สินค้าปรับราคาขึ้น แบกต้นทุนไม่ไหว กระทบร้านกาแฟโบราณ จ่อขยับทุกเมนู 30 บาท
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7532138
 
 
ราชบุรี สินค้า อุปโภค บริโภค ประกาศปรับขึ้นราคา 1 มี.ค. ต้นทุนเพิ่มขึ้น 20% กระทบ ร้านกาแฟโบราณ รอดูสถานการณ์ หากแบกไม่ไหว จ่อขยับราคาขึ้นทุกอย่าง 30 บาท
 
27 ก.พ. 66 – สินค้า อุปโภค บริโภค หลายรายการ น้ำตาลทราย นมข้นหวาน น้ำหวาน และก๊าซ LPG ประกาศปรับขึ้นราคา มีผล วันที่ 1 มี.ค. 66 ที่จะถึงนี้
  
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยได้พูดคุยกับ น.ส.ศิวาพร แพงลาด เจ้าของร้าน “ป๋าทรง” จำหน่ายกาแฟโบราณและเครื่องดื่ม ในตลาดห้วยกระบอก ต.กรับใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบ
  
น.ส.ศิวาพร เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายเครื่องดื่มมาแล้ว 15 ปี สำหรับเครื่องดื่มที่จำหน่ายประกอบด้วย กาแฟโบราณ นมเย็น โอเลี้ยง ชาดำ ชานม โกโก้ ชามะนาว และชาเขียว โดยเมนูทั้งหมดล้วนมีส่วนประกอบของ น้ำตาล น้ำหวาน นมข้นหวาน และนมสด
  
ก่อนหน้านี้ ผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ท้องตลาดมีการปรับราคาต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ทั้งเมล็ดกาแฟ น้ำตาลทรายแดง นมข้นหวาน นมสด น้ำหวาน และก๊าซ LPG รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์อย่างถุงพลาสติกและถุงกระดาษ ตนจึงจำใจปรับราคาจำหน่ายเครื่องดื่มแบบไม่ใส่นม จากเดิมที่ถุงละ 20 บาท เป็น 25 บาท และแบบใส่นมจาก 25 บาท เป็น 30 บาท
  
แต่แล้วข่าวร้ายก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อสินค้าวัตถุดิบหลักของทางร้านจะขยับราคาขึ้นในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ซึ่งในเบื้องต้น ตนยังไม่แน่ใจว่าราคาสินค้าจะปรับขึ้นไปเท่าไหร่ จึงคิดว่าจะทนแบกรับภาระต้นทุนไว้เอง แล้วขายเครื่องดื่มในราคาเท่าเดิมไปก่อน เพื่อรักษาฐานของลูกค้าไว้
  
แต่หากราคาต้นทุนขยับขึ้นไปมากกว่าที่จะรับไหว ตนอาจจะจำเป็นต้องปรับราคาขายขึ้นเป็นเมนูน้ำทุกอย่าง 30 บาท
 
ทั้งนี้ อยากฝากรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาต้นทุนการผลิตอย่างเร่งด่วน เพราะหากผู้ประกอบการร้านค้าแบกรับไม่ไหว ผลกระทบก็จะตกอยู่กับผู้บริโภคต่อไป
 

---

หมอมนูญข้องใจ ทำไมไทยไม่มียารักษาวัณโรครวมเม็ด แต่กัมพูชากลับมี
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3845821
 
หมอมนูญข้องใจ ทำไมไทยไม่มียารักษาวัณโรครวมเม็ด แต่กัมพูชากลับมี
 
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กชื่อ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ว่า
 
ยารวมเม็ดรักษาวัณโรคไม่ใช่ยาใหม่ มีใช้ในประเทศไทยมานานหลายสิบปี ไม่เข้าใจว่าทำไมปัจจุบันประเทศไทยไม่มียาต้านวัณโรคที่มียาหลายชนิดผสมในเม็ดเดียวกันตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2564
 
ยารวมเม็ดมีประโยชน์ ช่วยลดจำนวนเม็ดในการกินยา ลดความคลาดเคลื่อนของการได้รับยา ลดโอกาสเกิดเชื้อวัณโรคดื้อยาภายหลังการรักษา
ขณะที่ยาต้านไวรัสเอชไอวี แต่ก่อนต้องกินหลายชนิดแยกเม็ด ปัจจุบันคนไข้ส่วนใหญ่ได้ยารวมเม็ดแล้ว ทำให้กินง่ายสะดวกขึ้น
คนไข้ของผมมาจากประเทศเขมรได้ยารักษาวัณโรค 4 ชนิด Isoniazid, Rifampicin, Pyrazinamide, Ethambutol (IRZE) รวมในเม็ดเดียวกัน (ดูรูป) กินวันละ 3-4 เม็ด แล้วแต่น้ำหนักตัว คนไทยขณะนี้ต้องกินยารักษาวัณโรค 4 ชนิด บางชนิด 3 เม็ด บางชนิด 2 เม็ด รวมกันแล้ว 8-9 เม็ดต่อวัน แล้วแต่น้ำหนักตัว
 
ทำไมประเทศเขมรจึงมียารักษาวัณโรครวมเม็ด แต่ไทยไม่มี จำได้ไหมเมื่อต้นปีที่แล้ว ประเทศเขมรก็มียาโมลนูพิราเวียร์ไว้ใช้รักษาโรคโควิด-19 ก่อนหน้าประเทศไทยหลายเดือน

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0oFXWD9NQMKeCeoVWEHgsPwPF8P1dBaLL8AL9eCVosazCb2PiqpgWJUMUw9H156pEl&id=100066692243273

---

"พ.ต.อ.ทวี" เผย "ฝ่ายค้าน" จ่อยื่นศาลรธน.ปมออก พ.ร.ก.ชะลอใช้กม.อุ้มหาย ชี้หากสภาฯไม่อนุมัติ "นายกฯ" ต้องลาออก-ยุบสภา
https://siamrath.co.th/n/426533

วันที่ 27 ก.พ.2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีที่สภาฯ เตรียมพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญัติ (พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการทรมาณและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ในวันพรุ่งนี้ (28 กุมภาพันธ์) ว่า พรรคฝ่ายค้านจะรอฟังเหตุผลของรัฐบาลถึงการออกพ.ร.ก.เพื่อให้ชะลอการบังคับใช้ มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 และ มาตรา 25  ของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาณและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ออกไปว่ามีเหตุผลความจำเป็นใด  ทั้งนี้ยอมรับว่าฝ่ายค้านได้หารือในขั้นตอนเเตรียมการ ต่อการเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยถึงเหตุจำเป็นเร่งด่วนต่อการออกพ.ร.ก.ดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป ทั้งนี้ฝ่ายค้านจะติดตามการชี้แจงและการอภิปรายเหตุผลของรัฐบาลก่อน หากจะตัดสินใจอย่างใดนั้น จะเกิดขึ้นภายในวันประชุม
 
พ.ต.อ. ทวี กล่าวด้วยว่าสำหรับเหตุผลของการออก พ.ร.ก. ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เคยชี้แจงกับสภาฯ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เหตุผลที่เหมาะสม และสะท้อนความขี้เกียจของรัฐบาล ดังนั้นการชี้แจงต่อสภาฯ อีกครั้งตนหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ควรมาชี้แจงด้วยตัวเอง ในความเห็นส่วนตัวมองว่าการออก พ.ร.ก.ดังกล่าว อาจมีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการใช้อำนาจรัฐในการควบคุมตัวบุคคล  ผู้ควบคุมสามารถข่มขู่ ขู่เข็ญ เพื่อแสวงหาในสิ่งที่มิชอบได้ ซึ่งคาบเกี่ยวในช่วง 6 เดือนที่มีการเลือกตั้ง
 
เมื่อถามถึงกรณีการพิจารณาหากสภาฯไม่อนุมัติ รัฐบาลหรือนายกฯควรรับผิดชอบอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทราบว่า ส.ส.ฝั่งรัฐบาลบางส่วนมีความไม่เห็นด้วยเช่นกัน ดังนั้นต้องรอดูการลงมติแต่หากสภาฯไม่อนุมัติสิ่งรัฐบาลต้องดำเนินการ มี 2 ทาง คือ ยุบสภาหรือ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย เพราะที่ผ่านมาแม้มีเหตุการณ์ที่นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบ กลับหลีกเลี่ยงการปฏิบัติ