้นคาดกำไรปกติลดลงจากไตรมาสก่อน จากยอดขายชะลอและค่าเงินบาท/USD ที่แข็งค่า กดดัน GPM แต่คาดกำไรปกติเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานต่ำ ในไตรมาส 1/65 . 

ส่วนประเด็น HANA มีมติขอ General Mandate เพื่อออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 80.5 ล้านหุ้น หรือ 10% ของจำนวนหุ้นเดิม มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะเสนอขายให้บุคคลในวงจำกัด (PP) ซึ่งราคาเพิ่มทุนจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 อิงราคาเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกัน แต่ไม่เกิน 15 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพื่อจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในแต่ละครั้ง และมีระยะเวลาการเพิ่มทุนภายใน 1 ปี . 

ขณะที่ในเอกสารแจ้งตลาดฯ ระบุ วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนว่า เพื่อรองรับแผนการลงทุนขยายกิจการ ซึ่งหากการเสนอขาย PP สำเร็จ จะทำให้เกิด Dilution ไม่เกิน 10% อย่างไรก็ดี เนื่องจากการเพิ่มทุนดังกล่าวจะต้องขออนุมัติจาก
ผู้ถือหุ้นก่อน ทำให้ยังไม่ได้ใส่ผลกระทบจาก Dilution ไว้บนประมาณการ 

#หุ้น #News #HANA #ข่าวหุ้น #WealthyThai





ดาวโจนส์ปิดร่วง 232 จุด กังวลดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบเศรษฐกิจ


Credit by : ดาวโจนส์ปิดร่วง 232 จุด กังวลดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบเศรษฐกิจ (msn.com)



วิเคราะห์ข่าว ฟันธง ฟันธง !

นักวิเคราะห์!ฟันธง “เงินบาทไม่อ่อนค่าแล้ว” ชี้หุ้นส่งออก-หุ้นอาหาร ไม่น่าสนใจ เหตุผลประกอบการไม่ฟื้นตัวตาม . 

------------------------------------------------------


ในช่วงต้นปีค่าเงินบาทเคยแข็งค่าแตะระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยและตลาดตราสารหนี้ แต่ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาแตะระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อตลาดหุ้นไทย นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์แบบไหน Wealthy Thai มีมุมมองจากนักวิเคราะห์มาฝาก . 

------------------------------------------------------
 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ โดยปีก่อนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งมีต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นการที่ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เป็นระดับที่ห่างจากค่าเฉลี่ยต้นทุนของนักลงทุนต่างชาติไม่มาก . 

------------------------------------------------------
 

โดยประเมินกรอบค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.50 – 35.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่น่าจะอ่อนค่ามากไปกว่านี้แล้ว ทั้งนี้ เริ่มเห็นการขายปรับพอร์ตตราสารหนี้ชะลอตัวลง โดยเช้าวันนี้ (28 ก.พ. 66) เห็นแรงซื้อในตราสารหนี้เข้ามาบางส่วน จึงเป็นสัญญาณว่าการปรับพอร์ตไม่ได้เยอะแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนต่างชาตินั้น ทำให้คาดว่าจะเห็นภาพเชิงบวกในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ระดับ 1,645 จุด และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,690 จุด . 

------------------------------------------------------
 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ธีมการลงทุนในปี 2566 อาจแตกต่างจากปีก่อน โดยจะเน้นกลุ่มหุ้นที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศ เช่น MAKRO, CPALL และ BJC, MAJOR ที่ยังได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวในประเทศไม่มาก .

------------------------------------------------------
 

 รวมถึงหุ้นกลุ่มสินเชื่ออย่าง TIDLOR, AMANAH ที่คาดว่าความสามารถในการชำระหนี้ของผู้บริโภคน่าจะดีขึ้น, ADVANC ที่น่าสนใจมากขึ้นจากการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC ซึ่งทำให้การแข่งขันในตลาดลดลง และSAMART ที่ผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัว รวมถึงแผนการนำบริษัทย่อย SAV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ . 

------------------------------------------------------
 

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอาจทำให้การลงทุนในธีมหุ้นส่งออกหรือหุ้นอาหารโดดเด่นขึ้นมา แต่นักลงทุนต้องมีความระมัดระวัง เพราะแม้หุ้นกลุ่มอาหารและหุ้นส่งออกจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า แต่ในแง่ผลประกอบการไม่ได้ฟื้นตัวตาม เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ในปี 66 อาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปอยู่ในระดับสูงเหมือนปีก่อน ประกอบการแนวโน้มค่าเงินบาทอาจไม่ได้อ่อนค่าลงไปมากกว่านี้แล้ว ดังนั้นจึงมองว่าธีมการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลบวกจากบาทอ่อนในขณะนี้ไม่ได้น่าสนใจ .

------------------------------------------------------
 

 ด้านนักวิเคราะห์จากบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ค่าเงินบาทเดือนในเดือนก.พ. 66 อยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่ามาแล้ว 6.5% จากเดือนก่อนหน้า และอ่อนค่ามากกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคเอเชียที่ 3.5% จากเดือนก่อนหน้า โดยถูกกดดันจากทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในโดยเฉพาะการเร่งตัวขึ้นของ DollarIndex จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดและผลของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่หนุนให้กระแสเงินไหลเข้าพักในดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้น ขณะที่ปัจจัยภายในถูกกดดันจาก GDP ไตรมาส 4/65 และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่น่าผิดหวัง . 

------------------------------------------------------
 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินทิศทางค่าเงินบาทจะมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีโอกาสกลับมาแข็งค่าระยะสั้นเพราะที่ระดับปัจจุบันใกล้เคียงต้นทุนเฉลี่ยของต่างชาติทั้งในส่วนของค่าเงินและการถือครองหุ้นแล้วประกอบกับ DollarIndexและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี ของสหรัฐฯ กำลังทดสอบแนวต้านสาคัญที่เป็นจุดสูงสุดเดิม 105 จุดและ 2.80% ตามลำดับ . 

------------------------------------------------------
 

หากเงินบาทชะลอการอ่อนค่าเราคาดว่าจะช่วยจำกัด Downside ของ SET INDEX ไม่ให้หลุดบริเวณ 1,620 จุด ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดแรง Short Covering ในกลุ่มที่ต่างชาติขายไปมากตามมาโดยกลุ่มที่ NVDR ขายสุทธิมากที่สุดในเดือนก.พ. 66 คือ พลังงาน, ธนาคารพาณิชย์, ขนส่ง, ไฟแนนซ์,อสังหาริมทรัพย์, ปิโตรเคมี รวมถึงกลุ่มค้าปลีกในบางบริษัท ซึ่งเมื่อพิจารณาประกอบกับยอด SBL ที่เร่งตัวขึ้น และภาพทางเทคนิคที่กราฟราคาหุ้นปรับฐานลงมาลึก คาดว่าจะเห็นแรงซื้อคืนระยะสั้นใน KBANK, SCB, GPSC, RATCH, IRPC, SCGP, ADVANC, AOT เป็นต้น 
------------------------------------------------------
 

#หุ้น #ค่าเงินบาท #ภาวะตลาดหุ้น #WealthyThai







แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่